Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่ 3 หินและซากดึกดำบรรพ์ - Coggle Diagram
หน่วยที่ 3 หินและซากดึกดำบรรพ์
บทที่ 1 หิน วัฏจักรหิน และซากดึกดำบรรพ์
แนวคิดสำคัญ - หินส่วนใหญ่ประกอบด้วยแร่ที่รวมตัวกัน สามารถจำแนกหินตามกระบวนการเกิดได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร หินแต่ละประเภทมีการเปลี่ยนแปลงไปมา โดยมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงเป็นแบบรูปและต่อเนื่องเป็นวัฏจักร หินและแร่แต่ละชนิดมีลักษณะและสมบัติที่แตกต่างกันจึงนำมาใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกัน ในหินตะกอนอาจพบซากดึกดำบรรพ์ที่ใช้เป็นหลักฐานในการศึกษาสภาพแวดล้อมในอดีตของพื้นที่หนึ่งๆ ได้
ตรวจสอบความรู้เดิม
ภายในหินประกอบด้วยสิ่งใดบ้าง - หินประกอบด้วยวัสดุที่เป็นของแข็ง บางก้อนมีก้อนกรวดขนาดต่างๆ หรือบางก้อนมีเศษหินปะปนอยู่
หินและแร่คืออะไร - หินและแร่ คือวัสดุที่เป็นของแข็ง
หินมีกี่ประเภท ได้แก่อะไรบ้าง และแต่ละประเภทเกิดขึ้นได้อย่างไร - หินมี ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแหร หินบางประเภทเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของแมกมาใต้ผิวโลก บางประเภทเกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวาบนผิวโลก
วัฏจักรหินคืออะไร - วัฏจักรหินเป็นการเปลี่ยนแปลงของหินจากหินประเภทหนึ่งไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่ง และสามารถเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้
สิ่งใดบ้างทำจากหินและสิ่งใดบ้างทำจากแร่ - ครกทำมาจากหิน หินลับมีดทำมาจากหิน กระจกทำมาจากแร่ ไส้ดินสอทำมาจากแร่
ซากดึกดำบรรพ์คืออะไร - ซากดึกดำบรรพ์เป็นโครงร่างหรือร่องรอยของสิ่งมีชีวิตในอดีตที่ปรากฏอยู่ในหิน
เรื่องที่ 1 กระบวนการเกิดหิน วัฏจักรหิน และการนำหินและแร่ไปใช้ประโยชน์
ขั้นตรวจสอบความรู้
ในหินมีอะไรอยู่บ้าง - ในหินส่วนใหญ่มีแร่ และอาจพบเศษหิน หรือเม็ดกรวด
หินแต่ละประเภทมีกระบวนการเกิดแตกต่างกันหรือไม่ - หินแต่ละประเภทมีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน
หินประเภทหนึ่งสามารถเปลี่ยนไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่ง และเปลี่ยนกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้หรือไม่ อย่างไร - หินประเภทหนึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่งและเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้ โดยอาศัยกระบวนการทางธรณีวิทยาต่างๆ
สิ่งของต่างๆ เหล่านี้ทำมาจากอะไร
ครก หินลับมีด ทำมาจากหิน
ส่วนแป้งทาตัว แว่นขยาย กระจก แก้ว บีกเกอร์ แท่งแก้วคน กระดาษทราย ปูนปลาสเตอร์ จานหรือชามกระเบื้อง กระป๋องเครื่องดื่ม ไส้ดินสอดำ ช้อนหรือส้อมที่ทำจากโลหะ กรรไกร ทำมาจากแร่
ขั้นฝึกทักษะการอ่าน
ลักษณะของหินมีอะไรบ้าง - ลักษณะของหิน เช่น มีลวดลาย สี ผิวสัมผัส ความแข็ง
หินคืออะไร และหินเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นได้หรือไม่ - หินเป็นของแข็งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มนุษย์ไม่สามารถสร้างขึ้นได้
องค์ประกอบของหินมีอะไร - โดยทั่วไปมีแร่เป็นองค์ประกอบ
แร่คืออะไร - แร่เป็นสารที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เกิดจากการตกผลึก ซึ่งการตกผลึกของสารเป็นกระบวนการที่สารในสถานะแก๊ส ของเหลว หรือของแข็งที่มีโครงสร้างไม่เป็นระเบียบ มีการจัดเรียงตัวของอนุภาคใหม่ให้เป็นผลึกของแข็ง ซึ่งมีโครงสร้างที่เป็นระเบียบ มีรูปทรงทางเรขาคณิตที่แน่นอนเฉพาะตัว
นักวิทยาศาสตร์จำแนกหินได้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง และใช้อะไรเป็นเกณฑ์ - นักวิทยาศาสตร์จำแนกหินออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร โดยใช้กระบวนการเกิดเป็นเกณฑ์ในการจำแนก
หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นหินประเภทอื่นได้หรือไม่ อย่างไร - หินทั้งสามประเภทสามารถเปลี่ยนแปลงจากหินประเภทหนึ่งไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่งและเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้ โดยผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยาต่างๆ ซึ่งมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูปและต่อเนื่องเป็นวัฏจักรหิน
นักเรียนเคยใช้สิ่งใดบ้างที่ทำมาจากหินและแร่ - นักเรียนบางคนเคยใช้แป้งทาตัวซึ่งมีแร่ทัลก์เป็นส่วนผสมหลัก หรือใช้เลนส์ในการดูรายละเอียดของวัสดุหรือวัตถุขนาดเล็ก ซึ่งเลนส์ทำมาจากแร่ควอตซ์ หรือใช้กระจกเพื่อส่องหน้า ซึ่งกระจกทำมาจากแร่ควอตซ์
สรุป - หินเป็นของแข็งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยทั่วไปมีแร่เป็นองค์ประกอบ นักวิทยาศาสตร์จำแหนหินตามกระบวนการเกิดได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร หินทั้งสามประเภทมีการเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้ โดยผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยาต่างๆ ซึ่งมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูปและต่อเนื่องเป็นวัฏจักรหิน หินและแร่เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าและมีประโยชน์มากมาย ปัจจุบันมนุษย์ใช้เทคโนโลยีในการแปรรูปหินและแร่มาเป็นวัตถุหรือเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์
รู้หรือยัง
หินคืออะไร จำแนกประเภทของหินได้อย่างไร - หินเป็นของแข็งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยทั่วไปมีแร่เป็นองค์ประกอบ นักวิทยาศาสตร์จำแนกหินตามกระบวนการเกิดได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแหร
วัฏจักรหินเป็นอย่างไร - วัฏจักรหินเป็นการเปลี่ยนแปลงของหินทั้งสามประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอนและหินแปร โดยมีการเปลี่ยนแปลงจากหินประเภทหนึ่งไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่งและเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิม โดยผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยาต่างๆ ซึ่งมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูปและต่อเนื่องเป็นวัฏจักรหิน
หินและแร่นำไปใช้ประโยชน์ในด้านใดบ้าง - ในอดีตมนุษย์ใช้หินทำขวานหินสำหรับใช้ล่าสัตว์และป้องกันตัว ปัจจุบันมนุษย์ใช้เทคโนโลยีในการแปรรูปหินและแร่มาเป็นวัตถุดิบหรือเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น นำมาเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง นำมาทำเลนส์ กระจก ซีเมนต์
กิจกรรมที่ 1.1 องค์ประกอบของหินมีอะไรบ้าง
ทบทวนความรู้
หินแต่ละก้อนมีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร - หินแต่ละก้อนอาจมีลักษณะทั้งทีเหมือนกันและแตกต่างกัน
จากการสังเกตลักษณะของหิน หินประกอบด้วยสิ่งใดบ้าง - หินประกอบด้วยวัสดุที่มีสถานะเป็นของแข็ง บางก้อนอาจมีวัสดุที่เป็นของแข็งหลายสีปนอยู่ด้วยกัน บางก้อนมีกรวดหรือมีเศษหินขนาดต่างๆ ปนอยู่ หรือหินประกอบด้วยแร่
คำถามหลังทำกิจกรรม
ลักษณะเนื้อหินทั้งสามประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีลักษณะคล้ายคลึงหรือแตกต่างกันอย่างไร - เนื้อหินทั้งสามประเภทมีลักษณะทั้งที่คล้ายคลึงกันและแตกต่างกัน ดังนี้
เนื้อหินที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น มีเนื้อละเอียดหรือมีเนื้อหยาบคล้ายคลึงกัน
เนื้อหินที่มีลักษณะแตกต่างกัน เช่น บางก้อนมีเนื้อแก้ว บางก้อนมีรูพรุน บางก้อนมีลักษณะเป็นชั้นๆ บางก้อนมีผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ บางก้อนเนื้อหินเป็นเม็ดตะกอน บางก้อนประกอบด้วยวัสดุแข็งที่มีสีจำนวน 1 สี หรือบางก้อนประกอบด้วยวัสดุแข็งที่มีสีจำนวนมากกว่า 1 สี
องค์ประกอบของหินจากที่สังเกตได้แตกต่างจากที่ได้จากการเล่นเกมหรือไม่ อย่างไร - องค์ประกอบของหินจากที่สังเกตได้อาจแตกต่างจากที่ได้จากการเล่นเกม เพราะข้อมูลที่ได้จากการสังเกตหินอาจไม่ละเอียดหรือไม่ชัดเจนเท่ากับที่ได้จากการเล่นเกม ข้อมูลจากการเล่นเกมจะทำให้ทราบองค์ประกอบของหินแต่ละก้อนอย่างละเอียด ว่าหินบางก้อนประกอบด้วยแร่ บางก้อนประกอบด้วยแก้วภูเขาไฟ และบางก้อนอาจมีเศษหินปะปนอยู่ในหิน และหินบางก้อนที่ประกอบด้วยแร่ ก็จะทำให้ทราบชื่อแร่ที่เป็นองค์ประกอบของหิน
สรุป - หินส่วนใหญ่ประกอบด้วยแร่ตั้งแต่ 1 ชนิดขึ้นไป หินบางชนิดมีองค์ประกอบเป็นแก้วภูเขาไฟ และบางชนิดมีเศษหินเป็นองค์ประกอบ
ฉันรู้อะไร
1.องค์ประกอบของหินมีอะไรบ้าง - แร่ แก้วภูเขาไฟ เศษหิน
2.หินชนิดใดบ้างที่ประกอบด้วยแร่ 1 ชนิด - หินอ่อน หินควอร์ตไซต์
3.หินชนิดใดบ้างที่ประกอบด้วยแร่มากกว่า 1 ชนิด - หินแกรนิต หินไดออไรต์ หินบะซอลต์ หินกรวดมน หินทราย หินดินดาน หินทรายแป้ง หินปูน หินไนส์ หินชนวน หินฟิลไลต์
4.หินชนิดใดบ้างที่ประกอบด้วยแก้วภูเขาไฟ - หินพัมมิซ หินออบซิเดียน
5.หินชนิดใดบ้างที่มีเศษหินเป็นองค์ประกอบ - หินกรวดมน หินทราย
6.จากกิจกรรมนี้ ค้นพบอะไรบ้างเกี่ยวกับองค์ประกอบของหิน - หินส่วนใหญ่ประกอบด้วยแร่ตั้งแต่ 1 ชนิดขึ้นไป บางก้อนประกอบด้วยแร่เพียงชนิดเดียว บางก้อนประกอบด้วยแก้วภูเขาไฟ และบางก้อนมีเศษหินปะปนอยู่ในเนื้อหิน การที่หินมีองค์ประกอบแตกต่างกัน ทำให้เนื้อหินที่ปรากฏมีลักษณะแตกต่างกันไปด้วย เช่น มีเนื้อหยาบ เนื้อละเอียด เนื้อแก้ว
7.จากสิ่งที่ค้นพบ สรุปได้ว่าอย่างไร - หินส่วนใหญ่ประกอบด้วยแร่ตั้งแต่ 1 ชนิดขึ้นไป หินบางชนิดมีองค์ประกอบเป็นแก้วภูเขาไฟ และบางชนิดมีเศษหินเป็นองค์ประกอบ
กิจกรรมที่ 1.2 กระบวนการเกิดหินและวัฏจักรหินเป็นอย่างไร
ทบทวนความรู้
องค์ประกอบของหินมีอะไรบ้าง - แร่ แก้วภูเขาไฟ เศษหิน
หินแต่ละก้อนมีองค์ประกอบแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร - หินแต่ละก้อนอาจมีองค์ประกอบแตกต่างกัน บางก้อนประกอบด้วยแร่ บางก้อนประกอบด้วยแก้วภูเขาไฟ บางก้อนมีองค์ประกอบเป็นเศษหินปะปนอยู่ด้วย
ตรวจสอบความรู้เดิม
เพราะเหตุใดหินบางก้อนจึงมีองค์ประกอบเป็นแร่ - หินบางก้อนมีองค์ประกอบเป็นแร่ เพราะอาจเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของแมกมาบริเวณใต้ผิวโลก
เพราะเหตุใดหินบางก้อนจึงมีองค์ประกอบเป็นแก้วภูเขาไฟ - หินบางก้อนมีองค์ประกอบเป็นแก้วภูเขาไฟ เพราะเกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวาบนผิวโลก
เพราะเหตุใดหินบางก้อนจึงมีเศษหินเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย - หินบางก้อนมีเศษหินเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย เพราะหินดังกล่าวเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนและมีการเชื่อมประสานตะกอน ซึ่งตะกอนที่มาสะสมตัวและถูกเชื่อมประสานอาจมีเศษหินปะปนอยู่ด้วย
หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีกระบวนการเกิดแตกต่างกันหรือไม่ - หินทั้งสามประเภทมีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน
หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีลักษณะใดแตกต่างกันบ้าง - หินอัคนีอาจมีเนื้อแก้ว และมีรูพรุนในเนื้อหิน หินตะกอนอาจมีเศษหินปะปนอยู่ในเนื้อหินและหินแปรอาจมีผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ
หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นหินประเภทอื่นและเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นหินประเภทเดิมได้หรือไม่ - หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นหินประเภทอื่นและเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นหินประเภทเดิมได้
คำถามหลังทำกิจกรรม
หินแต่ละประเภทมีลักษณะอย่างไร - หินอัคนีแทรกซอนมีลักษณะเป็นผลึกแร่ขนาดใหญ่เกาะอยู่รวมกัน มีเนื้อหยาบ หินอัคนีพุมีลักษณะเป็นผลึกแร่ขนาดเล็กเกาะอยู่รวมกัน มีเนื้อละเอียด บางก้อนเป็นเนื้อแก้ว บางก้อนมีรูพรุนในเนื้อหิน หินตะกอนมีลักษณะเป็นเม็ดตะกอนขนาดใหญ่เกาะอยู่รวมกัน มีเนื้อหยาบ บางก้อนมีลักษณะเป็นเม็ดตะกอนขนาดเล็กเกาะอยู่รวมกัน มีเนื้อละเอียด บางก้อนมีเศษหินปะปนอยู่ บางก้อนเนื้อหินมีลักษณะเป็นชั้นๆ และหินแปรมีลักษณะเป็นผลึกแร่เกาะอยู่รวมกัน บางก้อนผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ และแถบของเนื้อหินบางชนิดแซะหรือกะเทาะออกเป็นแผ่นได้
หินแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะอะไรบ้างที่แตกต่างจากหินประเภทอื่น
หินอัคนีมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากหินประเภทอื่น ได้แก่ บางก้อนจะเป็นเนื้อแก้ว และมีรูพรุน
หินตะกอนมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่า่งจากหินประเภทอื่น ได้แก่ เนื้อหินประกอบด้วยเม็ดตะกอน และอาจพบการวางตัวของเนื้อหินเป็นชั้นๆ
หินแปรมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากหินประเภทอื่น ได้แก่ การมีผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ และแถบดังกล่าวของหินแปรบางชนิดอาจแซะหรือกะเทาะออกเป็นแผ่นได้
การเกิดหินแต่ละประเภทมีกระบวนการเกิดเหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร - หินแต่ละประเภทมีกระบวนการเกิดแตกต่างกันดังนี้ หินอัคนีเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกจากแมกมา หรือเกิดจาการเย็นตัวและตกผลึกของลาวาหรือเกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวา หินตะกอนเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอนหรือเกิดจากการตกผลึกหรือตกตะกอนของสารบางชนิด และหินแปรเกิดจากหินทุกประเภทมีการแปรสภาพโดยความร้อน ความดัน และปฏิกิริยาเคมี
เพราะเหตุใดหินแต่ละประเภทจึงมีลักษณะแตกต่างกัน - หินแต่ละประเภทมีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน
กระบวนการเปลี่ยนแปลงของหินต่างๆ ไปเป็นหินอัคนี มีกระบวนการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูปหรือไม่ อย่างไร - มีการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูป เช่น หินตะกอนจะเปลี่ยนไปเป็นหินอัคนีพุ ต้องผ่านการแปรสภาพ การหลอมเหลว และการเย็นตัวและตกผลึกของลาวา หรือการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวา หรือจะต้องผ่านการหลอมเหลว และการเย็นตัวและตกผลึกของลาวา หรือการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวา
กระบวนการเปลี่ยนแปลงของหินต่างๆ ไปเป็นหินแปร มีกระบวนการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูปหรือไม่ อย่างไร - การเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูป เช่น หินอัคนีจะเปลี่ยนไปเป็นหินแปรต้องผ่านการแปรสภาพ หรือต้องผ่านการผุพัง การตกผลึกหรือตกตะกอนของสารบางชนิด และการแปรสภาพ หรือจะต้องผ่านการผุพัง การสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอน และการแปรสภาพ
กระบวนการทางธรณีวิทยาที่ทำให้หินประเภทหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่งหรือเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิมมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูปหรือไม่ อย่างไร - มีกระบวนการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูป เช่น
การที่หินอัคนีจะเปลี่ยนไปเป็นหินแปรจะผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยาต่างๆ เช่น หินอัคนีจะผ่านกระบวนการผุพังกลายเป็นตะกอนก่อน จากนั้นตะกอนจะผ่านกระบวนการสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอนกลายเป็นหินตะกอน และจากนั้นหินตะกอนจะผ่านกระบวนการแปรสภาพกลายเป็นหินแปร การเปลี่ยนแปลงจากหินอัคนีไปเป็นหินแปร ดังตัวอย่างจะมีการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูป
การที่หินตะกอนจะเปลี่ยนไปเป็นหินอัคนีจะผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยาต่างๆ เช่น หินตะกอนจะถูกแปรสภาพกลายเป็นหินแปรก่อน แล้วหินแปรจะหลอมเหลวกลายเป็นแมกมาหรือลาวา จากนั้นแมกมาหรือลาวาจะผ่านการเย็นตัวและตกผลึก หรือผ่านการเย็นตัวและแข็งตัวกลายเป็นหินอัคนี หรือหินตะกอนจะหลอมเหลวกลายเป็นแมกมาหรือลาวาก่อน จากนั้นแมกมาหรือลาวาจะผ่านการเย็นตัวและตกผลึก หรือการที่ลาวาจะผ่านการเย็นตัวและแข็งตัวกลายเป็นหินอัคนี การเปลี่ยนแปลงจากหินตะกอนไปเป็นหินอัคนีดังตัวอย่างจะมีการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูป
การที่หินแปรจะเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นหินแปรอีกครั้งอาจผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยาต่างๆ เช่น หินแปรมีการผุพังกลายเป็นตะกอน จากนั้นผ่านการสะสมตัวและการเชื่อมประสานตะกอนกลายเป็นหินตะกอน และหินตะกอนจะถูกกระบวนการแปรสภาพกลายเป็นหินแปร การเปลี่ยนแปลงของหินแปรให้กลับมาเป็นหินแปรใหม่อีกครั้งดังตัวอย่าง จะมีการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูป
การที่หินตะกอนจะเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นหินตะกอนอีกครั้ง หินตะกอนอาจผ่านกระบวนการหลอมเหลวกลายเป็นแมกมา จากนั้นแมกมามีการเย็นตัวและตกผลึกลายเป็นหินอัคนี หินอัคนีมีการผุพังกลายเป็นตะกอนหรือสารบางชนิด จากนั้นสารบางชนิดจะมีการตกผลึกหรือตกตะกอนเป็นหินตะกอนอีกครั้ง การเปลี่ยนแปลงจากหินตะกอนไปเป็นหินตะกอนดังตัวอย่าง จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นแบบรูป
การเปลี่ยนแปลงของหินเป็นวัฏจักรหินมีลักษณะเป็นอย่างไร - เป็นการเปลี่ยนแปลงของหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร จากหินประเภทหนึ่งเปลี่นแปลงไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่งหรือเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิม โดยมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูปและต่อเนื่องเป็นวัฏจักร
สรุป - หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน และมีลักษณะทางกายภาพบางอย่างแตกต่างกัน ดังนี้
หินอัคนีเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของแมกมาใต้ผิวโลกและเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึก หรือเกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวาบนผิวโลก เนื้อหินมีลักษณะเป็นผลึก มีทั้งผลึกขนาดใหญ่และขนาดเล็ก และบางชนิดอาจเป็นเนื้อแก้ว และอาจมีรูพรุนเป็นเนื้อหิน
หินตะกอนเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอนในแอ่งสะสมตะกอน หรือเกิดจากการตกผลึกหรือตกตะกอนโดยเฉพาะส่วนใหญ่จากน้ำทะเล หินตะกอนที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนหรือเศษหิน เศษแร่จากหินที่ผุพังมา เนื้อหินส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นเม็ดตะกอน มีทั้งเนื้อหยาบและละเอียด ส่วนหินตะกอนที่เกิดจากการตกผลึกหรือตกตะกอนจากสารบางชนิด เนื้อหินจะเป็นเนื้อผลึก หินตะกอนบางชนิดมีลักษณะเป็นชั้นๆ บางครั้งในอดีตจึงเรียกหินตะกอนว่า หินชั้น
หินแปรเกิดจากการแปรสภาพของหินเดิมซึ่งอาจเป็นหินอัคนี หินตะกอน หรือหินแปร โดยการกระทำของความร้อน ความดัน และปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นใต้ผิวโลก ทำให้หินแปรบางชนิดมีผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ บางชนิดเนื้อหินจะมีรอยแยกเป็นแผ่นๆ ซึ่งรอยแยกนี้อาจแซะหรือกะเทาะออกเป็นแผ่นหินใหญ่ๆ ได้ บางชนิดเป็นเนื้อผลึกที่มีความแข็งมาก
หินทั้งสามประเภทมีการเปลี่ยนแปลงจากหินประเภทหนึ่งไป เป็นหินอีกประเภทหนึ่งและเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้ โดยมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูปและต่อเนื่องเป็นวัฏจักรหิน
ฉันรู้อะไร
1.หินแต่ละประเภทมีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างกัน เพราะเหตุใด - หินแต่ละประเภทมีลักษณะทางกายภาพบางอย่างทั้งที่เหมือนกันและแตกต่างกัน ลักษณะทางกายภาพบางอย่างที่แตกต่างกัน เกิดจากหินแต่ละประเภทมีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน
2.หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีกระบวนการเกิดแตกต่างกันหรือมไม่ อย่างไร - หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน หินอัคนี เกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกจากแมกมา หรือเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของลาวา หรือเกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวา หินตะกอนเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอนหรือเกิดจากการตกผลึกหรือตกตะกอนของสารบางชนิด หินแปรเกิดจากการแปรสภาพของหินทุกประเภทโดยความร้อน ความดัน และปฏิกิริยาเคมี
3.ลักษณะของหินแต่ละประเภทแตกต่างกันหรือมไม่ อย่างไร - หินแต่ละประเภมีลักษณะบางอย่างแตกต่างกัน เช่น หินอัคนีอาจมีเนื้อแก้วและมีรูพรุน หินตะกอนมีเนื้อที่เป็นเม็ดตะกอนและมีเศษหินปะปนอยู่ในเนื้อหิน และอาจพบการวางตัวของตะกอนในเนื้อหินเป็นชั้นๆ และหินแปรผลึกแร่จะเรียงตัวขนานกันเป็นแถบ ซึ่งอาจแซะหรือกะเทาะแถบดังกล่าวออกได้
4.หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร เปลี่ยนแปลงไปเป็นหินประเภทใดได้บ้าง และสามารถเปลี่ยนกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้หรือไม่ - หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นหินประเภทอื่นได้ทุกประเภท และสามารถเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้
5.กระบวนการทางธรณีวิทยาที่ทำให้หินแต่ละประเภทเกิดการเปลี่ยนแปลงไปมาในวัฏจักรหิน มีอะไรบ้าง - กระบวนการทางธรณีวิทยาที่ทำให้หินแต่ละประเภทเกิดการเปลี่ยนแปลงไปมาในวัฏจักรหิน ได้แก่ การเย็นตัวและตกผลึกของแมกมา การเย็นตัวและตกผลึกของลาวา การเย็นตัวและแข็งตัวของลาวา การผุพัง การสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอน การตกผลึกหรือตกตะกอนของสารบางชนิด การแปรสภาพ การหลอมเหลว
6.การเปลี่ยนแปลงของหินจากประเภทหนึ่งไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่งหรือเปลี่ยนกลับไปเป็นหินประเภทเดิมในวัฏจักรหิน เป็นแบบรูปคงที่และต่อเนื่องหรือไม่ อย่างไร - การเปลี่ยนแปลงของหินในวัฏจักรหินมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เป็นแบบรูปและต่อเนื่อง เช่น การทีหินอัคนีจะเปลี่ยนไปเป็นหินแปรจะผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยาต่างๆ เช่น หินอัคนีจะเกิดการผุพังกลายเป็นตะกอน จากตะกอนจะผ่านกระบวนการสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอนกลายเป็นหินตะกอน และจากหินตะกอนจะผ่านกระบวนการแปรสภาพกลายเป็นหินแปร หรือหินอัคนีผ่านกระบวนการแปรสภาพกลายเป็นหินแปรเลยก็ได้ การเปลี่ยนแปลงจากหินอัคนีไปเป็นหินแปรดังตัวอย่างจะมีการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูปและเกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในบางกระบวนการใช้เวลาน้อย บางกระบวนการใช้เวลายาวนานนับล้านปี
7.จากแบบจำลอง เราสามารถพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงของเม็ดทรายเม็ดหนึ่งซึ่งเป็นตะกอนบนผิวโลกได้อย่างไร และการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดจากกระบวนการทางธรณีวิทยาใดบ้าง - เม็ดทรายเม็ดหนึ่งบนผิวโลก สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นส่วนหนึ่งของหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร ได้ เช่น เม็ดทรายเม็ดดังกล่าวถูกน้ำนำพาไปสะสมตัวอยู่ในแอ่งสะสมตะกอนและมีการเชื่อมประสานตะกอน ก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของหินตะกอน และถ้าหินตะกอนดังกล่าวถูกแปรสภาพก็จะกลายเป็นหินแปร หรือถ้าหินตะกอนดังกล่าวมีการหลอมเหลวก็จะกลายเป็นแมกมา และถ้าแมกมามีการเย็นตัวและตกผลึกก็จะกลายเป็นหินอัคนีแทรกซอนได้
8.จากกิจกรรมนี้ ค้นพบอะไรบ้างเกี่ยวกับกระบวนการเกิดหินและวัฏจักรหิน - หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน จึงทำให้หินทั้งสามประเภทมีลักษณะทางกายภาพบางอย่างแตกต่างกัน หินอัคนีเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของแมกมา หรือเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของลาวา หรือเกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวา หินตะกอนเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอน หรืออาจเกิดจากการตกผลึกหรือตกตะกอนของสารบางชนิด หินแปรเกิดจากการแปรสภาพของหินทุกประเภทโดยความร้อน ความดัน และปฏิกิริยาเคมี หินทั้งสามประเภทนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากหินประเภทหนึ่งไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่งและเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้ โดยมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูปและต่อเนื่องเป็นวัฏจักรหิน
9.จากสิ่งที่ค้นพบ สรุปได้ว่าอย่างไร - หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน จึงทำให้หินทั้งสามประเภทมีลักษณะทางกายภาพบางอย่างแตกต่างกัน หินทั้งสามประเภทนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปมาโดยมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูปและต่อเนื่องเป็นวัฏจักร
กิจกรรมที่ 1.3 หินและแร่มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
ทบทวนความรู้
องค์ประกอบของหินมีอะไรบ้าง - แร่ เศษหิน และแก้วภูเขาไฟ
หินแต่ละประเภทมีลักษณะทางกายภาพเหมือนกันหรือไม่ - หินแต่ละประเภทมีลักษณะทางกายภาพบางอย่างทั้งที่เหมือนกันและแตกต่างกัน ลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างกัน เช่น การมีรูพรุนในเนื้อหิน การที่หินมีลักษณะเป็นเนื้อแก้ว
เพราะเหตุใดหินแต่ละประเภทจึงมีลักษณะบางอย่างแตกต่างกัน - หินแต่ละประเภทมีลักษณะบางอย่างแตกต่างกันเพราะมีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน
คำถามหลังทำกิจกรรม
มีสิ่งของใดบ้างที่อยู่รอบตัวเราที่ทำมาจากหินและแร่ - สิ่งของรอบตัวเราหลายอย่างทำมาจากหินและแร่
สิ่งที่ทำมาจากหิน เช่น ครกหิน หินขัดตัว หินลับมีด ไส้กรองในตู้ปลา แผ่นหินปูพื้น ซีเมนต์
สิ่งที่ทำมาจากแร่ เช่น ปูนปลาสเตอร์ แก้วน้ำ กระจก ไส้ดินสอดำ เหรียญ จานกระเบื้อง เครื่องประดับ
การนำหินและแร่แต่ละชนิดไปใช้ประโยชน์ต้องพิจารณาสิ่งใดบ้าง พร้อมยกตัวอย่าง - พิจารณาจากลักษณะและสมบัติของหินและแร่ชนิดนั้น ๆ เช่น
หินบางชนิดมีรูพรุนจึงมีการนำไปใช้เป็นวัตถุกรองสิ่งต่างๆ
หินบางชนิดมีเนื้อแน่น มีความแข็ง จึงนำไปทำครก
หินบางชนิดมีเนื้อเป็นเม็ดตะกอนจึงนำไปทำวัตถุขัดสิ่งของต่างๆ
หินบางชนิดมีเนื้อแน่น มีความแข็งและมีลวดลายสวยงาม จึงนำไปทำแผ่นหินปูพื้นหรือแผ่นหินปูผนัง
แร่บางชนิดมีสีดำ มีความแข็งน้อย เมื่อขีดบนวัสดุที่แข็งกว่าจะเกิดผงละเอียดติดบนผิวของวัสดุนั้น จึงนำแร่ดังกล่าวไปทำไส้ดินสอ
แร่บางชนิดมีความแข็งและบางก้อนใสไม่มีสี จึงนำไปทำเลนส์ แก้ว หรือกระจก
สรุป - หินและแร่แต่ละชนิดมีลักษณะและสมบัติแตกต่างกัน มนุษย์จึงใช้ประโยชน์จากหินและแร่ในการทำสิ่งต่างๆ ได้แตกต่างกัน สิ่งของเครื่องใช้ส่วนใหญ่ที่อยู่รอบตัวเราส่วนใหญ่ผลิตมาจากหินและแร่หรือมีส่วนผสมของหินและแร่ หินและแร่จึงเป็นทรัพยากรที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง
ฉันรู้อะไร
1.เพราะเหตุใดจึงมีการนำหินและแร่ต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกัน - เพราะหินและแร่แต่ละชนิดมีลักษณะและสมบัติที่แตกต่างกัน
2.หินและแร่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันอย่างไร - หินและแร่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราเพราะสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเรา ส่วนใหญ่ผลิตหรือมีส่วนผสมของหินและแร่ เช่น กระจก แก้วน้ำ ส่วนผสมของเครื่องสำอาง ถ้วยหรือจานกระเบื้อง หม้อ ช้อนหรือส้อมโลหะ อุปกรณ์ไฟฟ้า สายไฟฟ้า เครื่องประดับ
3.จากกิจกรรมนี้ ค้นพบอะไรบ้างเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากหินและแร่ - หินและแร่ชนิดต่างๆ ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในการทำสิ่งต่างๆ ได้แตกต่างกัน ตามลักษณะและสมบัติของหินและแร่นั้นๆ สิ่งของรอบตัวเราหรือในชีวิตประจำวันของเราส่วนใหญ่ผลิตจากหินและแร่ หรือส่วนใหญ่มีส่วนผสมของหินและแร่
4.จากสิ่งที่ค้นพบ สรุปได้ว่าอย่างไร - หินและแร่แต่ละชนิดมีลักษณะและสมบัติที่แตกต่างกัน จึงมีการนำไปใช้ประโยชน์ในการทำสิ่งต่างๆ ได้แตกต่างกัน