Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Appendicitis ไส้ติ่งอักเสบ - Coggle Diagram
Appendicitis
ไส้ติ่งอักเสบ
ไส้ติ่งอักเสบเกิดจากอะไร
เกิดจากของเสีย สิ่งแปลกปลอม หรืออุจจาระที่เคลื่อนลงไปอุดตันในไส้ติ่งทำให้เกิดแบคทีเรียสะสม มีเลือดคั่ง และกระจายไปที่ผนังไส้ติ่งจนเกิดการอักเสบกลายเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบ ในที่สุด หากไส้ติ่งแตกทะลุจนเกิดการติดเชื้อในช่องท้องแล้วกลายเป็นติดเชื้อในกระแสเลือดอาจมีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
อาการที่บ่งบอกว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ
ระยะที่ 1
เป็นระยะเริ่มแรกที่ไส้ติ่งเริ่มอุดตัน จะมีอาการปวดท้องบริเวณรอบสะดืออย่างฉับพลัน จุกแน่นท้อง เบื่ออาหาร
ระยะที่ 2
เป็นระยะที่ไส้ติ่งเริ่มบวม โดยจะมีอาการปวดท้องบริเวณชายโครงด้านขวา หากมีการเคลื่อนไหว เช่น เดิน ไอ จาม จะรู้สึกเจ็บมากขึ้น บางรายอาจมีท้องเสียร่วมด้วย
ระยะที่ 3
เป็นระยะที่อันตรายเพราะไส้ติ่งแตก และเชื้อแบคทีเรียกำลังแพร่กระจายในช่องท้องจะทำให้ผู้ป่วยมีไข้ขึ้น และหากไม่ได้รับการผ่าตัดจะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดส่งผลให้เสียชีวิตได้
การวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบ
ตรวจเลือด
แพทย์จะทำการเจาะเลือดเพื่อตรวจดูว่ามีปริมาณเม็ดเลือดขาวเยอะหรือไม่ หากเม็ดเลือดขาวมีปริมาณมากจะสามารถบ่งบอกถึงการติดเชื้อได้
ตรวจอัลตราซาวด์
การตรวจแบบอัลตราซาวด์เป็นการหาความผิดปกติของอวัยวะในช่องท้อง และตรวจการไหลเวียนของเลือด
ตรวจด้วยเครื่อง CT SCAN หรือตรวจด้วยเครื่อง MRI
ตรวจปัสสาวะ
ตรวจดูว่าอาการปวดท้องที่เกิดขึ้นมาจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือไม่ เพื่อจะได้ตัดโรคที่ไม่ใช่สาเหตุออก
การรักษาไส้ติ่งอักเสบ
การรักษาด้วยการผ่าตัด (Appendectomy)
การผ่าตัดแบบเปิด (Open Surgery)
เป็นการผ่าตัดโดยการให้ยาสลบกับผู้ป่วย วิธีนี้จะทำให้มีแผลขนาด
3-10เซนติเมตร แพทย์จะทำการใส่ท่อเพื่อระบายหนองหรือของเหลวในช่องท้องออก ใช้เวลา 2-3 วันหรือจนกว่าแพทย์จะวินิจฉัยว่าอาการอักเสบดีขึ้นแล้ว
การผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscopic or Keyhole surgery)
เป็นการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบโดยการใส่เครื่องมือแพทย์และกล้องขนาดเล็กเข้าไปภายในช่องท้องแบบไม่ต้องผ่าเปิด
การรักษาด้วยยา
การรักษาด้วยยาส่วนใหญ่จะเป็นการให้ยาแก้ปวด แต่ในผู้ป่วยที่ผ่าตัดไส้ติ่งแตกแพทย์จะทำการสั่งยาปฏิชีวนะให้ด้วย
การป้องกันโรคไส้ติ่งอักเสบ
ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีการค้นพบวิธีป้องกันอาการไส้ติ่งอักเสบ เนื่องจากไส้ติ่งอักเสบเป็นอาการเฉียบพลันที่ไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ จึงทำได้แค่เพียงลดความเสี่ยงเท่านั้น โดยควรป้องกันไม่ให้มีอาการท้องผูกด้วยการรับประทานผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง นอกจากนี้ หากพบว่ามีอาการติดเชื้อหรือการอักเสบที่ลำไส้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา เนื่องจากการอักเสบนั้นอาจลุกลามไปถึงไส้ติ่งได้เช่นกัน
ภาวะแทรกซ้อนของโรคไส้ติ่งอักเสบ
ภาวะแทรกซ้อนของไส้ติ่งอักเสบจะเกิดขึ้นหากไม่มีการรักษาอย่างทันท่วงทีจนทำให้เกิดภาวะไส้ติ่งแตก โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นอาการที่เกิดจากเชื้อโรคที่แพร่กระจายจากไส้ติ่งที่แตก ได้แก่
โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบ
ฝี