Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

🔬🩺🦠IMMUNOLOGY🩸🧪🌡 E448E98C-D8EC-4957-A84C-9DFB00CE9C99,…

- - - - กำจดเซลล์เม็ดเลือดที่มีอายุมากๆ
      - ทำลาย tumor cells เพื่อป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
- - - - ไวรัส
      - เชื้อรา
      - แบคทีเรีย
      - ปรสิต
  - - - คอยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามาทำอันตรายต่อร่างกาย
      - ระบบภูมิคุ้มกันจะพยายามทำลายและกำจัดสิ่งแปลกปลอมให้หมดไปจากร่างกายโดยเร็วและอย่างมีประสิทธิภาพ
        
        อาศัอาศัยการทำงานร่วมกัน
        
        The innate immune system (non-specific)
        
        The adaptive immune system (specific)
- - - - สร้างจาก thymus gland
      - หน้าท่ีต่อต้านส่ิงแปลกปลอมการติดเชื้อและเซลล์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเช่นเซลล์มะเร็ง เซลล์ติดเชื้อไวรัส
    - - ทำหน้าที่ผลิต immunoglobulin หรือ antibody
      - สร้างจาก bursa equivalent tissues
    - - ทำหน้าที่ทำลายเซลล์มะเร็งและเซลล์ติดเชื้อไวรัส
- - - - ระบบภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิด
        ไม่มีความจำเพาะเจาะจงกับชนิดของเชื้อโรค
        ไม่จำเป็นต้องได้รับโรคนั้นมาก่อน
        
        Phagocytosis
        
        กำจัดสิ่งแปลกปลอมโดยการจับกินเชื้อโรค
        
        Inflammatory response
        
        การเคลื่อนย้ายของphagocyticcellมายังบริเวณที่มีส่ิงแปลกปลอม
        
        อาการ >> ปวด บวม แดง ร้อน
        
        Barrier (body’s defenses)
        
        ต่อมไขมัน (sebaceous glands)
        
        Normal flora
        
        รูขุมขน (Hair follicles)
        
        ผิวหนัง (Skin)
        
        Mucous from Respiratory, GI tract, Genitourinary tract
        
        Fever
        
        ผลจากการหลั่งสารtumornecrosisfactor(TNF)จากเซลลม์ะเร็ง
        
        เพื่อตอบสนองเชื้อจุลินทรีย์
        
        สมองจะปรับ(reset)อุณหภูมิในร่างกายให้สูงขึ้น>>เกิดอาการไข้>>มีผลยับยั้งการแบ่งเซลล์จุลนินทรีย์
        
        ผลจากการหลั่งสารเช่นInterleukin-1(IL-1),Interleukin-6(IL-6)
        
        Interferon (IFN)
        
        โปรตีนที่หลั่งจากเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส
        
        ทำหน้าที่กระตุ้นเซลล์ให้ผลิตantivirusprotein
        
        Complement
        
        กลุ่มของโปรตีนในplasma(ประมาณ25ชนิด) ส่วนใหญ่สร้างจากตับ
        
        ทำหน้าที่ทำลายเซลล์เเละหลั่งสารเคมี
    - - ระบบภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายเคยได้รับเชื้อโรคนั้นมาก่อน
        ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันและสร้างภูมิคุ้มกันที่มีความจำเพาะกับชนิดของโรค
        
        Cellmediatedimmuneresponse(CMIR)
        เซลล์ที่รับผิดชอบ คือ T-lymphocyte (T-cell) และ Macrophage
        
        Suppressor T-lymphocyte (TS)
        
        ควบคุมT-cellและB-cellไม่ให้ทำงานมากเกินไป
        
        Memory T-lymphocyte (TM)
        
        เป็นเซลล์ที่มีอายุยืน
        
        เมื่อสัมผัส Ag ซ้า TM จะแบ่งตัวเพิ่มจำนวน อย่างรวดเร็ว
        
        ทำหน้าที่จดจำAg
        
        Delayed hypersensitivity T-lymphocyte (TD)
        
        ควบคุมการทำงานของT-cellและB-cell
        
        Killer (cytotoxic) T-lymphocyte (TK)
        
        ทำลายเซลล์ที่มีAgเกาะอยู่บนผิวแล้วทำใหเ้ซลล์แตก
        
        Helper T-lymphocyte (TH)
        
        ช่วยให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
        
        ช่วย B-lymphocyte สร้าง Ab หรือ Ig
        
        Humoral immune response (HIR)
        เซลล์ที่รับผิดชอบ คือ B-lymphocyte (B-cell) และ plasma cell
        อาศัยการทำงานของantibody(Ab)หรือImmunoglobulin(Ig)
        (การตอบสนองโดยใช้สารน้ำ).
        
        Antibody (Ab) / Immunoglobulin (Ig)
        สามารถทำปฏิกิริยาได้กับAntigen(Ag)หรือเชื้อโรคต่างๆอย่างจำเพาะ พบในกระแสเลือด และสารคัดหลั่ง
        สร้างจาก B-lymphocyte (B-cell)
        
        Immunoglobulin M (IgM)
        
        ทารกในครรภ์สร้างได้เมื่ออายุ20สัปดาห์
        
        มีบทบาทสาคัญในการทำลายGramnegativebacteria
        
        พบ 10 % (ผ่านรกและผนัง หลอดเลือดไม่ได้)
        
        IgMมีระดับสูงข้ึนเมื่อพบการติดเชื้อระหว่างการตั้งครรภ์
        
        Immunoglobulin D (IgD)
        
        พบน้อยในเลือด(น้อยกว่า1%)
        
        ช่วยในการสร้างmemoryB-cell
        
        Immunoglobulin A (IgA)
        
        พบใน:ทางเดินอาหารทางเดินหายใจเนื้อเยื่อทางเดิน ปัสสาวะ น้ำลาย น้ำตา น้ำนม
        
        หน้าที่:ป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย
        
        พบ 10-15 % (รองจาก IgG)
        
        Immunoglobulin E (IgE)
        
        พบน้อยที่สุดประมาณ(0.001%)
        
        เก่ียวข้องกับปฏิกิริยาภูมิแพ้โดยจับกับMastcellและBasophil
        
        หน้าที่:ทำลายเชื้อปรสิต เชื้อพยาธิและพบในผู้ที่มีภาวะภูมิไวเกินชนิดท่ี1
        
        Immunoglobulin G (IgG)
        
        มีมากที่สุดในเลือด(70-75%)
        
        เคลื่อนตัวผ่านรกได้
        
        หน้าที่:ป้องกันการติดเชื้อ