Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
:star:การพยาบาลผู้ใหญ่เกี่ยวกับการจัดการกับความเจ็บปวด :star:,…
:star:
การพยาบาลผู้ใหญ่เกี่ยวกับการจัดการกับความเจ็บปวด
:star:
:red_flag:กลไกการเจ็บปวด
มี 4 กลไก
1.มีการกระตุ้นปลายประสาทรับความรู้สึก เมื่อเนื้อเยื่อร่างกายถูกทําลายหรือมีบาดเจ็บเกิดขึ้น
2.การนําสัญญาณความปวดที่ระดับไขสันหลัง ทําให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
3.การรับรู้ของสมอง ทําให้เกิดความรู้สึกปวด และยับยั้งการให้ลดการเคลื่อนไหวบริเวณที่รู้สึกปวด
4.การยับยั้งสัญญาณปวดที่สมอง สามารถยับยั้งได้ 2 ทาง
ยับยั้งในระดับสมอง
ยับยั้งในระดับไขสันหลัง
มี 2 ทฤษฎี
Gate Control Theory
Endophins
:red_flag:ชนิดของความเจ็บปวด
แบ่งตามระยะเวลาที่เกิด
ความปวดเฉียบพลัน (Acute Pain) เป็นความปวดที่เกิดขึ้นในช่วงระยะสั้น ๆ
ความปวดเรื้อรัง (Chronic Pain) ความปวดที่เกิดขึ้นอย่างตลอดเวลา โดยมีระยะเวลาเป็นเดือน มากกว่า 6 เดือน หรือเป็นปี มักเกิดจากความเจ็บปวดที่ต่อเนื่องหรือโรคเรื้อรัง
ความปวดจากโรคมะเร็ง (Cancer Pain) ถือว่าเป็นความปวดเรื้อรังชนิดหนึ่งแต่ถูกแยกออกมาเพื่องง่ายต่อการจัดการความเจ็บปวดที่เหมาะสม ผู้ป่วยที่มีความปวดอย่างทรมานในระยะสุดท้ายของชีวิต
:red_flag:ผลกระทบจากการเจ็บปวด
ระบบโลหิตและระบบหายใจ
ความปวดจะกระตุ้นการทํางานของ Sympathetic nervous
system ทําให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูงหัวใจเต้นผิดจังหวะ เหงื่อออก ปอดแฟบ
ระบบต่อมไร้ท่อ
ความปวดทําให้ฮอร์โมนที่ตอบสนองต่อความเครียดหลั่งมากขึ้น มีการสลายไขมันมากขึ้น ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และการ
สังเคราะห์โปรตีนเพิ่มขึ้น
ระบบกล้ามเนื้อ
ความปวดทําให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง การเคลื่อนไหวลดลง ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการเคลื่อนไหวลดลง
ระบบย่อยอาหาร
ความปวดทําให้ลําไส้เคลื่อนไหวน้อยลง ส่งผลให้มีอาการท้องอืดได้
ระบบทางเดินปัสสาวะ
ความปวดทําให้กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะทํางานน้อยลง ส่งผลให้ปัสสาวะไม่ออกเกิดการคั่งค้างของปัสสาวะ และมีโอกาสติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะได้
ด้านจิตใจและจิตสังคม
ความปวดทําให้เกิดความวิตกกังวล นอนไม่หลับ และซึมเศร้าได้
ระบบภูมิคุ้มกัน
ความปวดจะกระตุ้นกระบวนการอักเสบ
ลดภูมิคุ้มกันของร่างกาย ส่งผลให้แผลหายช้าลง และมีโอกาสติดเชื้อเพิ่มขึ้น
:red_flag:การประเมินความเจ็บปวด
มาตราวัดความปวดแบบตัวเลข : NRS
เป็นมาตรวัดที่มีการกําหนดตัวเลขแสดงความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 0
คือไม่ปวดเลย จนถึง 10 หมายถึงปวดมากที่สุด (Severe pain)เหมาะกับผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไป
มาตราวัดวามปวดด้วยสายตา : VAS
เป็นมาตรวัดที่มีลักษณะแนวเส้นตรงในแนวนอน มีความยาวเท่ากับ 10เซนติเมตร เริ่มจากซ้ายมือ คือไม่ปวดเลย (No Pain) ไปขวาสุด คือปวดมาก
ที่สุด (Unbearable pain/ most pain) มาตรนี้เหมาะกับผู้ป่วยอายุ 5 ปีขึ้นไป
มาตราวัดความปวดด้วยใบหน้า : FPS
เป็นมาตรวัดที่มีรูปใบหน้าที่ตรงกับความรู้สึกปวดในระดับต่าง ๆเหมาะสําหรับ
ผู้ป่วยเด็กอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปหรือผู้ใหญ่ที่มีข้อจํากัดด้านการสื่อสาร
การประเมินความปวดจากการสังเกตพฤติกรรม
เป็นการสังเกตพฤติกรรม 3 อย่าง
การแสดงสีหน้า(Facial Expression)
การขยับแขน (Upper Limps)
การเปลี่ยนแปลงการหายใจ (Compliance with Ventilator)
การประเมินทางสรีรวิทยาที่ตอบสนองต่อความเจ็บปวด
เป็นมาตรวัดที่สร้างขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของร่างกายจากการที่ความปวดกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติค จึงมีการประเมิน 5ด้าน
การแสดงออกทางสีหน้า (face)
การเคลื่อนไหวร่างกาย (activity/ movement)
การเกร็งกล้ามเนื้อ(guarding)
ลักษณะทางสรีรวิทยา/ สัญญาณชีพ(physiology/ vitalsigns)
การหายใจ (respiratory)
:red_flag:การบรรเทาอาการปวดแบบไม่ใช้ยา
Psychological therapy
การให้ข้อมูล
การผ่อนคลายและมุ่งเน้นความสนใจ
การสะกดจิต
การปรับเปลี่ยนวิธีการคิดและพฤติกรรม
Physical therapy
ประคบร้อนประคบเย็น
การกดจุดและการนวด
กระตุ้นด้วยไฟฟ้า
การฝังเข็ม
:red_flag:การบรรเทาอาการปวดแบบใช้ยา
ยาในกลุ่ม Non- opioids
Adjuvant anagesic
ใช้เพื่อร่วมบําบัดความปวด
Paracetamol
เป็นยาแก้ปวดลดไข้แต่ไม่ลดการอักเสบ ใช้ในกรณีปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง
NSAIDS
ใช้ในการระงับปวดหลังผ่าตัดแล้วยังลดการอักเสบ
Opioid แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
Opioids ที่มีฤทธิ์อ่อน
Codeine
Tramadal
Opioids มีฤทธิ์แรง
Pethidine
Morphine
Fentanyl
นางสาวอมรทิพย์ มีสีผ่อง ปี2 เลขที่ 108