Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบตาและการมองเห็น - Coggle Diagram
ระบบตาและการมองเห็น
ต้อลม ต้อเนื้อ
สาเหตุ
เกิดจากดวงตาถูกรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสียูวี)ในแสงแดดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายปี ทำให้เซลล์เยื่อบุตาขาวสร้างสารประเภทโปรตีนและไขมันมากกว่าปกติจนเกิดเป็นก้อนหรือแผ่นหนาบนเยื่อบุตาขาวข้างกระจกตาดำ
การวินิจฉัย
- การซักประวัติ
- การตรวจร่างกาย
2.1 ตรวจการมองเห็น (Visual
acuity) โดยใช้วิธีวัดสายตา (Snellen’s chart)
2.2 ตรวจเยื่อบุตา (Conjunctiva) จะพบPinquecula
ต้อลมเป็นก้อนนูนสีขาวเหลืองอยู่ที่บริเวณตาขาวทั้งด้านหางตาและหัวตา สาเหตุเช่นเดียวกับต้อเนื้อ
อาการแสดง
อาการผู้ป่วยอาจไม่มีอาการใด ๆแต่ถ้ามีอาการต้อลมอักเสบตาจะแดงช้ำ ในบริเวณรอบต้อและรู้สึกระคายเคืองเหมือนมีผงเข้าตาทั้งนี้ ต้อลมและต้อเนื้อไม่ใช่เนื้อร้ายหรือมะเร็งแต่จะทำให้ตาเกิดการอักเสบได้มากกว่าปกติควรป้องกันไม่ให้ต้อลมอักเสบบ่อยเพราะจะทำให้กลายเป็นต้อเนื้อที่มีเนื้อเยื้อลามเข้าไปบังที่จุดศูนย์กลางของกระจกตาดำทำให้ตามัวลงจนมองเห็นไม่ชัด
ต้อลม (ตาลม) เป็นก้อนเนื้อนูนที่บนเยื้อบุตาขาวข้างกระจกตาดำมีลักษณะเป็นแผ่นหนาหรือนูนกลมสีขาวเหลืองมักพบทางด้านหัวตามากกว่าหางตาบางครั้งเกิดได้ทั้งสองบริเวณ
ต้อกระจก
อาการต้อกระจก
บางคนอาจต้องเปลี่ยนแว่นบ่อย แต่เมื่อต้อกระจกเป็นมากขึ้นการเปลี่ยนแว่นจะไม่ช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น มองเห็นแสงกระจาย ขณะขับรถตอนกลางคืน รู้สึกมัวคล้ายมองผ่านหมอก สังเกตเห็นต้อสีขาวตรงรูม่านตา เห็นภาพซ้อน
สาเหตุของโรค
ต้อกระจกเกิดจากความเสื่อมของโปรตีนซึ่งเป็นองค์ประกอบของเลนส์ตาทำให้เลนส์ตาขุ่น หรือนิวเคลียสแข็งขึ้นโดยจะพบความเปลี่ยนแปลงนี้สัมพันธ์กับอายุที่เพิ่ม ขึ้น มักพบมากในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปหรือมีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิดจากมารดาติดเชื้อหัดเยอรมันขณะตั้งครรภ์
การรักษา
- การรักษาด้วยยาที่ใช้รักษาในโรคกระจกตามักจะเป็นยาหยอดตาฆ่าเชื้อต่างๆ ยาหยอดตาลดอักเสบ ยาหยอดน้ำตาเทียม
- การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา (corneat transplantation) ปัจจุบันมีหลายวิธีการจะเลือกผ่าตัดแบบไหนขึ้นอยู่กับพยาธิสภาพเกิดขึ้นในกระจกตา
- การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาเทียม (Keratoprosthesis)
- การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดกระจกตา (Limbal stem
cett transplantation)
การวินิจฉัยโรค
- ตรวจการมองเห็น (Visual acuity)
- เมื่อตรวจดูตาจะพบว่าแก้วตามีลักษณะขุ่นขาวเมื่อใช้ไฟส่องผู้ป่วยจะรู้สึกว่าตาพร่า เมื่อใช้เครื่องส่องตา(Ophthalmoscope)ตรวจดูจะไม่พบปฏิกิริยาสะท้อนสีแดง (Red reflex)
- หากพบเกิดจากการติดเชื้อจะตรวจหาเชื้อโดยวิธีการตรวจหาภูมิของร่างกายต่อเชื้อโรค Antibody การตรวจกระจกตาด้วยกล้องคอนโฟคอล (Confocal microscope)
-
-
ต้อหิน
สาเหตุ
เกิดจากความเสื่อมของเส้นประสาทตาหรือเส้นประสาทตาถูกทำลายโดยเป็นเส้นประสาทที่เชื่อมระหว่างตากับสมองปัจจัยหลักมาจากความดันในลูกตาสูง ซึ่งเกิดจากการระบายน้ำออกของลูกตามีการอุดตันและส่งผลให้ความดันภายในลูกตาเพิ่ม ขึ้นอย่างช้า ๆเสื่อมสภาพ ทำให้ระบายน้ำออกจากลูกตาได้ไม่ดีพอจนทำลายประสาทตาในที่สุด
ชนิดของต้อหินและอาการแสดง
- ต้อหิน มุมปิด
- ต้อหินมุมเปิด
- ต้อหินแทรกซ้อน
อาการ
ถ้าเป็นแบบเฉียบพลันจะทำให้เกิดอาการปวดตาตาแดง ตามัว อาการอาจรุนแรงมากจนเกิด
คลื่นไส้อาเจียน สายตาจะค่อย ๆมัวลงอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในระยะเป็นเดือนหรือเป็นปี
การวินิจฉัย
- การซักประวัติ
- การตรวจร่างกาย
2.1. ตรวจลักษณะภายนอกของตา (External eye examination) เปลือกตา (Eyelids) และขนตา (Eye lashes)
2.2. ตาขาว (Sclera) ดูสีของตาขาวซึ่งจะตรวจไปพร้อมๆกับการตรวจเยื่อบุตา
2.3. ม่านตา ( iris ) และรูม่านตา ( pupil ) รูม่านตาขยายกว้าง ( mydriasis ) พบในผู้ป่วยต้อหิน หรือพวกที่ได้รับยากลุ่มsympatho mimetic agent เช่น atropine
2.4. ความดันในลูกตา (Intraocular pressure)ถ้าตรวจโดยใช้ tonometer ค่าปกติจะอยู่ระหว่าง
15-20 มม.ปรอท ถ้าตรวจพบลูกตาแข็งเหมือนหิน หรือค่าความดันในลูกตาสูง แสดงว่าเป็นต้อหิน