Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Water and acid base balance สมดุลของน้ำและกรด ด่างในร่างกาย, นางสาวศิรภา…
Water and acid base balance
สมดุลของน้ำและกรด ด่างในร่างกาย
การได้รับน้ำและการสูญเสียน้ำ
Water gain จาก
food,drink (2.2L/day),
Metabolism (0.3 L/day)
Water loss จาก
skin,lung =Insensible water loss(0.9 L/day),
Urine (1.5 L/day) , Faces (0.1 L/day)
Body fluid balance
Osmolality ความเข้มข้นของน้ำ
(เกี่ยวกับความเข้มข้นของ Na+ ในplasma)
การควบคุมความเข้มข้นของน้ำ มี 2 กลไก
กลไกทาง Hormone เกี่ยวกับ ADH
ADH มีหน้าที่กระตุ้นการดูดซึมน้ำกลับสู่กระแสเลือดที่ท่อไตรวม ช่วยรักษาสมดุลน้ำในร่างกาย
ถ้าขาด ADH จะเป็นโรคเบาจืด จะปัสสาวะบ่อยเนื่องจากท่อหน่วยไตดูดกลับน้ำได้น้อยลง
ถ้าเกิดจากเซลล์ที่สร้างฮอร์โมนในระบบประสาท เรียกโรคเบาจืดชนิดนี้ว่า Neurogenic DI (central) ความผิดปกติอยู่ใน hypothalamus
ถ้าเกิดจากเซลล์ที่สร้างปกติแต่ผิดปกติในการสร้างตัวรับที่ท่อไตฝอย เรียกเบาจืดชนิดนี้ว่า Nephrogenic DI ความผิดปกติอยู่ใน renal tubule
กลไกทางThirsty center ศูนย์ควบคุมการกระหายน้ำ
Volume ปริมาตรของน้ำ
(เกี่ยวกับการรักษาสมดุลของ Na+)
การควบคุมปริมาตรของน้ำมี 2 อย่าง
ทางฮอร์โมน : RAAS , ANP
RAAS
(Renin Angiotensin system)
เป็นระบบในการตอบสนองของร่างกายต่อภาวะหัวใจล้มเหลว และภาวะความดันโลหิตสูง เนื่องจากมีผลกระทบต่อวามดันโลหิต ปริมาณโลหิต ระดับเกลอแร่ในร่างกายและความด้านทานหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
ANP
(Atrial natriuretic peptide)
ANP หลั่งจากหัวใจห้องบนถูกกระตุ้นโดยการขยายตัวของปริมาตรของเลือด ยืด Atria. ANP ทำให้ปริมาณเลือดกลับสู่ภาวะปกติ เช่นการขับโซเดียม เพิ่มขึ้น
Natriuretic peptides
Action of Kidney
เพิ่มโซเดียมและการขับน้ำ:
-ยับยั้ง RAAS -เพิ่ม GFR -ยับยั้ง renal SNS
Action of Heart
-ลด Cardiac load reduction
-ยับยั้ง Hypertrophy
-ยับยั้ง Fibrosis
Action of Vascular system
-Vasodilation ทำให้หลอดเลือดขยาย
-Hypotensive effects การลดความดันเลือด
-Angiogenic efects ทำให้มีการงอกของเส้นเลือดเล็กๆเชื่อมต่อกันภายในหลอดเลือดใหญ่
Action of Nervous system
-ยับยั้ง sympathetic -กระตุ้นการทำงานของ parasympathetic
ควบคุมโดย neural control : sympathetic nerve activity
Acid-Base balance
ค่า pH ปกติในร่างกาย
ในเลือดแดง (arterial blood) ~ 7.4
ในเลือดดำ(venous blood) และในinterstitial fluid ~7.35
ใน Intracellular fluid ~7.0
วัดค่าใน arterial blood ค่า pH มากกว่า 7.45 จะมีภาวะ
Alkalosis or alkalemia /ภาวะที่เป็นด่าง
ถ้า pH ต่ำว่า 7.35 จะมีภาวะ Acidisis or acidemia
Forces related to fluid exchange in body compartment
แรงที่ทำให้น้ำเคลื่อนที่เข้าออกได้ คือ
1.Hydrostatic pressure
2.Osmotic pressure
ภาวะที่มีน้ำขังอยู่ระหว่าเซลล์ คือ Edema ภาวะบวมน้ำ
Edema จะมี Hydrostatic pressure มากกว่า Osmotic pressure
สาเหตุของ Edema คือ
-ความดันเลือดสูง -สูญเสียอัลมูมินในปัสสาวะ
-หลอดน้ำเหลืองอุดตัน -ผนังหลอดเลือดผิดปกติ
กรดที่ได้จากกระบวนการ metabolism ได้กรด 2 ประเภท
1.Volatile acid เป็นกรดที่กำจัดออกทางปอด
: CO2<H2O+CO2< >H2CO3
2.Non volatile acid กำจัดออกทางไต
: H2SO4, H2PO4, HCL
Metabolism คือ อาหารที่กินเข้าไป ย่อยจนเกิดสารอาหาร สารอาหารถูกดูดซึม นำไปใช้ในกระบวนการ metabolism
อาหารที่ให้พลังงาน เช่น
ประเภทกรด
Protein โปรตีน
: Complete การเผาไหม้สมบูรณ์
= เกิดกรด H2SO4 ,H2PO4 ,HCL
Fat ไขมัน
: Complete การเผาไม้สมบูรณ์
= CO2 และ H2O
: Incomplete การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์
= เกิดกรด ketone
CHO คาร์โบไฮเดรต
: Complete การเผาไหม้สมบูรณ์
= CO2 และ H2O
: Incomplete การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์
= คนที่เป็นโรคเบาหวานเผาผลาญ CHO ไม่สมบูรณ์
ทำให้เกิด กรด lactic บางประเภทเกิด กรด ketone
ประเภทด่าง
Anion amino
ได้แก่ aspartate, glutamate
ทำให้เกิด base
Organic aminos ได้แก่ Citrate
Food ได้แก่ ผักและผลไม้
Buffer
คือ สารละลายของกรดอ่อนกับเกลือของกรดอ่อน / ด่างอ่อนกับเกลือของด่างอ่อน
สมบัติของบัฟเฟอร์คือ ต้านการเปลี่ยนแปลงของ pH เมื่อเติมกรดหรือด่างเข้าไป บัฟเฟอร์จะทำให้กรดหรือด่างที่เติมไปอ่อนลง
สารละลายที่จะเป็นบัฟเฟอร์ที่ดีขึ้นอยู่กับ
ปริมาณของบัฟเฟอร์
ค่า pK ของบัฟเฟอร์
ค่า pK จะมีประสิทธิภาพที่ดีเมื่อ ค่า pK ต้องมีค่าใกล้เคียงกับ pH ของสารละลาย
pK คือ pH ของบัฟเฟอร์มีรูปที่แตกตัวของกรดอ่อนหรือด่างอ่อน และรูปที่ไม่แตกตัวกรดอ่อนหรือด่างอ่อนอย่างละเท่ากัน
นางสาวศิรภา ไม้สุพร เลขที่23 ห้อง 1B
ที่มา
file:///C:/Users/Asus/Downloads/TAB000125486736c%20(5).pdf
http://119.46.166.126/self_all/selfaccess12/m6/696/b1/item11.php