Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วย 5 การเปลี่ยนแปลง - Coggle Diagram
หน่วย 5 การเปลี่ยนแปลง
1.การเปลี่ยนสถานะของสสาร
การเปลี่ยนสถานะของสสารเป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เมื่อเพิ่มความร้อนให้กับสสารถึงระดับหนึ่งจะทำให้สสารที่เป็นของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว และเมื่อเพิ่มความร้อนต่อไปจนถึงอีกระดับหนึ่งของเหลวจะเปลี่ยนเป็นแก๊ส เรียกว่า การกลายเป็นไอ แต่เมื่อลดความร้อนถึงระดับหนึ่งแก๊สจะเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น และถ้าลดความร้อนต่อไปอีกจนถึงระดับหนึ่งของเหลวจะเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การแข็งตัว
สาระสำคัญ
สสารที่อยู่รอบตัวเรามีหลายชนิด สสารแต่ละชนิดที่พบในชีวิตประจำวันอาจมีสถานะเป็นของแข็ง ของเหลว หรือแก๊ส ซึ่งสสารอาจเปลี่ยนจากสถานะหนึ่งไปเป็นอีกสถานะหนึ่งได้ โดยอาศัยการเพิ่มหรือลดความร้อนให้แก่สสารไปจนถึงระดับหนึ่ง เรียกว่า การเปลี่ยนสถานะ
การหลอมเหลว เป็นการเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นของเหลว โดยเมื่อเพิ่มความร้อนให้กับสสารที่อยู่ในสถานะของแข็งจนถึงระดับหนึ่งจะทำให้สสารนั้นเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นของเหลว
การกลายเป็นไอ เป็นการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นแก๊ส โดยเมื่อเพิ่มความร้อนให้กับสสารที่อยู่ในสถานะของเหลวจนถึงระดับหนึ่งจะทำให้สสารนั้นเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นสถานะแก๊ส เรียกว่าการกลายเป็นไอ ซึ่งแบ่งได้ 2 กระบวนการ ได้แก่ การระเหย เป็นการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวที่อยู่บริเวณผิวหน้าไปเป็นแก๊ส และการเดือด เป็นการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวโดยเพิ่มความร้อนจนถึงจุดเดือดจนเป็นแก๊ส
การควบแน่น เป็นการเปลี่ยนสถานะจากแก๊สเป็นของเหลว โดยเมื่อลดความร้อนให้กับสสารที่อยู่ในสถานะแก๊สจนถึงระดับหนึ่งจะทำให้สสารนั้นเปลี่ยนสถานะจากแก๊สเป็นของเหลว
การแข็งตัว เป็นการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นของแข็ง โดยเมื่อลดความร้อนให้กับสสารที่อยู่ในสถานะของเหลวจนถึงระดับหนึ่งจะทำให้สสารนั้นเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นของแข็ง
การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของสสาร และการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของสสาร ต่างกัน โดยการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของสสาร จะไม่ทำให้เกิดสารใหม่ และทำให้สารนั้นกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของสสาร จะทำให้เกิดสารใหม่ และทำให้กลับมาเป็นสารเดิมได้ยากหรือไม่ได้
-
การเปลี่ยนสถานะของสสารเป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ โดยอาศัยความร้อนเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งเมื่อมีการเพิ่มหรือลดความร้อนให้กับสสารในระดับหนึ่งจะทำให้สสารเกิดการเปลี่ยนแปลงสถานะ แต่สสารนั้นสามารถกลับคืนสู่สถานะเดิมได้อีกครั้งเมื่อมีการลดหรือเพิ่มความร้อน
สถานะของสสารมีด้วยกัน 3 สถานะ ได้แก่ ของแข็ง ของเหลว แก๊ส ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสถานะทางกายภาพของสสาร จะต้องอาศัยความร้อนเป็นปัจจัยสำคัญ โดยกระบวนการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสารมีด้วยกันหลายกระบวนการ ได้แก่ การหลอมเหลว การกลายเป็นไอ การควบแน่น และการแข็งตัว
2.การระเหิด
สสารบางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นแก๊สโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิด ส่วนแก๊สบางชนิดสามารถเปลี่ยนแปลงสถานะเป็นของแข็งโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิดกลับ
สาระสำคัญ
การระเหิด เป็นการเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นแก๊ส โดยเมื่อเพิ่มความร้อนให้กับสสารที่อยู่ในสถานะของแข็งบางชนิดจนถึงระดับหนึ่งจะทำให้สสารนั้นเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นแก๊ส โดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว
การระเหิดกลับ เป็นการเปลี่ยนสถานะจากของแก๊สเป็นของแข็ง โดยเมื่อลดความร้อนให้กับสสารที่อยู่ในสถานะแก๊สบางชนิดจนถึงระดับหนึ่งจะทำให้สสารนั้นเปลี่ยนสถานะจากแก๊สเป็นของแข็ง โดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว
-
สรุปได้ว่า กระบวนการเปลี่ยนสถานะของสสารจากของแข็งเป็นแก๊ส โดยอาศัยปัจจัยหลักคือการเพิ่มความร้อน เรียกว่า การระเหิด และกระบวนการเปลี่ยนสถานะของสสารจากแก๊สเป็นของแข็ง โดยอาศัยปัจจัยหลักคือ การลดความร้อน เรียกว่า การระเหิดกลับ
ปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้น ซึ่งเรียกว่า ภาวะโลกร้อน (Global Warming) นั้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสสาร โดยทำให้น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเกิดกระบวนการหลอมเหลว ซึ่งผลต่อการเพิ่มปริมาณน้ำในมหาสมุทรบริเวณขั้วโลก และอาจทำให้น้ำท่วมได้
3.การละลายของสารในน้ำ
เมื่อใส่สารลงในน้ำแล้วสารนั้นรวมเป็นเนื้อเดียวกับน้ำทั่วทุกส่วน แสดงว่าสารเกิดการละลาย เรียกสารผสมที่ได้ว่าสารละลาย
สาระสำคัญ
การละลายเป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของสารที่เกิดขึ้นจากการนำสารใส่ลงในน้ำ แล้วสารนั้นผสมรวมกับน้ำอย่างกลมกลืนจนมองเห็นเป็นเนื้อเดียวกันทุกส่วน โดยสารที่ได้ยังคงเป็นสารเดิม เรียกว่า สารละลาย โดยสารต่างๆ อาจอยู่ในสถานะของแข็ง ของเหลว หรือแก๊ส ซึ่งสารบางชนิดละลายน้ำได้ ส่วนสารบางชนิดไม่สามารถละลายน้ำได้ แต่สามารถละลายในสารละลายอื่นได้แทน
การละลายของสารในน้ำทำให้เกิดสารละลาย ซึ่งเป็นสารเนื้อเดียว โดยในสารละลายจะมีองค์ประกอบ 2 ส่วน คือ ตัวทำละลายและตัวละลาย โดยสารที่มีปริมาณมากกว่าและมีสถานะเดียวกับสารละลาย เรียกว่า ตัวทำละลาย และสารที่มีปริมาณน้อยกว่า เรียกว่า ตัวละลาย
-
สารชนิดอื่นที่ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายได้เช่นเดียวกับน้ำ เช่น แอลกอฮอล์ โดยสามารถละลายลูกเหม็นหรือเชลแล็ก (Shellac) ได้
การละลายของสารในน้ำ คือ การนำสารชนิดหนึ่งซึ่งมีสถานะเป็นของแข็ง ของเหลว หรือแก๊ส มาผสมกับน้ำ แล้วสารชนิดนั้น สามารถผสมรวมเป็นสารเนื้อเดียวกันกับน้ำได้ทุกส่วน โดยเราเรียกสารผสมที่เกิดขึ้นว่า สารละลาย โดยมีน้ำเป็นตัวทำละลาย และสารที่นำมาผสมกับน้ำเป็นตัวละลาย
สรุปได้ว่า การละลายของสารในน้ำ คือ การที่สารชนิดหนึ่งสามารถผสมรวมตัวกับน้ำอย่างกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน เรียกว่า สารละลาย โดยสารละลายที่ได้ยังคงมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับสารเดิม
สารที่สามารถละลายในน้ำได้ เช่น เกลือ เกล็ดด่างทับทิม น้ำตาลทรายแดง แอลกฮอล์ แก๊สออกซิเจน แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ สีผสมอาหาร
-
-
-