Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Congestive heart failure with pneumonia, ระยะที่ 1 ระยะเลือดคั่ง…

- - - - การควบคุมน้ำหนัก
      - การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
      - เลิกสูบบุหรี่และเลิกดื่มแอลกอฮอล์
      - การควบคุมอาหาร (Low salt diet)
      - การบริหารจัดการความเครียด
    - - กลุ่มยาขับปัสสาวะไทอะไซด์ (thiazide-type diuretic) จะออกฤทธิ์ในการลดปริมาณน้ำในเลือดและเกลือในร่างกาย โดยการเพิ่มการขับนำปัสสาวะ ลดการดูดซึมน้ำและโซเดียมคลอไรด์ (sodium chloride) กลับเข้าสู่กระแสโลหิต ส่งผลให้น้ำและเกลือถูกขับออกจากร่างกาย ตัวอย่างยา Hydrochlorothiazide, Chlorothiazide, Indapamide, Metolazone, Chlorthalidone มีผลข้างเคียง (side effect) จากการใช้ยาที่สำคัญ ได้แก่ การเกิดระดับโปแตสเซียมในเลือดต่ำ (hypokalemia) การเกิดระดับกรดยูริกในเลือดสูง (hyperuricemia) ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะอ่อนเพลีย ปากแห้ง ใจสั่น และเป็นตระคริว
      - กลุ่มยาต้านแคลเซียม (calcium channel blockers :CCBs) ยับยั้งการนำแคลเซียมเข้าสู่เซลล์ ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของหลอด เลือด ทำให้แรงต้านทานของหลอดเลือดส่วนปลายลดลง หัวใจเต้นช้าลง ความดันโลหิตจึงลดลง ตัวอย่างยา Amlodipine, Nifedipine, Nicardipine, Lercanidipine ผลข้างเคียงจากการใช้ยา ได้แก่ ปวดศีรษะ ใจสั่น เกิดผื่นแดง
      - กลุ่มยาต้านการทำงานของเอนไซม์แองจิโอเทนซินคอนเวอร์ติง (angiotensin converting enzyme inhibitors: ACEIs) ยับยั้งการหลังและการทำงานของเอนไซม์แองจิโอเทนซินคอนเวอร์ติง (angiotensin converting enzyme [ACE]) เกิดการยับยั้งการเปลี่ยนของสารแองจิโอเทนซินวัน (angiotensin I) ไปเป็นแองจิโอเทนซินทู (angiotensin II) ซึ่งส่งผลให้หลอดเลือดเกิดการหดตัวลดลง ลดการหลั่งของสารอัลโดสเตอโรน (aldosterone) ทำให้แรงต้านทานโลหิตบริเวณหลอดเลือดส่วนปลายลดลง ความดันโลหิตจึงลดลง ตัวอย่างยา enalapril, lisinopril, captopril, perindopril, benazepril ผลข้างเคียง อาการไอแห้งๆ
      - กลุ่มยายับยั้งการทำงานของแองจิโอเทนซินรีเซบเตอร์ (angiotensin II receptor blockers : ARBs) ออกฤทธิ์โดยการไปแยjงแองจิโอเทนซินทู (angiotensin II) จับกบตัวรับแองจิโอเทนซินทู ( angiotensin II receptor) ส่งผลให้เกิดการยับยั้งการหดตัวของหลอดเลือดและยับยั้งการหลั่งสารอัลโดสเตอโรน (aldosterone) ความดันโลหิตจึงลดลง ผลข้างเคียงจากการใช้ยากลุ่มนี้ได้เล็กน้อย เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง อ่อนเพลีย
- - - - เบาหวานประเภทที่ 1 (Type 1 Diabetes) เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้
      - เบาหวานประเภทที่ 2 (Type 2 Diabetes) เกิดจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอต่อการใช้ หรือเกิดภาวะการดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance)
      - เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes) โรคเบาหวานที่พัฒนาขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์จากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนโดยที่ผู้ป่วยไม่เคยเป็นโรคเบาหวานมาก่อน
      - โรคเบาหวานชนิดอื่นๆ (Other type) การใช้ยาบางชนิด ตับอ่อนติดเชื้อหรืออักเสบไวรัสบางชนิด
  - - - กลุ่มซัลโฟนิลยูเรีย (sulfonylureas) glibenclamide, glipizide, glichazide กระตุ้นดับอ่อนให้หลั่งอินซูดิน ผลข้างเคียงคือ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
      - กลุ่มไบกัวไนค์ (bguanides) meffommin ยับยั้งการสร้างกลูโคสที่ตับ และกระตุ้นให้อินซูดินออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น ผลข้างเคียง คือ ระบบทางเดินอาหาร
      - กลุ่มกลิทาโซน (glitazone) rosiglitazone, (piogliazone) กระตุ้นให้อินซูดินออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น ผลข้างเคียงคือ บามน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
      - กลุ่มขับยั้งเอนไซม์แอลฟากกูโคซิเคส (alpha Glucosidaseinhibitors) ได้แก่ acarbose, vogibose ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่มีส่วนช่อยแป้งให้เป็นน้ำตาล ผลข้างเคียงคือ ปวดท้อง มีลมในท้อง
      - กลุ่มเมกลิทิในค์ (meglitinides) ได้แก่ repaglinide) ขากลุ่มนี้มีฤทธิ์กระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งอินซูลิน ผลข้างเคียง น้ำตาลในเลือดต่ำ
      - ชนิดฉีด
        
        อินซูลินที่ออกฤทธิ์เร็ว (Rapid-acting insulin)
        
        อินซูลินที่ออกฤทธิ์สั้น (Short-acting insulin)
        
        อินซูลินที่ออกฤทธิ์นานปานกลาง (Intermediate-acting insulin)
        
        อินซูลินที่ออกฤทธิ์ยาว (Long-acting insulin)
  - - - ระดับน้ำตาลในเลือดที่ตรวจเวลาใดเวลาหนึ่งแบบไม่เฉพาะเจาะจงมากกว่าหรือเท่ากับ 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ร่วมกับมีอาการแสดงของโรคเบาหวาน
      - เป็นระดับน้ำตาลในเลือดหลังงดอาหารและน้ำทางปาก (Fasting blood sugar) เป็นเวลา 8 ชั่วโมง โดยมีค่าน้ำตาลในเลือดมากกว่าหรือเท่ากับ 126 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
      - การตรวจ Glucose tolerance test มีระดับน้ำตาลในชั่วโมงที่2 มากกว่าหรือเท่ากับ 200 มิลลิกรัมต่อเคซิลิตร
      - การตรวจวัคระดับ Hemoglobin A1C ( HbA1C) เท่ากับหรือมากกว่า 6.5 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
  - - - Hypoglycemia
      - Hyperglycemia
      - Diabetic ketoacidosis :DKA
      - Hyperglycemic Hyperosmolar Non- Ketotic Coma :HHNC
    - - ภาวะแทรกช้อนทางระบบประสาทส่วนปลาย
      - การะแทรกซ้อนทางตา
      - ภาวะแทรกช้อนทางระบบหัวใจและหลอดเลือดความดันโลหิตสูงขึ้น หลอดเลือดหัวใจตีบตัน หลอดเลือดที่ใตผิดปกติและหลอดเลือดสมองผิดปกติ
      - ภาวะแทรกซ้อนทางไต
      - เม็ดเลือดขาว ชนิดPolymorphonuclear ทำหน้าที่ไม่ได้ตามปกติ เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
- - - - เชื้อไปที่ปอด
        
        เกิดการติดเชื้อ
        
        ร่างกายตอบสนองต่อการอักเสบ
        
        WBC ออกมาต่อสู้กับเชื้อโรค
        
        เกิดสารคัดหลั่งในถุงลม ผู้ป่วยไอ มีเสมหะ มีเสียงปอดผิดปกติ
        
        การแลกเปลี่ยนก๊าซลดลง ขับ CO2 ลดลง เลือดเป็นกรด รับ O2 ลดลง ขาดออกไปร่างกาย หายใจเร็ว ออกซิเจนต่ำ ปลายมือปลายเท้าเขียว
  - - - ไข้ ไอ หอบ อาจมีภาวะซีด เขียวหรือหยุดหายใจ อ่อนเพลีย กินได้น้อยลง โรคประจำตัว โรคในระบบหายใจ
    - - ฟังเสียงหายใจเสียง fineหรือ medium
        Crepitation,rhonchiและwheezing
- - - - เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างขวาไม่สามารถสุบฉีดเลือดไปฟอกที่ปอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมักเกิดจากแรงดันในหลอดเลือดฝอยที่ปอดสูงขึ้นและกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างขวาตาย
        เมื่อหัวใจห้องล่างขวาบีบตัวลดลง ทำาให้ปริมาตรเลือดค้างในหัวใจห้องล่างขวามากขึ้นส่งผลให้ความดันในหัวใจห้องลางขวาเพิ่มขึ้น และในที่สุดจะมีผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือดดำทั่วร่างกายเนื่องจากมีภาวะน้ำคั่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการบวม ตับและม้ามโต ลำใส่บวมจนมีอาการจุกแน่นได้ชายโครง มีอาการเบื่ออาหาร ท้องมาน หลอดเลือดดำที่คอโป้งพอง และปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน
    - - เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจห่องล่างชายบีบตัวลดลง ทำให้เนื้อเยื่อของร่างกายได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ เมื่อหัวใจห้องล่างซ้ายบีบตัวลดลง จะทำให้ปริมาตรเลือดที่ออกจากหัวใจลดลง ส่งผลให้เลือดเหลือค้างในหัวใจห้องล่างช้ายมากขึ้น ความดันเลือดในหัวใจห้องล่างซ้ายจึงสูงขึ้น หัวใจห้องบนซ้ายจึงบีบเลือดส่งมายังหัวใจห้องล่างซ้ายน้อยลง ปริมาตรเลือดและความดันเลือดในหัวใจห้องบนซ้ายจึงสูงขึ้น เลือดจากปอดที่ฟอกแล้วก็จะไหลเข้าสู่หัวใจห้องบนชายได้น้อยลง เป็นผลให้ความดันเลือดในหลอดเลือดฝอยที่ปอดสูงขึ้น ทำให้ของเหลวออกจากหลอดเลือดฝอยที่ปอดเข้าสู่ถุงลม ทำให้ผู้ป่วยมีภาวะน้ำท่วมปอด หอบ เหนื่อย ไอ และเขียว