Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมสุขภาพวัยเตาะแตะ และวัยก่อนเรียน, นางสาวซูฟียะห์ อาแว…
การส่งเสริมสุขภาพวัยเตาะแตะ
และวัยก่อนเรียน
การสร้างเสริมสุขภาพด้านร่างกาย
การป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคด้วยวัคซีน
การส่งเสริมดูแลรักษาสุขภาพฟัน
• พยาบาลควรแนะนำให้ผู้ดูแลแปรงฟันให้เด็กอย่างถูกวิธี
• พ่อแม่และครูจึงควรส่งเสริมสุขภาพช่องปากและฟันโดยการส่งเสริมให้เด็กแปรงฟันด้วยยาสีฟันเด็กที่ผสมฟลูออไรด์
• พาเด็กไปพบทันตะแพทย์ทุกหกเดือนเพื่อประเมินสุขภาพช่องปากเคลือบฟลูออไรด์
การส่งเสริมด้านโภชนาการ
• เด็กวัย 1-3 ปีต้องการพลังงาน 100 กิโลแคลอรี/น้ำหนักร่างกาย 1 กิโลกรัม/วัน
• เด็กวัย 4-6 ปีต้องการพลังงาน 85 กิโลแคลอรี่/น้ำหนักร่างกาย 1 กิโลกรัม/วัน
• เด็กควรดื่มน้ำมากกว่า 100 มิลลิลิตร/น้ำหนัก 1 กิโลกรัม
การสร้างเสริมสุขลักษณะการนอนที่ดี
• จัดเวลานอนเวลาตื่นให้เป็นกิจวัตรสำหรับเด็ก
• ไม่ทำกิจกรรมอื่นๆในห้องนอน
• อย่าบ่นหรือวุ่นวายกับพฤติกรรมการไม่นอนของเด็กมากเกินไป
การปรับปรุงพฤติกรรมปัสสาวะรดที่นอน
• ไม่ใส่ผ้าอ้อมให้เด็กตลอดเวลา
• ฝึกให้บอกเมื่อต้องการขับถ่าย
• ฝึกให้มีการกลั้นปัสสาวะ
• ให้เด็กถ่ายปัสสาวะก่อนเข้านอน
• ต้องปลุกให้เด็กตื่นเต็มที่ก่อนจะพาเข้าห้องน้ำ
การส่งเสริมการหัดเดินด้วยกันเลือกรองเท้าที่เหมาะสม
1.เลือกหัวรองเท้าแบบป้าน ช่วยให้นิ้วเท้าไม่ถูกบีบ
2.พื้นรองเท้าควรจะเรียบกว้างมีความยืดหยุ่นดี น้ำหนักเบาและไม่ลื่น
3.สายคาดควรเป็นแบบที่สามารถเคลื่อนเข้าเคลื่อนออกให้กระชับพอดี
4.คุณภาพของฝีมือในการตัดเย็บจะต้องประณีต ตะเข็บต้องไม่หนาและไม่กดรัดนิ้มเท้า
5.ควรสวมรองเท้าแล้วลองเดินเพื่อให้แน่ใจว่าสวมได้พอดี
การป้องกันอุบัติเหตุ
• สอนให้เด็กหลีกเลี่ยงการปีนป่ายที่สูงการเล่นบนบันได
• เด็กอายุ 18 เดือน สามารถสอนให้หลีกเลี่ยงแหล่งน้ำ
• ควรให้เด็กอยู่ในสายตาตลอดเวลาดูแลใกล้ชิด
• สร้างความตระหนักในความเสี่ยงแก่ผู้ดูแลเด็กเพื่อให้ผู้ดูแลเด็กวัยต่ำกว่า 3 ปีให้การดูแลเด็กในระยะมองเห็นและคว้าถึงได้ตลอดเวลา
การสร้างเสริมสุขภาพด้านจิตใจ
การปรับพฤติกรรมเด็กเจ้าอารมณ์
• เริ่มแก้ที่ผู้ใหญ่
• ฝึกให้ลูกควบคุมอารมณ์
• คัดกรองสื่อต่างๆ
•อย่าตามใจลูกทุกเรื่อง
•ให้ลูกออกกำลังกาย
การสร้างเสริมวุฒิภาวะทางอารมณ์ (Emotional Quotient, EQ)
• การให้ความรัก สิ่งใดที่เด็กสนใจพ่อแม่ควรให้ความสำคัญ
• การใช้โอกาสให้เกิดประโยชน์ ต้องใช้ความใกล้ชิดสนิทสนมในการสอนให้เด็กเรียนรู้เรื่องอารมณ์
• การเรียนรู้ร่วมกัน พยายามสังเกตความรู้สึกเด็กจากพฤติกรรมสะท้อนและสรุปประเด็น และหาแง่มุมอื่นมาอธิบายเพิ่มเติม
• การไม่ปิดกั้นความรู้สึก ฝึกให้เด็กบอกความรู้สึกของตนเองอย่างเหมาะสม
• เรื่องธรรมดาที่ต้องพอดีพยายามบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องธรรมดา
การสร้างเสริมสุขภาพด้านสังคม
การพัฒนาการเล่น
• ช่วง 0-3 ปีควรให้ความสำคัญต่อเรื่องการเล่นเพราะในช่วงวัยดังกล่าวเป็นช่วงที่เด็กกำลังพัฒนาประสาทสัมผัสทั้งห้า
• เด็กวัย 1-2 ปีวัยนี้เหมาะกับการของเล่นที่เสริมพัฒนาการทางกล้ามเนื้อ การทรงตัว เช่น รถลากจูงเล็กๆ ของเล่นไขลาน แท่งไม้หรือพลาสติก ของเล่นที่บีบกด หรือขยำ เพื่อฝึกหัดจับและขีดเขียนเสริมทักษะกล้ามเนื้อมือ
• เด็กวัย 2-3 ปี เพิ่มทักษะการเรียนรู้เรื่องรอบตัว เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเข้าโรงเรียน ส่งเสริมการใช้กล้ามเนื้อต่างๆ ให้สัมพันธ์และคล่องแคล่วมากขึ้น
• ช่วงวัย 4-6 ปี วัยนี้เรียนรู้เรื่องรอบตัวที่กว้างขึ้นและมีปฏิสัมพันธ์กับคนนอกบ้านมากขึ้น
• ส่งเสริมการใช้กล้ามเนื้อต่างๆคล่องแคล่วมากขึ้น
• ทักษะการทรงตัวกล้ามเนื้อมือขาที่ประสานกันการ
• การได้เล่นเป็นกลุ่มช่วยเด็กเรียนรู้ทักษะด้านสังคมด้วย
นางสาวซูฟียะห์ อาแว 632111011