Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Immunology - Coggle Diagram

- - - - สิ่งแวดล้อม
      - โครงสร้างทางสรีระของร่างกาย
      - อายุ
      - Normal flora
      - พันธุกรรม
    - - โรคภูมิต้านทานเนื้อเยื้อตัวเอง
      - โรคภูมิบกพร่อง
      - ภาวะถูมิไวเกิน
      - โรคที่เกิดจากการเพิ่มจำนวนเชลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน
  - - - Defense:ป้องกันและทำลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม
      - Homeostasis:คอยกำจักเชลล์ปกติที่เสื่อมสภาพเช่น กำจัดเชลล์เม็ดเลือดที่มีอายุมาก
      - Surveillance:คอยดักทำลายเชลล์ต่างๆที่แปรสภาพผิดไปจากปกติ เช่น ทำลาย tumor cells เพื่อป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
  - - - -neutrophill
        -eosinophil
        -basophil
        -basophill
      - Human Blood Leukocytes
        
        Hematopoietic stem cell (hemocytoblast)
        
        เชลล์ต้นกำเนิดของเชลล์ต่างๆ ในกระแสเลือด พบในไขกระดูก 0.5-1%
        
        เพิ่มจำนวลมาแล้วจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด WBC
      - Neutrophil
        ปริมาณที่พบในกระแสเลือด 40-70%
        เชลล์เป้าหมาย เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา
      - Eosinophil
        ปริมาณที่พบในกระแสเลือด 1-6%
        เชลล์เป้าหมาย เขื้อปรสิต เชื้อพยาธิ เนื้อเยื้อที่เกิดอาการแพ้
      - Basophil
        ปริมาณที่พบในกระแสเลือด น้อยกว่า1%
        เชลล์เป้าหมาย เนื้อเยื้อที่เกิดอาการแพ้
      - Lymphocyte
        ปริมาณที่พบในกระแสเลือด 20-40% (ขนาดเล็ก เก่งสุด)
        เชลล์เป้าหมาย เชื้อแบคทีเรีย เชลล์ที่ติดเชื้อไวรัส เชลล์มะเร็ง
        
        1.NK cell
        เป็นเชลล์นักฆ่า
        ทำหน้าที่ ทำลายเชลล์มะเร็ง และ เชลล์ติดเชื้อ
        
        2.T-cell
        สร้างจาก thymus gland
        มีบทบาทสำคัญ ; ต่อต้านสิ่งแปลกปลอม การติดเชื้อ และเชลล์ที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น เชลล์มะเร็ง เชลล์ติดเชื้อไวรัส (เฉพาะที่จำได้ว่าเป็นเชลล์ผิดปกติ
        
        3.B-cell
        สร้างจาก bursa equivalent tissues
        ทำหน้าที่ผลิต immunoglobulinหรือatibody(Ab)กำจัด(Ag)
      - Monocyte
        ปริมาณที่พบในกระแสเลือด 2-6%
        เชลล์เป้าหมาย ; หลากหลาย
      - Macrophage
        Monocyte>>เคลื่อนที่จากเลือดไปอยู่ในเนื้อเยื่อ เช่น ตับ ม้าม ไขกระดูก ต่อมน้ำเหลือง สมอง ต่อมไทมัส ผนังถึงลม >>เปลื่ยนเป็น Macrophageอายุ หลายปี
      - Mast cell กับ Basophil
        ทำหน้าที่ กำจัด Histamine
        มีบทบาทสำคัญในภาวะภูมิไวเกินชนิดที่1 แพ้อากาศ,แพ้กุ้ง,แพ้ขี้ผึ้ง
- - - - 1.Barriers
        
        Skin:เป็นกำแพงกันเชื่อโรคเข้าสู่ร่างกายโดยตรง
      - 2.Phagocytosis
        
        เป็นกระบวนการจับกินเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมโดย WBC
      - 3.Inflammatory response
        
        การตอบสนองที่เกิดขึ้นเมื่อมีจุลชีพหรือสิ่งแปลกปลอมของร่างกาย
        บริเวณจะมีลักษณะจำเพราะ คือ ปวด บวม แดง ร้อน
      - 4.Fever
        
        สมองจะปรับ (reset) อุณหภูมิในร่างกายให้สูงขึ้น >>เกิดอาการไข้>>มีผลยับยั้งการแบ่งเชลล์จุลินทรีย์
      - 5.Interferot(IFN)
        
        โปรตีนที่หลั่งจากเชลล์ที่ติดเชื้อไวรัส สร้างขึ้นเพื่อฆ่าเชื้อไวรัส
      - 6.Complement
        
        กลุ่มของโปรตีนพลาสม่า ส่วนใหญ่สร้างจากตับ
    - - -ระบบภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิด
        -ไม่มีความจำเพราะเจาะจง
        -ไม่ตำเป็นต้องได้รับเชื้อโรคนั่นมาก่อน
    - - -การทำงานเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
        -การตอบสนองแบบไม่จำเพราะ
        -ไม่ตอบสนองเพิ่มขึ้นมื่อติดเชื้อเดิม
  - - - เกิดขึ้นเมื่อร่างกายเคยได้รับเชื้อมาก่อน
        ระบบภูมิคุ้มกันจดจำและสร้างภูมิคุ้มกันที่มีความจำเพราะกับชนิดของโรคนั่น
    - - -การทำงานเกิดขึ้นช้า
        -การตอบสนองแบบจำเพราะ
        -การติบสนองเพิ่มขึ้นเมิ่อมีการติดเชื้อเดิม
    - - เชลล์ที่รับผิดชอบคือ T-lymphocyte (T-cell) และ Macrophage ทำงานร่วมกัน
        **CMIRทำงานโดย T-cell
        
        Helper T-lymphocyte (TH) *Hห้อย
        •ช่วย B-lymphocyte สร้าง Ab หรือ Ig
        •ข่วยให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
        
        Suppressor T-lymphocyte (Ts)
        •ควบคุม T-cellและB-cellไม่ให้ทำงานมากเกินไป
        
        Killer (cytotox) T-lymphocyte (Tk)
        •ทำลายเชลล์ที่มี Ag เกาะอยุ่บนผิว แล้วทำให้เชลล์แตก
        
        Delayed hypersensitivity T-lymphocyte (TD)
        •ควบคุมการทำงานของ T-cellและB-cell
        
        Memory T-clymphocyte (Tm)
        •ทำหน้าที่จดจำ Ag
        •เป็นเชลล์ที่มีอายุยืน
        •เมื่อสัมผัส Agช้ำ Tmจะแบ่งตัวเพิ่ม จำนวนอย่างรวดเร็ว
    - - เชลล์ที่รับผิดชอบคือ B-lymphocyte(B-cell)และplasma cell **รับผิดชอบโดย B-cell
      - Antibody (Ab) immunoglobulin (Ig)
        •สามารถทำปฎิกิริยาได้กับ Ag หรือเชื้อโรคต่างๆอย่างจำเพราะ
        •สร้างจาก B-lymphocyte (B-cell)
      - Immunoglobulin G (IgG)
        •เคลื่อนตัวผ่านทารกได้
        •มีบทบาทในการป้องกันการติดเชื้อ
      - Immunogloolin A (IgA)
        •พบในทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ ทางเดินปัสวะ น้ำลาย น้ำตา น้ำนม
        •ป้องกันการติดเชื้อของแบคทีเรีย
      - Immunoglobulin M (IgM)
        ผ่านรกและผนังหลอดเลือดไม่ได้
        •เป็นตัวแรกที่ทารกในครรภ์สร้างได้เมื่ออายุ20สัปดาห์
        IgM มีระดับสูงขึ้น เมื่อพบการติดเชื้อระหว่างตั่งครรภ์ เป็นตัวแรกที่สร้างขึ้นหลังมีการกระตุ้ยภูมิคุ้มกัน แบบจำเพราะ specific
      - Immunoglobulin D (IgD)
        •ช่วยในการสร้าง memory B-cell
      - Immunoglobulin E (IgE)
        เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาภูมิแพ้ โดยจับกับ Mast cell และ Basophil
        •ทำหน้าทั่ ทำลายเชื้อปรสิต เชื้อพยาธิ และพบในผู้ที่มีภาวะภูมิไวเกินชนิดที่1