Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Immunology - Coggle Diagram
Immunology
เซลล์ที่สำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน
Lymphocyte
อายุ : หลายสัปดาห์ - หลายปี
เซลล์เป้าหมาย : เชื้อแบคทีเรีย เซลล์ที่ติดเชื้อ
ไวรัส เซลล์มะเร็ง
ปริมาณที่พบในประแสเลือด : 20-40 %
Lymphocyte
T-lymphocyte (T-cell)
สร้างจาก thymus gland
หน้าที่ ต่อต้านสิ่งแปลกปลอม การติดเชื้อ และเซลล์ที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น เซลล์มะเร็ง
เซลล์ติดเชื้อไวรัส
B-lymphocyte (B-cell)
สร้างจาก bursa equivalent tissues
ทำหน้าที่ผลิต immunoglobulin หรือ antibody
Natural killer cell (NK cell)
ทำหน้าที่ ทำลายเซลล์มะเร็ง และเซลล์ติดเชื้อไวรัส
Basophil
อายุ : หลายชั่วโมง – หลายวัน
เซลล์เป้าหมาย : เนื้อเยื่อที่เกิดอาการแพ้
ปริมาณที่พบในประแสเลือด : < 1 %
Monocyte
อายุ : หลายชั่วโมง – หลายวัน
เซลล์เป้าหมาย : หลากหลาย
ปริมาณที่พบในประแสเลือด : ประมาณ 2-6 %
Eosinophil
อายุ : 8-12 วัน
เซลล์เป้าหมาย : เชื้อปรสิต เชื้อพยาธิ
เนื้อเยื่อที่เกิดอาการแพ
ปริมาณที่พบในกระแสเลือด : ประมาณ 1-6 %
Macrophage
Monocyte >> เคลื่อนที่จากเลือดไปอยู่ใน เนื้อเยื่อ เช่น ตับ ม้าม ไขกระดูก ต่อมน้ำเหลือง สมอง ต่อมไทมัส ผนังถุงลม >> เปลี่ยนเป็น Macrophage
อายุ : หลายเดือน - หลายปี
เซลล์เป้าหมาย : หลากหลาย
Neutrophil
อายุ : 6 ชั่วโมง – หลายวัน
เซลล์เป้าหมาย : เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา
ปริมาณที่พบในประแสเลือด : ประมาณ 40-70 %
Mast cell
มีบทบาทสำคัญในภาวะภูมิไวเกินชนิดที่ 1
Hematopoietic stem cell (hemocytoblast)
พบในไขกระดูก 0.5 – 1 %
เซลล์ต้นกำเนิดของเซลล์ต่างๆ ในกระแสเลือด
ปฏิกิริยาการตอบสนองด้านภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อเชื้อจุลินทรีย์
ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อแบคทีเรีย
Extracellular bacteria
Innate immunity (non-specific) : Phagocytosis, Complement
Adaptive immunity (specific) : Antibody (IgM, IgG, IgA), CD4
T-cell
Intracellular bacteria เช่น ปอด
Neutrophil
Macrophage
NK cell
CD4 + T-cell
CD8 + T-cell
ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อรา
Human Blood Leukocytes : Neutrophil, Macrophage
Adaptive immunity (specific)
CD4 + T-cell
CD8 + T-cell
Antibody
ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส
Human Blood Leukocytes : Lymphocyte (NK cell)
Innate immunity (non-specific) : Interferon
Adaptive immunity (specific)
CD4 + T-cell
CD8 + T-cell
Antibody (IgA)
ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อปรสิต
Human Blood Leukocytes : Eosinophil, Mast cell
Adaptive immunity (specific) : Antibody (IgE)
Innate immunity (non-specific) : Phagocytosis, Complement
หน้าที่ของระบบภูมิคุ้มกัน
Defense
ป้องกันและทำลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม
Homeostasis
คอยกำจัดเซลล์ปกติที่เสื่อมสภาพ เช่น กำจัดเซลล์เม็ดเลือดที่มีอายุมาก
Surveillance
คอยดักทำลายเซลล์ต่างๆที่แปรสภาพผิดไปจากปกติ เช่น ทำลาย tumor cells เพื่อป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
ภูมิคุ้มกันและระบบภูมิคุ้มกัน
ภูมิคุ้มกัน
หมายถึง กระบวนการป้องกันร่างกายจากสิ่งแปลกปลอม หรือ antigen (Ag) เช่น เชื้อโรคต่างๆ
ไวรัส
เชื้อรา
แบคทีเรีย
ปรสิต
ระบบภูมิคุ้มกัน
ทำหน้าที่ คอยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามาทำอันตรายต่อร่างกาย
เมื่อหลุดเข้ามาแล้ว ระบบจะพยายามทำลายและกำจัดให้หมดไปจากร่างกายโดยเร็ว
อาศัยการทำงานร่วมกับ
The innate immune system (non-specific)
The adaptive immune system (specific)
ชนิดของระบบภูมิคุ้มกัน
Innate immunity (non-specific)
ระบบภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิด
ไม่จำเป็นต้องได้รับเชื้อโรคนั้นมาก่อน
ไม่มีความจำเพาะเจาะจงกับชนิดของเชื้อโรค
Barrier (body’s defenses)
ผิวหนัง (Skin)
ต่อมไขมัน (sebaceous glands)
รูขุมขน (Hair follicles)
Normal flora
Mucous from Respiratory, GI tract, Genitourinary tract
Phagocytosis
การกลืนกินของเซลล์
Inflammatory response
การเคลื่อนย้ายของ phagocytic cell มายังบริเวณที่มีสิ่งแปลกปลอม
อาการ >> ปวด บวม แดง ร้อน
Fever
ผลจากการหลั่งสาร เช่น Interleukin-1 (IL-1), Interleukin-6 (IL-6)
ผลจากการหลั่งสาร tumor necrosis factor (TNF) จากเซลล์มะเร็ง
เพื่อตอบสนองเชื้อจุลินทรีย
สมองจะปรับ (reset) อุณหภูมิในร่างกายให้สูงขึ้น >> เกิดอาการไข้ >> มีผลยับยั้งการแบ่งเซลล์จุลินทรีย์
Interferon (IFN)
ทำหน้าที่กระตุ้นเซลล์ให้ผลิต antivirus protein
ออกฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส
โปรตีนที่หลั่งจากเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส
Complement
กลุ่มของโปรตีนใน plasma (ประมาณ 25 ชนิด)
ส่วนใหญ่สร้างจากตับ
ทำหน้าที่สลายเซลล์และหลั่งสารเคมี
Adaptive immunity (specific)
Cell mediated immune response (CMIR)
เซลล์ที่รับผิดชอบ คือ T-lymphocyte (T-cell) และ Macrophage
Memory T-lymphocyte (TM)
เป็นเซลล์ที่มีอายุยืน
เมื่อสัมผัส Ag ซ้ า TM
จะแบ่งตัวเพิ่มจำนวน อย่าง
รวดเร็ว
ทำหน้าที่ จดจำ Ag
Suppressor T-lymphocyte (TS)
ควบคุม T-cell และ B-cell ไม่ให้ทำงานมากเกินไป
Delayed hypersensitivity T-lymphocyte (TD)
ควบคุมการทำงานของ T-cell และ B-cell
Killer (cytotoxic) T-lymphocyte (TK)
ทำลายเซลล์ที่มี Ag เกาะอยู่บนผิว แล้วทำให้เซลล์แตก
Helper T-lymphocyte (TH)
ช่วย B-lymphocyte สร้าง Ab หรือ Ig
ช่วยให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Humoral immune response (HIR)
เซลล์ที่รับผิดชอบ คือ B-lymphocyte (B-cell) และ plasma cell
อาศัยการทำงานของ antibody (Ab) หรือ Immunoglobulin (Ig) (การตอบสนองโดยใช้สารน้ำ)
Immunoglobulin G (IgG)
เคลื่อนตัวผ่านรกได้
หน้าที่ : การป้องกันการติดเชื้อ
มีมากที่สุดในเลือด (70-75 %)
Immunoglobulin A (IgA)
พบใน : ทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ เนื้อเยื่อทางเดินปัสสาวะ น้ำลาย น้ำตา น้ำนม
หน้าที่ : ป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย
พบ 10-15 % (รองจาก IgG)
Immunoglobulin M (IgM)
ทารกในครรภ์สร้างได้เมื่ออายุ 20 สัปดาห์
มีบทบาทสำคัญในการทำลาย Gram negative bacteria
พบ 10 % (ผ่านรกและผนังหลอดเลือดไม่ได้)
IgM มีระดับสูงขึ้น เมื่อพบการติดเชื้อระหว่างการตั้งครรภ์
Immunoglobulin D (IgD)
พบน้อยในเลือด (น้อยกว่า 1 %)
ช่วยในการสร้าง memory B-cell
Immunoglobulin E (IgE)
เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาภูมิแพ้ โดยจับกับ Mast cell และ Basophil
หน้าที่ : ทำลายเชื้อปรสิต เชื้อพยาธิ และพบในผู้ที่มีภาวะภูมิไวเกินชนิดที่ 1
พบน้อยที่สุด (ประมาณ 0.001%)
ชนิดของภูมิต้านทาน
Active immunity (สร้างเอง)
Natural active immunity : หลังติดเชื้อ
Artificial active immunity : วัคซีน toxoid
Passive immunity (รับมา)
Natural passive immunity : ทางรก น้ำนมจากแม่
Artificial passive immunity : เซรุ่มแก้พิษงู