Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจ - Coggle Diagram
การดูแลผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจ
การดูแลผู้ป่วยหายใจล้มเหลว
Air Way
ช่วยหายใจให้พอถ้าหายใจดีไม่ต้อง
ให้O2 ให้พอ Ventilation ดีไม่มากไม่น้อย
หาสาเหตุของโรคและแก้ไขปัญหา
อาการ
4.Respiratory Paradox หน้าอกและท้องไม่สัมพันธ์กัน
1.หายใจเร็วมากกว่า 30 หรือ น้อยกว่า 10
2.หายใจเบา ตื้น ( VT ลด )
3.ใช้กล้ามเนื้อช่วยหายใจมากขึ้น
– หายใจเข้า - Sternoclidomastoid ICM
– หายใจออก – Abdominal -Diaphragm
ค่าปกติ Arterial Blood Gas
• pH 7.35 – 7.45
• PaO2 80 – 100 mmHg (PaO2 = 100‐0.25 X Age)
• PaCO2 35 – 45 mmHg
• HCO3‐ 22 – 26 mmHg
• BE + 2.5 mEq/L
• O2 Sat 95 – 99 %
SO2
มีค่า 95-99%
ข้อบ่งชี้ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
ผู้ป่วยหายใจเฮือก หยุดหายใจ
ผู้ป่วยขอให้ช่วยหายใจ เช่น Fx Rib
เหนื่อยจนพูดไม่ได้ กินไม่ได้ นอนไม่ได้
ผู้ป่วยมีอาการแสดงว่ามี hypoxia แม้จะได้รับ oxygen therapy
ABG แย่ลงเรื่อยๆ แม้จะยังไม่มีภาวะหายใจวาย
กล้ามเนื้อหายใจทำงานไม่สัมพันธ์กัน (ventilatory disco ordination) abdominal paradox (diaphragm ไม่ทำงาน หายใจเข้าท้องยุบ), respiratory alternans
อัตราการหายใจผิดปกติ < 8‐10 , > 35
Essential Ventilator Parameter
Tidal Volume (VT)
ปริมาตรอากาศที่ไหลเข้าออกจากปอด
Respiratory rate (RR)
ปรับให้เหมาะกับกลไกการหายใจ
ใช้VT 7 ml/Kg แล้ว ใช้RR=20/min
ใช้VT 10 ml/Kg แล้ว ใช้RR=10‐12 /min
Inspiratory time (Tin)
ไม่ควรนานเกิน 1.5 s
Expiratory time (Tex)
ต้องนานพอที่ก๊าซจะออกได้หมด ยิ่งนานยิ่งดี
Tex ต้องยาวกว่า Tin
Baseline pressure : PEEP
ความดันในช่วงหายใจออกจนสุดมีค่ามากกว่าความดันบรรยากาศ
Trigger sensitivity
ตั้งให้เหมาะสม ไม่ต่ำหรือสูงเกินไป
Inspiratory flow rate
อัตราการไหลของอากาศที่เข้าสู่ปอด
Pressure limit
ค่าที่ถูกกำหนดไว้ในการช่วยหายใจ
ภาวะแทรกซ้อนของการใช้เครื่องช่วยหายใจ
การแลกเปลี่ยนก๊าซผิดปกติ
บาดเจ็บต่อปอดจากการใช้ความดันบวก
เกิด Acute lung injury (ALI) หรือ ARDS จากการช่วยหายใจด้วยความดันบวก
ถุงลมปอดแตก (alveolar rupture หรือ pulmonary barotrauma)
กดการทำงานของหัวใจและระบบไหลเวียน
กล้ามเนื้อช่วยหายใจต้องทำงานหนักมากขึ้น
Dyssynchrony
จากผลทางสรีระวิทยาจากแรงดันบวก
การทำงานของหัวใจ venous return ลดลง preload
บาดเจ็บต่อปอด Pulmonary Barotrauma Tran alveolar pressure สูงขึ้น
ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
จากการดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
การติดเชื้อ VAP alveolar over distension (volutrauma)
อาการทางจิตใจ
ทุพโภชนาการ
การพักผ่อน
อื่นๆ gastric distension ควรใส่ NG เสมอ
การระบายอากาศ
มีค่า PaCO2 35 – 45 mmHg
ระดับ pH 7.35 – 7.45
การเฝ้าระวังการหายใจของผู้ป่วย
อัตราการหายใจ < 10 หรือ > 30 ครั้ง/นาที
สีผิว บริเวณริมฝีปาก ปลายมือ (ต้องไม่มีภาวะซีด)
เสียงการหายใจ จากทางเดินหายใจอุดกลั้นบางส่วน
รูปแบบการหายใจ
การพยาบาลผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจ
ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานลดลงและไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน
ดูแล Mouth Care อยางน้อยเวรละ 1 ครั้ง
ป้องกันการเกิด Tissue Necrosis โดยใช้หลัก Minimal Leak Technique
ป้องกันการเลื่อนหลุดของท่อช่วยหายใจ
ระวังไม่ให้สายดึงรั้ง
ป้องกันแก้ไขอาการบาดเจ็บของทางเดินหายใจ
ป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
ป้องกันการดึงท่อโดยการผูกมัดอย่างระมัดระวัง
สามารถหย่าเครื่องช่วยหายใจได้ในเวลาที่เหมาะสม
เกณฑ์การหย่าเครื่องชวยหายใจ
‐ ภาวะทางคลินิก ฟื้นหรือหายจากโรคที่ทำให้เกิดหายใจล้มเหลว สัญญาณชีพปกติมีความสมดุลของอิเล็คโตรไลท์ ระดับ Albumin > 3 gm% , Hct > 30 %
‐ ประสิทธิภาพการทํางานของปอด TV 5 ml / นน.ตวั 1 Kg
‐ ความสามารถในการแลกเปลี่ยนก๊าซของปอด ผู้ป่วยหายใจด้วย FiO2 0.4 , ค่า O2 Sat > 90 % , ค่า PaO2 > 60 mmHg , ค่า PaCO2 35‐45 mmHg
วิธีการหย่าเครื่องในปัจจุบัน weaning
2.1 IMV + CPAP
2.2 IMV + Pressure Support
2.3 CPAP with Pressure Support Ventilator
2.4 T‐Piece method
ดูแลให้ได้ รับO2 เพียงพอและไม่มีการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์
ประเมินสภาพผู้ป่วย
ตรวจและบันทึกข้อมูลของการตั้งเครื่องช่วยหายใจ
Suction ใช้หลัก Aseptic Technique
ดูแล ET – Tube ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
ติดตามผล Arterial Blood gas หรือ O2 Sat
บันทึกปริมาตรอากาศที่หายใจออกของผู้ป่วยแต่ละครั้งอย่างน้อยวันละครั้ง เพื่อประเมินความก้าวหน้าของผู้ป่วย
ดูแลเครื่องช่วยหายใจให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ประเมินสภาพและป้องกันการติดเชื้อของทางเดินหายใจ (VAP)
สังเกตลักษณะสี กลิ่นของเสมหะเก็บเสมหะส่งเพาะเชื้อและติดตามผล
ติดตามผล Chest X ‐ray
มีการสื่อสารความต้องการได้เหมาะสม
ประเมินความสามารถของผู้ป่วยที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร
หาวิธีการสื่อสารแทนคำพูด
หมั่นเยี่ยมและไต่ถามความต้องการของผู้ป่วย
ใช้คำพูดช้าๆชัดๆ ในการติดต่อสื่อสาร
อธิบายให้ญาติเข้าใจถึงปัญหาและสาเหตุของการสื่อสารลำบาก
การช่วยหายใจดีหรือไม่ ดูจาก
• การ Set parameter mode,FiO2,VT,RR
• ดูค่าที่ monitor ได้เป็นตามที่ตั้งเครื่องไว้หรือไม่
• ดู Clinical ,Lab ลักษณะการหายใจ สบายดีหรือไม่
• Hemodynamic Stable ,v/s
• Dyssynchrony or Fighting
• Imposed work of breathing ภาวะที่ผู้ป่วยต้องทำงานดึงเครื่องตลอดเวลาหรือไม่ (หายใจแบบ Active /Passive) • PaO2, PaCO2, Sat O2 …
Weaning from mechanical ventilation ลดการใช้เครื่องช่วยหายใจ
– ข้อบ่งชีการใช้เครื่องหมดไปหรือยัง ทราบ Process ของโรค
– ประเมิน reserve เพียงพอหรือไม่ ดูการแลกเปลี่ยน gas pH ปกติและ respiratory muscle
– Cardiovascular stable หรือไม่
PaO2 ลดลงขณะใช้เครื่องช่วยหายใจ
การระบายอากาศไม่ดี CO2 คั่งในถุงลม
ให้FiO2 ต่ำ PAO2 ต่ำ PaO2 ต่ำด้วย
การแก้ไข
• ลดการใช้ O2
• เพิ่ม MvO2 ให้สูงขึ้น
• ระบบการหายใจ เพิ่ม FiO2 , เพิ่มแรงดันอากาศในปอด, เพิ่มเวลาหายใจเข้า(inverse I:E) , เพิ่ม PEEP
• เพิ่ม ventilation โดยใช้ยาขยายหลอดลม