Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบำบัดผู้ติดสารเสพติด และ Matrix program - Coggle Diagram
การบำบัดผู้ติดสารเสพติด และ Matrix program
ขั้นตอนการบำบัดรักษา
1.ขั้นเตรียมการ :
ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้ติดสารเสพติดและครอบครัวทราบขึ้นตอน กระบวนการในการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพพร้อมทั้งเตรียมครอบครัว ศึกษาประวัติข้อมูล ค้นหาแรงจูงใจในการรักษา
2.ถอนพิษของสารเสพติด
ใช่เวลาในการบำบัด 7-14 วัน เป็นการบำบัดด้านร่างกายและจิตใจสำหรับการบำบัดอาการทางกายที่เกิดจากการใช้สารเสพติดมีการใช้ยาอื่นทดแทน เช่น Methadone หรือให้เลิกเสพทันทีที่เรียกว่า "หักดิบ"
3.ฟื้นฟูสภาพจิตใจและสมรรถภาพ : เป็นขั้นตอนที่สำคัญเนื่องจากเป็นการปรับสภาพร่างกายและจิตใจของผู้รับการบำบัดให้มีความเข้มแข็ง ผู้รับการบำบัดไม่มีอาการทางกายจาการขาดยาและพร้อมต่อการทำกิจกรรมต่างๆแล้ว
การให้คำแนะนำปรึกษา ทั้งเป็นรายบุคคลและเป็นกลุ่ม
การอบรมธรรมะ
การสันทนาการ
การฝึกสร้างอาชีพ
ขั้นการติดตามดูแล
เป็นการติดตามดูแลผู้เลิกยาเสพติดที่ผ่านการบำบัดรักษา ทั้ง 3 ขั้นตอน ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ที่ส่งผลให้ผู้บำบัดทราบว่าผลลัพธ์ของการบำบัดเป็นอย่างไร
การนัดมาพบที่สถาบัน โทรศัพท์ติดตามและการเยี่ยมบ้าน
ระบบบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
ระบบสมัครใจ
การที่ผู้ติดยาเสพติดสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา ในสถานพยาบาลต่าง ซึ่งดำเนินการรักษาทั้งระบบแพทย์แผนปัจจุบัน และแผนโบราณ
2.ระบบต้องโทษ
การที่ผู้ติดยาเสพติดกระทำความผิดและถูกตัดสินจำคุกพร้อมกับคำสั่งให้เข้าโครงการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดในเรือนจำ ต้องเข้ารับการบำบัดรักษาภายใต้กฎข้อบังคับของกฎหมาย
3.ระบบบังคับ
การรับการบำบัดที่มาจากการควบคุม/จับกุม การใช้กฎหมายบังคับให้ผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษา ในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพที่จัดตั้งขึ้น
รักษาด้วยยา
Dolophine (Methadone) : เป็นสารสังเคราะห์ที่มีฤทธิ์คล้ายฝิ่น ทำให้ร่างกายเกิดการเสพติดยา แต่ไม่มีฤทธิ์กดประสาทและลดความเจ็บปวด
การให้เสพติด Methadone แทนฝิ่นและเฮโรอีน เชื่อว่าเมื่อเสพติด Methadone แล้วจะทำให้ถอนได้ง่ายจึงใช้รักษาผู้เสพติดฝิ่นและเฮโรอีน
โดยจะต้องมารับยาทุกวันวันละครั้ง และจะค่อยๆลดปริมาณของยาทีละน้อย จนในที่สุดก็จะให้หยุดยา ใช้ระยะเวลาประมาณ 21-30 วัน และจะให้กิจกรรมการฟื้นฟูร่วมไปด้วย
Narcotic Antagonist : เป็นยาต้านสารเสพติดที่ให้กับผู้เสพติดสารจำพวกฝิ่นหรือเฮโรอีนสารเสพติดที่กดหายใจ ถ้าได้รับยานี้แล้วผู้เสพติดจะใช้สารเสพติดไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดอาการคล้ายอาการขาดยา จึงมักใช้เป็นยาสำหรับป้องกันการแอบให้สารเสพติด และใช้สำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินเนื่องจากได้รับสารเสพติดเกินขนาดจนการหายใจถูกกด
Disulfiram (Antabuse) Therapy : ใช้สำหรับรักษาผู้เสพติดสุรา ผู้ที่ต้องการเลิกสุรา ยานี้จะทำให้เกิดความไม่สบายอย่างมากถ้าใช้สุรา โดยยาจะกดการออกฤทธิ์ของเอนไซม์ของตับที่ปกติจะออกฤทธิ์กับแอลกอฮอล์ ทำให้มีการสะสมของ Acetaldehyde ซึ่งสารเคมีตัวนี้จะทำให้เกิดอาการร้อนวูบวาบ มึนงง หายใจขัด
ความหมายของการบำบัดผู้ติดสารเสพติด
เป็นการดำเนินงานเพื่อแก้ไขสภาพร่างกายและจิตใจของ
ผู้ติดสารเสพติดและสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้ปกติ
รูปแบบการบำบัดรักษา
Detoxification : การรักษาโดยนำสารพิษออกจากร่างกาย วิธีการหนึ่งคือวิธีการ "หักดิบ" คือการให้หยุดเสพยาทันที ผู้ติดสารเสพติดอาจะจะต้องทุกข์ทรมานจากการขาดสารเสพติดชั่งระยะเวลาหนึ่งอาจจะเป็นระยะเวลา 7 วัน หรือ 10 วัน เมื่อสารพิษถูกขับออกหมดร่างกายจะเคยชินกับภาวะไม่มีสารเสพติดอยู่ ซึ่งสถาบันการรักษาจะไม่ใช้วิธีการหักดิบเพราะจะทำให้ทุกข์ทรมานมากแต่จะใช้วิธีให้ยาตัวอื่นแทน
Self-Help group : การรวมกลุ่มกันของสมาชิกในกลุ่มที่เผชิญปัญหาคล้ายหันมาร่วมกันช่วยเหลือแลกเปลี่ยนความรู้และวิธีการของการแก้ปัญหา
Counselling & Psychotherapy : เป็นรูปแบบการให้การบำบัดรักษาที่จัดให้กับผู้ติดสารเสพติด ให้หลักการทำจิตบำบัดทั่วไปในการให้การช่วยเหลือผู้ติดสารเสพติด อาจจะให้การบำบัดเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่มก็ได้ เพื่อให้ผู้รับการบำบัดเกิดประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ เรียนรู้วิธีการเผชิญปัญหาแทนการหลีกเลี่ยงปัญหา
การให้คำปรึกษาทางด้านสภาพจิตใจ เป็นการมุ่งเน้นไปที่ปัญหาที่ผู้รับการบำบัดต้องการที่จะแก้ไข
จิตบำบัด จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาตนเอง โดยที่ผู้รับการบำบัดอาจจะมีการแก้ไขปัญหามากกว่า 1 อย่าง
Matrix program
เป็นกระบวนการบำบัดรักษาผู้ติดสารเสพติด ที่เน้นการให้ความรู้ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยและครอบครัว โดยสอดแทรกเข้าไปในระยะต่างๆของการบำบัดรักษาผ่านทางกิจกรรมบำบัดรักษานาน 1 ปี
แบ่งเป็น 2 ระยะ
ระยะที่1 Intensive Phase
เป็นช่วงแรกของการบำบัดรักษาที่ถือว่าสำคัญและวิกฤติที่สุดที่
จะช่วยในผู้ติดสารเสพติดสามารถเลิกสารเสพติดได้หรือไม่ได้
ใช้ระยะเวลา 4 เดือน
กิจกรรมหลัก 4 อย่าง
1.การให้คำปรึกษารายบุคคล/ครอบครัว : เพื่อร่วมกันปรึกษาวางแผนการบำบัดรักษา และโปรแกรมการบำบัดรักษา รวมทั้งเพื่ออำนวยให้ผู้รับการบำบัดและครอบครัวได้พูดคุยเรื่องวิกฤตการณ์ในชีวิตและพฤติกรรมการใช้สารเสพติด เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในระยะของการหยุดเสพสารเสพติด
2.กลุ่มฝึกทักษะการเลิกเสพยาระยะเริ่มต้น : เพื่อให้ผู้รับการบำบัดได้รับการเรียนรู้และฝึกทักษาะสำคัญที่นำไปสู่การเลิกเสพสารเสพติด
3.กลุ่มป้องกันการหวนกลับไปเสพซ้ำ : เพื่อป้องกันผู้รับการบำบัดไม่ให้กลับไปเสพติดซ้ำอีก โดยมีการกำหนดประเด็นต่างๆที่นำไปสู่การกลับไปติดยาซ้ำมาพูดคุยกันในกลุ่ม เพื่อที่จะให้ผู้รับการบำบัดได้ตระหนักรู้และใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง
4.กลุ่มให้ความรู้แก่ครอบครัว : เป็นการที่ให้ผู้รับการบำบัดและครอบครัวได้มีโอกาสมารวมกันในกลุ่ม เพื่อศึกษาเรื่องการติดสารเสพติด
ระยะที่2 After care Phase
เป็นระยะประคับประคอง
ใช้ระยะเวลา 8 เดือนต่อจากระยะที่ 1
กิจกรรมสำคัญมี 2 อย่าง
1.กลุ่มสนับสนุนทางสังคม : เป็นกลุ่มที่การได้รับแรงหนุนจากสังคม เพื่อนและคนรอบข้างเพื่อปรับพฤติกรรม สร้างแบบปผนการใช้ชีวิตที่ดีให้เกิดขึ้นกับผู้รับการบำบัด รับรู้ว่าตนเองเป็นที่ยอมรับในสังคม ผ่านการทำกิจกรรมกลุ่มร่วมกับสังคมในสถานบำบัดและกิจกรรมร่วมกับสังคมภายนอก เพื่อช่วยลดความเครียดให้กับผู้ป่วยตามความเหมาะสม
2.กลุ่มประชุม 12 ขั้นตอน : เป็นการประชุมพบปะกันระหว่างผู้รับการบำบัดเพื่อให้ผู้รับการบำบัดร่วมกันหาวิธีของการเลิกสารเสพติดและตั้งเป็นกลุ่มพร้อมกับคิดค้นหลักการ 12 ขั้นตอนเพื่อนำไปสู่การเลิกสารเสพติด แนวคิดคือการยอมรับว่าตนเองมีปัญหาจากสารเสพติดจนยากเกินกว่าที่จะจัดการด้วยตนเองจึงหันไปพึ่งพาสิ่งที่ศรัทธาที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวติดใจ
1.การยอมรับว่าไม่มีกำลังพอที่จะควบคุมการเสพสารเสพติด และไม่สามารถควบคุมการดำเนินชีวิตเองได้
2.เชื่อว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่เหนือกว่าตัวของเราซึ่งสามารถทำให้เรากลับเป็นปกติได้
3.ได้ทำการตัดสินใจที่จะตั้งใจ และการดำเนินชีวิตของเราอยู่ภายใต้การดูแลจากสิ่งที่เราเชื่อมั่น
4.ได้ทำการพิจารณาเรื่องราวของตัวเองอย่างละเอียด
5.ยอมรับความจริงจากความผิดของตนเองอย่างครบถ้วน
6.พร้อมที่จะให้สิ่งที่ตนเองเชื่อมั่น มาช่วยขจัดนิสัยที่ไม่พอใจต่างๆที่มีอยู่
7.ยินยอมให้สิ่งที่ตนเองเชื่อมั่นขจัดนิสัยที่ไม่พอใจต่างๆของตนเอง
8.ตนเองได้ทำรายชื่อของบุคคลทุกคนที่เราเคยทำร้ายและยินดีที่จะทำบางสิ่งเพื่อชดใช้ให้กับพวกเขา
9.ชดใช้ให้บุคคลหล่านั้นอย่างครบถ้วนเมื่อเรามีโอกาส
10.พิจารณาเรื่องราวของตนเองอย่างต่อเนื่อง เมื่อพบความผิดพลาด ก็พร้อมจะยอมรับมัน
11.พัฒนาความสัมพันธ์กับสิ่งที่เราเชื่อมั่นศรัทธา ซึ่งทำให้ตนเองเกิดความเข้าใจในสิ่งที่เราควรกระทำและสามารถปฏิบัตสิ่งน้ำได้
12.เมื่อเกิดการตื่นตัวของจิตใจจากกระบวนการขึั้นตอนเหล่านี่แล้วเราจะทำการถ่ายทอดสาระเหล่านี้ไปสู่ผู้ติดสารเสพติดคนอื่นๆและนำไปปฏิบัติในกิจวัตรทุกอย่างของเรา