Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
นมัสการมาตาปิตุคุณและนมัสการอาจริยคุณ นางสาวสนิสา หมัดโส๊ะ ม ๔/๗ เลขที่…
นมัสการมาตาปิตุคุณและนมัสการอาจริยคุณ
นางสาวสนิสา หมัดโส๊ะ ม ๔/๗ เลขที่ ๓๕
ประวัติของผู้แต่ง
พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) เกิดวันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๓๖๕ เป็นผู้แต่งตำราภาษาไทย และเป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาไทยแก่เจ้านายในสมัยรัชกาลที่ ๕ ท่านถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๔ รวมสิริอายุได้ ๖๘ ปี
ความเป็นมาของเรื่อง
บทนมัสการมาตาปิตุคุณ และบทนมัสการ อาจริยคุณ เป็นบทประพันธ์ของพระยาศรีสุนทร โวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ที่ต้องการสั่งสอนและ ปลูกฝังให้เยาวชนในฐานะที่เป็นลูกและศิษย์มีความ กตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่ อันได้แก่ บิดา มารดา และครูอาจารย์ เพราะความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี
วัตถุประสงค์ในการแต่ง
เพื่อปลูกฝังคุณธรรมและตระหนักถึงความกตัญญูกตเวที
ลักษณะคำประพันธ์ของเรื่อง
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ หมายถึง ฉันท์ที่มีลีลาอันรุ่งเรืองงดงามประดุจสายฟ้า ซึ่งเป็นอาวุธของพระอินทร์ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ นิยมใช้ในการแต่งข้อความซึ่งเป็นบทชม บทคร่ำครวญ และใช้แต่งเป็นบทพากย์โขน
พระยาศรีสุนทรโวหารเรียกฉันท์ที่ใช้ในการแต่งบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจารยคุณว่า “อินทะวะชิระฉันท์” แต่โดยทั่วไปเรียกว่า “อินทรวิเชียรฉันท์” ซึ่งมีการบังคับครุและลหุ แต่ผู้แต่งคือพระยาศรีสุนทรโวหารเลือกให้ความสำคัญกับเนื้อหา โดยเลือกสรรคำที่ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ความรู้สึก และใช้สำหรับเป็นบทบูชาสรรเสริญมากกว่าการแต่งให้ถูกฉันทลักษณ์ อย่างไรก็ตาม เพื่อน ๆ ก็สามารถอ่านให้ถูกฉันทลักษณ์ได้ เช่น คำว่า ชนนี สามารถอ่านว่า ชะ-นะ-นี เป็นต้น
เนื้อเรื่องย่อทั้งเรื่องนมัสการมาตาปิตุคุณ
จะกล่าวถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของบิดามารดาที่ต้องเหนื่อยเลี้ยงดูจนลูกเติบโต
เนื้อเรื่องย่อทั้งเรื่องนมัสการอาจริยคุณ
จะกล่าวถึงพระคุณของครูอาจารย์ที่สั่งสอนให้ความรู้แก่ศิษย์ ซึ่งเราควรรำลึกถึงพระคุณของบิดามารดาตลอดจนครูอาจารย์
บทประพันธ์ที่รู้สึกประทับใจ 1 บทจากเรื่องนมัสการมาตาปิตุคุณ
ฟูมฟักทะนุถนอม บ บำราศนิราไกล แสนยากเท่าไร ๆ บ คิดยากลำบากกาย
เนื่องจากบทประพันธ์นี้มีความหมายที่ดี คือ พ่อแม่คอยดูแล ทะนุถนอม ไม่ยอมห่างเลย แม้จะยากลำบากแค่ไหนก็ทนได้ ซึ่งสื่อให้เห็นว่าพ่อแม่รักเรามากแค่ไหน
วิเคราะห์คุณค่าจากเรื่องนมัสการมาตาปิตุคุณและนมัสการอาจริยคุณ
การเลือกสรรคำ
เช่น ชนก ชนนี และ โอบเอื้อ เจือจุน
การใช้ภาพพจน์
คือ อุปลักษณ์
เช่น ชนนี
คือ
ภูผา
การเล่นเสียง
การเล่นเสียงพยัญชนะ เช่น
ข้าขอ
นบชนกคุณ
การเล่นเสียงสระ เช่น
ตราก
ทน
ระ
คน
ทุกข์
การซ้ำคำ
เช่น ก็
บ่
เทียบ
บ่
เทียมทัน
ด้านวรรณศิลป์
ด้านเนื้อหา
การลำดับความได้ชัดเจน คำนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณมีการลำดับเนื้อหาอย่างเหมาะสม ชัดเจน โดยในคำนมัสการมาตาปิตุคุณ มีการกล่าวถึงบทบาทหน้าที่ของพ่อแม่ที่คอยเลี้ยงดูลูกจนเติบใหญ่ ตลอดจนความยิ่งใหญ่ของบุญคุณของพ่อแม่ และปิดท้ายด้วยการการสอนให้เด็ก ๆ รู้จักกตัญญูรู้คุณต่อผู้ให้กำเนิด
มีการสอนจริยธรรม จะเห็นได้ว่า บทเรียนเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่เพื่อน ๆ นำไปใช้ได้จริง ด้วยการรู้จักสำนึกในพระคุณของบิดามารดาและครูอาจารย์ นับเป็นการใช้บทประพันธ์เพื่อปลูกฝังจริบธรรมได้เป็นอย่างดี
สังเคราะห์ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนมัสการมาตาปิตุคุณและนมัสการอาจริยคุณ
๑. บิดามารดาเป็นพรหมของบุตร ทำหน้าที่อบรมสั่งสอนและเลี้ยงดูบุตรจนเติบโต ดังนั้นผู้ที่เป็นบุตรจึงควรสำนึกในบุญคุณของท่านทั้งสอง และปฏิบัติต่อท่านเพื่อให้ท่านมีความสุขทั้งกายและใจ
๒. ครูอาจารย์เป็นผู้อบรมสั่งสอนศิษย์ต่อจากบิดามารดา ทำให้ศิษย์มีความรู้ สามารถนำไปใช้ดำเนินชีวิต ดังนั้นผู้ที่เป็นศิษย์จึงควรยกย่องและเคารพเชื่อฟังคำสั่งสอนของครู
การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
1.กตัญญูกตเวที
2.ช่วยเหลือพ่อแม่
เชื่อฟังคำสั่งสอน
นำความรู้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์