Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่ 2 การแยกสารเนื้อผสม บทที่ 1 การแยกสารเนื้อผสมอย่างง่าย กิจกรรมที่…
หน่วยที่ 2 การแยกสารเนื้อผสม บทที่ 1 การแยกสารเนื้อผสมอย่างง่าย กิจกรรมที่ 1.1 และ 1.2
บทที่ 1 การแยกสารเนื้อผสมอย่างง่าย
แนวคิดสำคัญ - การแยกสารเนื้อผสมซึ่งประกอบด้วยสารอย่างน้อย 2 ชนิดผสมกันโดยเนื้อสารไม่กลมกลืนเป็นอย่างเดียวกัน อาจทำได้โดยวิธีการหยิบออก การร่อน การกรอง การใช้แม่เหล็กดึงดูด การตกตะกอน และการรินออก การเลือกวิธีที่เหมาะสมในการแยกสาร พิจารณาจากลักษณะและสมบัติของสารที่ผสมกัน การแยกสารสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้
ตัวอย่างสารต่างๆ เช่น น้ำโคลน เกลือ แป้ง น้ำ น้ำมันพืชผสมน้ำ น้ำแป้ง พริกกับเกลือ น้ำเกลือ
สารใดเป็นสารผสม เพราะเหตุใด - สารที่เป็นสารผสมได้แก่ น้ำโคลน น้ำมันพืชผสมน้ำ น้ำแป้ง พริกกับเกลือ น้ำเกลือ เพราะสารเหล่านี้ประกอบด้วยสารตั้งแต่ 2 ชนิดรวมกัน
สารผสมชนิดใดเป็นสารเนื้อเดียว และชนิดใดเป็นสารเนื้อผสม - สารเนื้อเดียว ได้แก่ น้ำเกลือ สารเนื้อผสม ได้แก่ น้ำโคลน น้ำมันพืชผสมน้ำ น้ำแป้ง พริกกับเกลือ
น้ำถั่วเหลืองทำมาจากอะไร - เมล็ดถั่วเหลืองและน้ำ
การทำนมถั่วเหลืองใช้วิธีการใดในการแยกสารและอยู่ในขั้นตอนใด - การกรอง ในขั้นตอนหลังจากนำเมล็ดถั่วเหลืองปั่นรวมกับน้ำสะอาดเพื่อแยกของแข็งออกจากของเหลว
สำรวจความรู้ก่อนเรียน
สารเนื้อผสมต่อไปนี้ แยกออกจากกันได้โดยวิธีใด เพราะเหตุใด
น้ำโคลน แยกน้ำออกจากโคลน - โดยวิธีการตกตะกอน การรินออกแล้วใช้การกรอง เพราะวิธีนี้ใช้แยกของแข็งที่แขวนลอยในของเหลว โดยมีของแข็งผสมอยู่ในปริมาณมาก ของแข็งจะตกตะกอนที่ก้นภาชนะ ทำให้ของเหลวด้านบนใสแล้วรินของเหลวใสออก จากนั้นนำไปกรองด้วยวัสดุกรอง ของแข็งจะค้างอยู่บนวัสดุกรองแต่ของเหลวจะไหลผ่านรูวัสดุกรองลงสู่ภาชนะรองรับ แต่ถ้าน้ำโคลนมีเนื้อโคลนผสมอยู่น้อย อาจใช้วิธีการกรองโดยไม่ต้องตกตะกอนก็ได้
ทรายผสมกรวด แยกทรายออกจากกรวด - โดยวิธีการร่อน เพราะวิธีนี้สามารถใช้ตะแกรงเพื่อร่อนแยกของแข็งที่ขนาดแตกต่างกันออกจากกันได้โดยทรายจะผ่านรูตะแกรงเหลือกรวดที่มีขนาดใหญ่ค้างอยู่บนตะแกรง
น้ำกะทิผสมกากมะพร้าว แยกน้ำกะทิออกจากกากมะพร้าว - โดยวิธีการกรอง เพราะวิธีนี้ใช้แยกของแข็งที่ไม่ละลายในของเหลวโดยรินน้ำกระทิผสมกากมะพร้าวผ่านวัสดุกรอง เช่น ผ้าขาวบาง หรือกระชอน น้ำกะทิจะไหลผ่านรูวัสดุกรอง ส่วนกากมะพร้าวจะค้างอยู่บนวัสดุกรอง
ผงเหล็กปนอยู่ในผงถ่าน แยกผงเหล็กออกจากผงถ่าน - โดยวิธีการใช้แม่เหล็กดึงดูด เพราะวิธีนี้ใช้แยกสารแม่เหล็กที่ผสมกับสารอื่นๆ โดยแม่เหล็กจะดึงดูดผงเหล็กออกจากผงถ่าน
น้ำมันที่ลอยอยู่ในน้ำแกง แยกน้ำมันออกจากน้ำแกง - โดยวิธีการรินออกหรือการตักออก เพราะวิธีนี้ใช้แยกสารที่เป็นของเหลวที่ไม่ละลายในของเหลว โดยน้ำมันจะลอยอยู่ด้านบนของน้ำแกง ถ้าน้ำมันมีปริมาณมากใช้วิธีการรินน้ำมันออกจากน้ำแกง แต่ถ้าน้ำมันที่ลอยอยู่มีปริมาณน้อยใช้อุปกรณ์ เช่น ช้อน ทัพพี ตักน้ำมันออกจากน้ำแกงได้
เปลือกหอยปนกับทราย แยกเปลือกหอยออกจากทราย - โดยวิธีการหยิบออกหรือการร่อน เพราะวิธีนี้ใช้แยกของแข็งที่มีขนาดแตกต่างกันออกจากกัน เนื่องจากเปลือกหอยมีขนาดใหญ่กว่าทรายมากจึงสามารถใช้มือหยิบเปลือกหอยออกจากทรายได้ หรือใช้การร่อน ทรายซึ่งมีขนาดเล็กกว่ารูตะแกรงสามารถลอดผ่านรูตะแกรง ในขณะที่เปลือกหอยไม่สามารถลอดผ่านรูตะแกรงได้จึงค้างอยู่
เรื่องที่ 1 วิธีการแยกสารเนื้อผสมอย่างง่าย
ขั้้นตรวจสอบความรู้
ข้าวสารที่เรารับประทานได้มาอย่างไร - ได้มาจากการปลูกข้าวแล้วนำข้าวเปลือกมาสีจนได้ข้าวสาร
การสีข้าวเปลือกให้เป็นข้าวสาร ทำได้อย่างไร - นำข้าวเปลือกไปสีด้วยเครื่องสีข้าว หรือนำข้าวเปลือกมาตำด้วยครกตำข้าว
การสีข้าวเปลือกให้เป็นข้าวสารแต่ละขั้นตอนใช้วิธีการแยกสารหรือไม่ อย่างไร - ใช้การแยกสาร เช่น การร่อน
ขั้นฝึกทักษะการอ่าน
การผลิตข้าวสารทำได้อย่างไร - การสีข้าว
การสีข้าวมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร - ทำให้เปลือกเมล็ดข้าวหลุดออกได้เป็นข้าวสาร
การสีข้าวจะได้สารใดบ้าง - เมล็ดข้าวสาร เปลือกเมล็ดข้าวหรือแกลบ รำข้าว
การแยกเมล็ดข้าวสารออกจากสิ่งที่ปนอยู่ทำได้อย่างไร ยกตัวอย่าง - ใช้วิธีแยกสารหลายวิธี เช่น การเป่าเปลือกเมล็ดข้าว การฝัด การหยิบออก
วิธีการแยกสารหมายถึงอะไร - วิธีการที่ใช้ในการแยกสารที่ปะปนกันออกจากกัน
การเลือกใช้วิธีการแยกสารพิจารณาจากสิ่งใด - ลักษณะและสมบัติของสารที่ผสมอยู่ด้วยกัน
วิธีการแยกสารมีวิธีใดบ้าง ยกตัวอย่าง - การหยิบออก การร่อน การฝัด การกรอง การใช้แม่เหล็กดึงดูด การตกตะกอน การรินออก
สรุป - การผลิตข้าวสารจากข้าวเปลือกทำได้โดยการสีข้าวซึ่งจะได้สารหลายอย่างผสมกันอยู่เป็นสารเนื้อผสม การแยกเมล็ดข้าวสารออกจากสารอื่นๆ ใช้วิธีการแยกสารวิธีต่างๆ โดยต้องพิจารณาจากลักษณะและสมบัติของสารที่ผสมกันอยู่
รู้หรือยัง
การผลิตข้าวสารเกี่ยวข้องกับการแยกสารหรือไม่ อย่างไร - การผลิตข้าวสารเกี่ยวข้องกับการแยกสาร โดยเมื่อสีข้าวเปลือกจะได้สารเนื้อผสมที่มีเมล็ดข้าวปนอยู่กับเปลือกข้าวหรือแกลบ และรำข้าว ขั้นตอนต่อไปต้องหาวิธีแยกเมล็ดข้าวสารออกจากสารที่ปนอยู่
การเลือกใช้วิธีการแยกสารพิจารณาจากอะไร - พิจารณาจากลักษณะและสมบัติของสารที่ผสมอยู่ด้วยกัน
กิจกรรมที่ 1.1 แยกของแข็งในสารเนื้อผสมออกจากกันได้อย่างไร
คำถามหลังทำกิจกรรม
หลังจากตำข้าวเปลือกให้เปลือกข้าวกะเทาะออกจากเมล็ดข้าวสาร สารผสมที่ได้มีลักษณะอย่างไร - มีสารหลายอย่างปะปนกัน ได้แก่ เปลือกข้าว เมล็ดข้าวเปลือก เมล็ดข้าวสาร เศษชิ้นเล็กๆ (รำข้าว)
สารทั้งหมดในสารเนื้อผสมมีสถานะใด - ของแข็ง
นักเรียนใช้วิธีการใดบ้างเพื่อแยกเมล็ดข้าวสารออกจากสารอื่นๆ และทำอย่างไร
การหยิบออก ทำได้โดยการใช้มือหยิบเมล็ดข้าวสารออกจากสารอื่นๆ
การร่อนทำได้โดยนำสารผสมทั้งหมดใส่ลงในตะแกรงและเขย่าเปลือกข้าวหรือรำข้าวที่มีขนาดเล็กจะหลุดลอดรูตะแกรง ส่วนข้าวเปลือกและแกลบที่มีขนาดใหญ่กว่าจะค้างอยู่บนตะแกรง ในกรณีที่มีเปลือกข้าวหรือแกลบเหลืออยู่ให้แยกสารต่อไปด้วยวิธีการฝัด
การฝัดทำได้โดยนำสารเนื้อผสมทั้งหมดใส่กระด้งและขยับกระดังขึ้นลงให้ลมพัดพาแกลบซึ่งมีน้ำหนักเบาปลิวออกไปจากกระด้ง เหลือเมล้ดข้าวสารแลเมล็ดข้าวเปลือกบางส่วนอยู่ในกระด้ง จากนั้นใช้การหยิบออกโดยหยิบเมล็ดข้าวเปลือกออกากเมล็ดข้าวสาร
การแยกสารที่เป็นของแข็งออกจากกันใช้วิธีใดได้บ้าง - การหยิบออก การร่อน และการฝัด
การหยิบออก การร่อน และการฝัดใช้แยกสารเนื้อผสมที่มีลักษณะและสมบัติอย่างไร - การหยิบออกใช้แยกสารเนื้อผสมที่เป็นของแข็งที่มีสีหรือขนาดแตกต่างกันอย่างชัดเจน การร่อนใช้แยกของแข็งที่มีขนาดแตกต่างกันโดยของแข็งที่มีขนาดเล็กกว่ารูตะแกรงจะลอดผ่านรูตะแกรง ส่วนของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่าจะค้างอยู่บนตะแกรง ส่วนการฝัดใช้แยกของแข็งที่มีน้ำหนักแตกต่างกันออกจากกันไป
การแยกสารโดยการหยิบออก การร่อน และการฝัดในกิจกรรมนี้มีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไร
การหยิบออกเป็นวิธีแยกสารโดยเลือกหยิบเมล็ดข้าวสารออกจากสารอื่นที่ปะปนอยู่ มีข้อดีคือไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม แต่ข้อจำกัดคือใช้เวลานานและอาจหยิบลำบากถ้าสารนั้นมีขนาดเล็กมาก เช่น รำข้าว
การร่อนเป็นวิธีแยกรำข้าวออกจากเมล็ดข้าวสารและเมล็ดข้าวเปลือกได้อย่างรวดเร็ว ข้อดีคือใช้เวลาน้อย ข้อจำกัดคือไม่สามารถแยกเมล็ดข้าวเปลือกซึ่งมีขนาดเท่ากับเมล็ดข้าวสารออกไปได้
การฝัดเป็นวิธีการแยกเปลือกข้าวที่มีขนาดใกล้เคียงกับเมล็ดข้าวสารแต่มีน้ำหนักเบากว่าออกไป ข้อดีคือใช้เวลาน้อย ข้อจำกัดคือ ไม่สามารถแยกเมล็ดข้าวเปลือกซึ่งมีน้ำหนักใกล้เคียงกับเมล็ดข้าวสารออกไปได้
การหยิบออก การร่อน และการฝัดนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร - การหยิบเมล็ดพืชที่เน่าเสียออกจากเมล็ดพืชที่สมบูรณ์ การร่อนทรายออกจากกรวด การฝัดเอาเยื่อหุ้มเมล็ดออกจากเมล็ดถั่วลิสงที่คั่วแล้ว การฝัดเปลือกข้าวที่มีน้ำหนักเบาออกจากเมล็ดข้าวเม่า
ฉันรู้อะไร
การแยกเมล็ดข้าวสารออกจากสารเนื้อผสมทำได้อย่างไรบ้าง และเรียกวิธีการแยกสารนั้นว่าอะไร - ทำได้โดยการหยิบเมล็ดข้าวสารออก เรียกว่า การหยิบออก หรือทำได้โดยการร่อนผ่านตะแกรง เรียกว่าการร่อน หรือทำได้โดยการฝัดในกระด้ง เรียกว่า การฝัด
การเลือกวิธีการแยกของแข็งในสารเนื้อผสมออกจากกันพิจารณาจากอะไรบ้าง - พิจารณาจากลักษณะและสมบัติของสารที่ผสมอยู่ด้วยกัน
วิธีการแยกสารจากกิจกรรมนี้ นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรบ้าง - การหยิบเมล็ดข้าวเปลือกออกจากข้าวสาร การฝัดเอาสิ่งเจือปนที่มีขนาดเล็กออกจากเมล็ดงา การร่อนทรายออกจากเศษหิน
จากกิจกรรมนี้ ค้นพบอะไรบ้างเกี่ยวกับการแยกของแข็งในสารเนื้อผสมออกจากกัน - การแยกเมล็ดข้าวสารออกจากเปลือกข้าวหรือแกลบ และเมล็ดข้าวเปลือกทำได้โดยใช้มือหยิบเมล็ดข้าวสารออก เรียกการแยกสารนี้ว่าการหยิบออก หรือใช้วิะีการร่อนด้วยตะแกรงทำให้รำข้าวที่มีขนาดเล็กกว่ารูตะแกรงแยกออกไป เรียกว่า การร่อน แล้วนำส่วนที่เหลือไปฝัดในกระด้งทำให้แกลบหรือเปลือกข้าวลอยออกไปจากกระด้งจะเหลือแต่เมล็ดข้าวสารและเมล็ดข้าวเปลือกจจึงใช้มือหยิบเมล็ดข้าวเปลือกที่มีปริมาณน้อยกว่าเมล็ดข้าวสารออกไปจากกระด้งก็จะเหลือเพียงเมล็ดข้าวสาร
จากสิ่งที่ค้นพบ สรุปได้ว่าอย่างไร - การแยกของแข็งในสารเนื้อผสมออกจากกันทำได้โดยการหยิบออก การร่อน และการฝัด
กิจกรรมที่ 1.2 แยกของแข็งกับของเหลวในสารเนื้อผสมออกจากกันได้อย่างไร
คำถามหลังทำกิจกรรม
น้ำปูนเป็นสารเนื้อเดียวหรือสารเนื้อผสม เพราะเหตุใด - เป็นสารเนื้อผสมเพราะมองเห็นของแข็งสีขาวบางส่วนแยกตัวและบางส่วนลอยอยู่ในของเหลว
เกิดอะไรขึ้นเมื่อตั้งน้ำปูนไว้นาน 15 นาที - น้ำปูนในช่วงเริ่มต้นเป็นของเหลวสีขาวขุ่นคล้ายน้ำนม เมื่อเวลาผ่านไป ของเหลวส่วนบนค่อยๆ ใสขึ้น ของแข็งบางส่วนค่อยๆ ตกตะกอนหรือค่อยๆ จมลงสู่ก้นแก้ว
สารที่อยู่ที่ก้นแก้วมีลักษณะอย่างไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร - สารที่อยู่ที่ก้นแก้วมีลักษณะเป็นของแข็งสีขาว ของแข็งเหล่านี้มาจากของแข็งส่วนที่ไม่ละลายในของเหลวซึ่งแขวนลอยอยู่ในของเหลว แล้วค่อยๆ รวมตัวกัน ตกตะกอนลงสู่ก้นแก้วโดยอาศัยแรงโน้มถ่วงของโลก
วิธีการแยกสารวิธีนี้เรียกว่าอะไร - การตกตะกอน
วิธีการแยกสารเนื้อผสมโดยการตกตะกอนเหมาะสมสำหรับใช้แยกสารที่มีลักษณะอย่างไร - การตกตะกอนเป็นวิธีการที่ใช้สำหรับแยกสารเนื้อผสมที่ประกอบด้วยของแข็งที่แขวนลอยอยู่ในของเหลว
นักเรียนสามารถแยกของเหลวออกจากของแข็งที่อยู่ก้นแก้วได้อย่างไร - ค่อยๆ รินของเหลวส่วนบนที่ใสออกจากแก้วให้ได้มากที่สุด
วิธีการแยกสารในข้อข้างบน เรียกว่าอะไร - การรินออก
เมื่อรินน้ำปูนจากแก้วใบที่ 2 ลงสู่ผ้าขาวบาง สารที่ค้างอยู่บนผ้าขาวบางและผ่านผ้าขาวบางมีลักษณะอย่างไร - สารที่ค้างอยู่บนผ้าขาวบางเป็นของแข็งสีขาว ส่วนสารที่ผ่านผ้าขาวบางเป็นของเหลวสีขาวขุ่น
สารที่ผ่านผ้าขาวบางได้ มีขนาดใหญ่หรือเล็กกว่ารูของผ้าขาวบาง - สารที่ผ่านผ้าขาวบางมีขนาดเล็กกว่ารูของผ้าขาวบาง
เมื่อรินน้ำปูนจากแก้วใบที่ 3 ลงสู่กระดาษกรอง สารที่ค้างอยู่บนกระดาษกรองและผ่านกระดาษกรองมีลักษณะอย่างไร - สารที่ค้างอยู่บนกระดาษกรองเป็นของแข็งสีขาว ส่วนสารที่ผ่านกระดาษกรองเป็นของเหลวใส
สารที่ผ่านกระดาษกรองมีขนาดเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับรูของกระดาษกรอง - มีขนาดเล็กกว่ารูของกระดาษกรอง
การแยกของเหลวออกจากของแข็งในแก้วใบที่ 2 และแก้วใบที่ 3 เรียกวิธีการนี้ว่าอะไร - วิธีการแยกของเหลวออกจากของแข็งในสารเนื้อผสมโดยปล่อยให้สารผสมไหลลงสู่วัสดุกรองที่มีรู ของเหลวจะไหลผ่านรูของวัสดุกรอง ส่วนของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่ารูจะค้างอยู่บนวัสดุกรอง เรียกว่าการกรอง
เมื่อเปรียบเทียบลักษณะของเหลวที่ได้จากการกรองผ่าน ผ้าขาวบางและกระดาษกรอง การกรองผ่านวัสดุแบบใดมีข้อดีมากกว่า เพราะเหตุใด - การกรองผ่านกระดาษกรองดีกว่า เพราะของเหลวที่ได้ใสมากกว่า
วิธีแยกสารเนื้อผสมโดยการตกตะกอน การรินออก และการกรอง ใช้แยกสารเนื้อผสมที่มีสมบัติอย่างไร - ใช้แยกของแข็งออกจากของเหลวในสารเนื้อผสม
ลักษณะของเหลวที่ได้เมื่อแยกด้วยวิธีการตกตะกอน การกรองด้วยผ้าขาวบางและการกรองด้วยกระดาษกรองเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร - แตกต่างกัน ลักษณะของเหลวที่ได้จากการกรองด้วยกระดาษกรองจะใสที่สุด การตกตะกอนจะใสเป็นลำดับที่ 2 ส่วนการกรองด้วยผ้าขาวบางของเหลวที่ได้จะขุ่น
การแยกสารด้วยวิธีใดมีความสะดวกมากกว่า เพราะเหตุใด - การแยกสารด้วยวิธีการตกตะกอนแล้วการรินออกมีความสะดวกมากกว่าการกรองเพราะใช้อุปกรณ์น้อยกว่า
การแยกสารด้วยวิธีใดใช้เวลาน้อยกว่า - การแยกสารด้วยการกรองใช้เวลาน้อยกว่าการตกตะกอน
การแยกสารแต่ละวิธีมีข้อดี ข้อจำกัดอย่างไร
การรินออกมีข้อดี คือ ใช้อุปกรณ์น้อย ข้อจำกัด คือ อาจมีของแข็งปนมากับของเหลวขณะรินของเหลวออกจากภาชนะ
การตกตะกอนมีข้อดี คือ ได้ของเหลวใส ใช้อุปกรณ์น้อยชิ้น ข้อจำกัด คือ ใช้เวลานาน
การกรองด้วยผ้าขาวบาง มีข้อดี คือ ใช้เวลาน้อย ข้อจำกัด คือ ใช้อุปกรณ์ในการแยกสารหลายชิ้น และได้ของเหลวที่ขุ่น
การกรองด้วยกระดาษกรอง มีข้อดี คือ ใช้เวลาน้อย ได้ของเหลวที่ใส ข้อจำกัด คือ ใช้อุปกรณ์ในการแยกสารหลายชิ้น
การตกตะกอน การรินออก และการกรองนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันในเรื่องอะไรบ้าง - การตกตะกอนของอนุภาคที่แขวนลอยในน้ำ ในกระบวนการผลิตน้ำประปา การรินออกใช้ในกระบวนการล้างข้าวสารก่อนนำไปหุง การกรองใช้ในกระบวนการกรองน้ำสำหรับดื่มโดยให้น้ำผ่านวัสดุกรอง
สรุป - การแยกของแข็งกับของเหลวในสารเนื้อผสมออกจากกันทำได้หลายวิธี ได้แก่ การตกตะกอน การรินออก และการกรอง การตกตะกอนเป็นวิธีที่ทำให้ของแข็งค่อยๆ แยกตัวและตกตะกอนลงที่ก้นภาชนะ การรินออกทำได้โดยค่อยๆ รินของเหลวออกจากของแข็ง การกรองเป็นวิธีที่ทำให้ของเหลวไหลผ่านวัสดุกรองที่มีรูขนาดเล็กซึ่งของแข็งผ่านไม่ได้จึงค้างอยู่บนวัสดุกรอง การตกตะกอน การรินออกและการกรองนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ต่างๆ กัน
ฉันรู้อะไร
น้ำปูนมีลักษณะเป็นสารเนื้อเดียวหรือสารเนื้อผสม เพราะเหตุใด - เป็นสารเนื้อผสมเพราะยังคงมองเห็นของแข็งสีขาวแยกตัวและแขวนลอยอยู่ในของเหลว
ตั้งแต่เริ่มวางแก้วใบที่ 1 จนครบ 15 นาที น้ำปูนในแก้วมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร - น้ำปูนมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวขุ่นคล้ายน้ำนม เมื่อเวลาผ่านไปของเหลวส่วนบนค่อยๆ ใสขึ้น ของแข็งบางส่วนค่อยๆ จมลงและรวมตัวเป็นชั้นแยกจากของเหลวชั้นบนอยู่ที่ก้นภาชนะ
การแยกสารในข้อข้างบน ทำด้วยวิธีใด และใช้แยกสารที่มีลักษณะและสมบัติอย่างไร - วิธีการตกตะกอน ใช้แยกสารเนื้อผสมที่เป็นของแข็งกับของเหลว
การกรองใช้แยกสารได้อย่างไร และใช้แยกสารที่มีลักษณะและสมบัติอย่างไร - การกรองใช้แยกสารโดยอาศัยวัสดุกรองที่มีรูซึ่งจะแยกสารเนื้อผสมที่เป็นของแข็งออกจากของเหลว โดยของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่ารูของวัสดุกรองค้างอยู่บนวัสดุกรอง ส่วนของเหลวที่มีขนาดเล็กกว่ารูของวัสดุกรองจะไหลผ่านรูลงสู่ภาชนะรองรับ
ผลที่ได้จากการกรองด้วยผ้าขาวบาง และการกรองด้วยกระดาษกรอง เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร เพราะเหตุใด - แตกต่างกัน เพราะของเหลวที่ผ่านผ้าขาวบางมีสีขาวขุ่นและพบตะกอนสีขาวที่ก้นภาชนะ ส่วนของเหลวที่ผ่านกระดาษกรองใสไม่มีสี ไม่พบตะกอนที่ก้นภาชนะ เนื่องจากขนาดรูของผ้าขาวบางใหญ่กว่าขนาดรูของกระดาษกรอง ของแข็งที่มีขนาดเล็กกว่ารูของผ้าขาวบางสามารถผ่านรูผ้าขาวบางได้จึงพบตะกอนสีขาวที่ก้นภาชนะ แต่ของแข็งที่มีขนาดเล็กไม่สามารถผ่านรูของกระดาษกรองได้จึงไม่พบตะกอนและได้ของเหลวใส ไม่มีสี
วิธีการแยกสารแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไร - การตกตะกอนมีข้อดี คือ ใช้อุปกรณ์น้อยชิ้น ข้อจำกัด คือ ใช้เวลานาน การรินออก ข้อดี คือ ใช้อุปกรณ์น้อยชิ้น ข้อจำกัด คือ ขณะรินอาจมีของแข็งที่ตกตะกอนไหลมากับของเหลวด้วย การกรองข้อดี คือ ใช้เวลาน้อย ข้อจำกัด คือ ใช้อุปกรณ์หลายชิ้น
วิธีการแยกสารจากกิจกรรมนี้ นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง - การทำให้อนุภาคที่แขวนลอยในน้ำตกตะกอน ในกระบวนการผลิตน้ำประปา การทำความสะอาดเมล็ดข้าวก่อนนำไปหุงโดยการรินเอาน้ำซาวข้าวออกจากเมล็ดข้าว การกรองน้ำเพื่อนำมาดื่ม
จากกิจกรรมนี้ ค้นพบอะไรบ้างเกี่ยวกับการแยกสารที่เป็นของแข็งกับของเหลวในสารเนื้อผสมออกจากกัน - เมื่อตั้งน้ำปูนไว้ เมื่อเวลาผ่านไป ของแข็งจะแยกตัวออกจากของเหลวโดยจะค่อยๆ จมลงสู่ก้นภาชนะ ทำให้ของเหลวส่วนบนค่อยๆ ใสขึ้น การแยกสารที่เป็นของแข็งโดยปล่อยให้ของแข็งตกตะกอนแยกตัวออกจากของเหลวและจมสู่ก้นภาชนะเรียกวิธีการนี้ว่าการตกตะกอน จากนั้นแยกของเหลวส่วนบนออกโดยวิธีการรินออก เมื่อริน้ำปูนลงบนผ้าขาวบางและกระดาษกรองทำให้ของแข็งซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ารูของผ้าขาวบางและกระดาษกรองค้างอยู่บนผ้าขาวบางและกระดาษกรอง ส่วนของเหลวจะผ่านผ้าขาวบางและกระดาษกรอง เรียกวิธีการนี้ว่า การกรอง
จากสิ่งที่ค้นพบ สรุปได้ว่าอย่างไร - ของแข็งกับของเหลวในสารเนื้อผสมแยกออกจากกันได้โดยการตกตะกอน การรินออก และการกรอง ซึ่งสามารถนำวิธีการแยกสารเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้