Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม - Coggle Diagram
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม
การผ่าตัดข้อสะโพกเทียมคืออะไร?
การผ่าตัดข้อสะโพกเทียมเป็นการผ่าตัดข้อสะโพกเดิมที่มีปัญหาออกไปแล้วทดแทนด้วยข้อสะโพกเทียม โดยมักพบในผู้สูงอายุที่มีภาวะข้อสะโพกเสื่อมอย่างรุนแรง (severe osteoarthritis of hip joint) หรือในผู้สูงอายุที่มีภาวะกระดูกพรุน หกล้ม ข้อสะโพกหัก (fracture femoral neck) แต่อาจพบในผู้ที่มีอายุน้อยได้ เช่น ภาวะข้อสะโพกขาดเลือด ทำให้หัวข้อสะโพกถูกทำลาย (avascular necrosis of femoral head) เป็นต้น โดยสามารถผ่าตัดเปลี่ยนหัวข้อสะโพกเทียมอย่างเดียว (hemiarthroplasty) หรือผ่าตัดเปลี่ยนทั้งส่วนหัวและเบ้าข้อสะโพก (total hip replacement)
อาการบ่งชี้ข้อสะโพกเสื่อมที่ต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม
อาการปวดสะโพก และปวดมากขึ้นจนไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ได้ปกติ เช่น การยืน เดิน ลุก และนั่ง
การเคลื่อนไหวสะโพกติดขัด เคลื่อนไหวลำบาก มีเสียงลั่นในข้อ
ใช้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดทุกวัน
หากอาการรุนแรงมาก จะมีอาการปวดมากจนไม่สามารถเหยียดข้อสะโพกได้ อาจทำให้ขาอ่อนแรงลงเนื่องจากกล้ามเนื้อที่ควบคุมข้อสะโพกอ่อนแอจากการใช้งานที่น้อยลง
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
เริ่มจากการได้รับการตรวจร่างกายทั่วไปอย่างละเอียด
ตรวจเลือด ปัสสาวะ และเอกซเรย์
ผู้เข้ารับการผ่าตัดอาจจำเป็นต้องงดยาบางชนิด
ควรเตรียมในเรื่องของสิ่งแวดล้อมภายในบ้าน
ขั้นตอนการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมอาจใช้วิธีระงับความรู้สึกระหว่างผ่าตัดแบ่งได้เป็น 2 วิธี คือ การดมยาสลบ หรือการฉีดยาเข้าไขสันหลัง
แพทย์จะทำการตัดเอาส่วนหัวของกระดูกสะโพกออก
การผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
หลังผ่าตัดคนไข้ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 5-7 วัน
การปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัด
ภายหลังการเปลี่ยนสะโพกเทียมช่วงแรกๆ คนไข้จำเป็นต้องปฏิบัติตัวทำกิจวัตรประจำวันอย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยและการฟื้นฟูร่างกายที่ดี -การลงจากเตียงนอน ควรเริ่มจากการขยับตัวโดยขยับไปด้านข้างที่ทำการผ่าตัด จากนั้นค่อยๆ เลื่อนสะโพกโดยใช้ข้อศอกช่วยดันลำตัวให้ตั้งตรง ไม่ควรบิดหรือหมุนขา เขยิบขาข้างที่ไม่ได้ผ่าตัดมาไว้ด้านข้าง นั่งลงบริเวณขอบเตียง ใช้วอร์คเกอร์ช่วยพยุงตัวขณะยืน -การเดิน ควรทิ้งน้ำหนักตัวให้สมดุลกับวอร์คเกอร์ ค่อยๆ เดินขยับไปด้านหน้าโดยยกขาข้างที่ผ่าตัดก้าวนำขาอีกข้าง ค่อยๆ เดินโดยปล่อยให้วอร์คเกอร์รับน้ำหนักตัวไว้ -การนั่ง เริ่มจากการโน้มตัวไปด้านหน้า ปล่อยน้ำหนักตัวที่วอร์คเกอร์และก้าวขาด้านที่ไม่ได้ผ่าตัดตามไปด้านหน้าจนเท้าทั้ง 2 ข้างเสมอกัน นั่งในท่าที่มั่นคง หลังแนบกับพนักพิง โดยที่มือจับที่พนักเท้าแขน ไม่ควรเลือกเก้าอี้ที่เตี้ยมาก เพราะจะทำให้เข่าต้องงอเกิน 90 องศ