Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความหลากหลายของพรรณพืชในวัดป่าเขาคงคา อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา,…
ความหลากหลายของพรรณพืชในวัดป่าเขาคงคา
อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
วัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาความหลากหลายของพรรณพืช
ในวัดป่าเขาคงคา
เพื่อเป็นทางหนึ่งในการให้ข้อมูลทางวิชาการแก่ชุมชน สร้างความเข้าใจ ด้วยหลักการ และหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
เพื่อวางแนวทางการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์จาก
ทรัพยากรพรรณพืชท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
วิธีดำเนินการวิจัย
การวิเคราะห์ข้อมูลความหลากหลายของพรรณพืช
วิเคราะห์ค่าดัชนีความสำคัญของพันธุ์ไม้ ค่าดัชนีความหลากหลายของชนิดพันธุ์ ค่าดัชนีความสม่ำเสมอในการกระจายตัวค่าความหลากหลาย
วิธีการเก็บตัวอย่างและเก็บรวบรวมข้อมูล
เก็บตัวอย่างและถ่ายภาพตัวอย่างพืชเพื่อการระบุชนิด
ตรวจหาชื่อวงศ์ ชื่อวิทยาศาสตร์และชื่อพื้นเมือง
ด้วยหนังสือชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย และเอกสาร
ทางพฤกษศาสตร์อื่นที่เกี่ยวข้อง
การสำรวจและเก็บข้อมูล
ดำเนินการสำรวจและเก็บข้อมูลพรรณพืชในวัดป่าเขาคงคา
ตำบลโคกกระชายอำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ตั้งอยู่ที่พิกัด N14°27'30.31" E102°15'46.01"
สำรวจด้วยวิธีการวางแปลงตัวอย่างแบบสี่เหลี่ยม ขนาด 20x20 เมตร เพื่อสำรวจไม้ต้น และขนาด 5x5 เมตร
เพื่อสำรวจไม้พื้นล่างจำนวน 18 แปลงตัวอย่าง
วัสดุและอุปกรณ์
ตลับเมตรและเชือกสำหรับวางแปลงตัวอย่าง
เครื่องระบุพิกัดทางภูมิศาสตร์
สมุดและเครื่องเขียน
ในการบันทึกข้อมูล
กล้องถ่ายภาพ
กรรไกรตัดกิ่งและเสียมสำหรับเก็บตัวอย่างพรรณไม้
ถุงและ
ขวดเก็บตัวอย่าง
เอธิลแอลกอฮอล์ร้อยละ 70
กระดาษบันทึกข้อมูลพรรณไม้
กระดาษหนังสือพิมพ์
กระดาษลูกฟูก
แผงอัดพรรณไม
กระดาษติดตัวอย่างพรรณไม
ผลการวิจัย
กลุ่มไม้ต้น
จากการวางแปลงตัวอย่างพบไม้ต้น จำนวน 38 วงศ์ 83 สกุล 98 ชนิด วงศ์ที่พบมากที่สุด คือ วงศ์ถั่ว จำนวน 22 ชนิด รองลงมา คือ วงศ์เข็ม จำนวน 10 ชนิด และวงศ์น้อยหน่า วงศ์มะม่วง วงศ์ยางนา วงศ์ตะแบก จำนวนวงศ์ละ 4 ชนิด
ไม้ต้นชนิดที่สำรวจพบมากที่สุดในพื้นที่ ได้แก่ ติ้วเกลี้ยง รองลงมา คือ เสี้ยวป่า และตามลำดับ
ไม้ต้นชนิดที่พบน้อยในพื้นที่ได้แก่ กระถินเทพา กร่าง กระโดน โมกหลวง ตีนนก อินทนิลน้ำ ผักสาบ มะตูม น้อยหน่า คูน แสมสาร ตะแบกหนู ยางนา พฤกษ์ กัดลิ้น คำมอกน้อย และน้ำใจใคร่ พบชนิดละ 1 ต้น
ไม้ต้นชนิดที่มีค่าดัชนีความส าคัญสูงที่สุด คือ เสี้ยวป่า มีค่าเท่ากับ 20.5111 รองลงมา คือ ติ้วเกลี้ยง และแดง มีค่าเท่ากับ 19.5281 และ 19.1865 ตามลำดับ
ไม้ต้นชนิดที่มีการกระจายตัวมากที่สุดในพื้นที่ คือ แดง พบใน 18 แปลงตัวอย่าง รองลงมาคือ เสี้ยวป่า และมะม่วงหัวแมงวัน พบใน 15 และ 14 แปลงตัวอย่าง ตามลำดับ
ส่วนไม้ต้นชนิดที่มีความเด่นในด้านพื้นที่หน้าตัดมากที่สุดในพื้นที่ คือ แดง รองลงมา คือ พะยูง และเต็ง ตามลำดับ
กลุ่มไม้พื้นล่าง
ไม้พื้นล่างชนิดที่สำรวจพบมากที่สุดในพื้นที่ ได้แก่ พลูช้าง รองลงมา ได้แก่ หญ้าใบไผ่ และมะแปบป่า ตามลำดับ ไม้พื้นล่างที่พบได้น้อยในพื้นที่ ได้แก่ หญ้าตะขาบ อ้อยช้าง ช นมแมวซ้อน กล้วยเต่า อุตพิด หวายขม ผักคราด แจง กำแพงเจ็ดชั้น มะพอก มันเทียน ตำลึงตัวผู้ มันเสา ไกรทอง แสลงพัน ตะคร้ำ อะราง สัก มะก่องข้าว พลับพลำ หญ้าขัด ตานทราย ขี้ไก่ย่าน คำมอกหลวง ส้มกบ ข้าวสารป่า หมักม่อ มะไฟแรดขี้อ้น พันงูเขียว เถาคัน และ ตังใบเตี้ย พบชนิดละ 1 ต้น
ไม้พื้นล่างชนิดที่มีการกระจายตัวมากที่สุดในพื้นที่ คือ เสี้ยวป่า พบใน 15 แปลงตัวอย่าง รองลงมา คือ เพ็ก และมะแปบป่า พบใน 11 และ 10 แปลงตัวอย่าง ตามลำดับ ไม้พื้นล่างชนิดที่มีค่าดัชนีความสำคัญสูงที่สุด คือ พลูช้าง มีค่าเท่ากับ 11.9158 รองลงมา คือ เสี้ยวป่า และหญ้าใบไผ่ มีค่าเท่ากับ 11.0902 และ 10.5566 ตามลำดับ
ไม้ต้นและไม้พื้นล่างมีค่าดัชนีความหลากหลายของชนิดพันธุ์ เท่ากับ 3.6656 และ 3.9968 ตามลำดับ ค่าความสม่ำเสมอในการกระจายตัว เท่ากับ 0.7995 และ 0.8031 ตามลำดับ ค่าความหลากหลายเท่ากับ 39.0785 และ 54.4228 ตามลำดับ
จากการวางแปลงตัวอย่างพบไม้พื้นล่าง ประกอบด้วย กล้าไม้ ลูกไม้ ไม้พุ่ม ไม้ล้มลุก และไม้เลื้อย จำนวน 61 วงศ์ 137 สกุล 145 ชนิด วงศ์ที่พบมากที่สุด คือ วงศ์ถั่ว จำนวน 9 ชนิด รองลงมา คือ วงศ์ชบา จำนวน 8 ชนิด และวงศ์โมก จำนวน 7 ชนิด ตามลำดับ
ที่มาและความสำคัญ
จากการสอบถามข้อมูลในพื้นที่วัดป่าเขาคงคา ตั้งอยู่ในตำบลโคกกระชาย อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ ทิศเหนือ ติดกับตำบลเฉลียง ทิศใต้และทิศตะวันตก ติดกับตำบลบ้านใหม่ ทิศตะวันออกหรือด้านหน้าของวัด ติดกับเส้นทางคมนาคมและบ้านโนนระเวียง หมู่ที่ 3 ตำบลโคกกระชาย ส่วนด้านข้างและด้านหลังซึ่งเป็นพื้นที่ป่าติดกับพื้นที่เกษตรกรร
การศึกษาความหลากหลายของพรรณพืชทั้งเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณจะทำให้ทราบ ถึงทรัพยากรพรรณพืชที่มีอยู่ สถานภาพและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของพรรณพืชที่อาจนำไปสู่การสูญหายไปจากพื้นที่ได้
ป่าไม้ให้ประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิต ช่วยรักษา
สมดุลของสิ่งแวดล้อม ดิน สภาพอากาศ น้ำ และความชุ่มชื้น เพื่อเกื้อกูลแก่ทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ
อภิปรายผล
จากการสำรวจไม้ต้นและไม้พื้นล่างในวัดป่าเขาคงคา มีพรรณไม้หลายชนิดที่พบได้จากทั้ง 2 กลุ่มที่ทำการสำรวจ ได้แก่ กลุ่มไม้ต้นและกลุ่มไม้พื้นล่าง
เมื่อเปรียบเทียบไม้ต้น 98 ชนิด และไม้พื้นล่าง 145 ชนิด กับการศึกษาในป่าชุมชนโคกใหญ่ จังหวัดมหาสารคาม พบพรรณไม้ต้น 37 ชนิด พรรณไม้พื้นล่าง 48 ชนิด ป่าโคกไร่ จังหวัดมหาสารคาม พบพรรณไม้ต้น 78 ชนิด และไม้พื้นล่าง 40 ชนิด จะเห็นได้ว่าการศึกษานี้มีจำนวนพรรณไม้ที่มากกว่า ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากหลายปัจจัย เช่น ความแตกต่างของขนาดพื้นที่ศึกษา รูปแบบที่ใช้ในการศึกษา และลักษณะทางนิเวศวิทยา เป็นต้น
พรรณไม้ในพื้นที่แต่ละชนิดมีจ านวนต้นและการกระจายในพื้นที่แตกต่าง ซึ่งพรรณไม้ ในกลุ่มไม้ต้นชนิดที่พบมากที่สุดในพื้นที่ ได้แก่ ติ้วเกลี้ยง รองลงมา คือ เสี้ยวป่า และแดง ตามลำดับ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลไม้ต้นและไม้พื้นล่างที่มีค่าดัชนีความหลากหลายของชนิดพันธุ์เท่ากับ 3.6656 และ 3.9968 ค่าความสม่ำเสมอในการกระจายตัว 0.7995 และ 0.8031 ตามลำดับ ซึ่งเป็นค่าที่ค่อนข้างสูง
พรรณไม้ในพื้นที่ยังมีความแปรผันทั้งในด้านจำนวนต้นและชนิดพันธุ์อยู่เสมอ อาจเนื่องจากบริบทของพื้นที่วัดป่าเขาคงคาที่มีความเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของชุมชนโดยตรง มีการใช้ประโยชน์ในพื้นที่วัดเป็นประจำรวมทั้งยังมีการรวบรวมพืชที่เกี่ยวข้องทางพุทธศาสนาหรือนำพืชอื่นเข้ามาปลูกในพื้นที่ ทำให้พรรณพืชที่มีอยู่เดิมอาจได้รับผลกระทบด้านการเจริญเติบโตและการกระจายพันธุ์
สรุปผลการวิจัย
จากการสุ่มวางแปลงตัวอย่างแบบสี่เหลี่ยม ขนาด 20x20 เมตร จำนวน 18 แปลงตัวอย่างพบพรรณไม้ทั้งสิ้น จำนวน 67 วงศ์ 170 สกุล 195 ชนิด จำแนกออกเป็น เฟินและพืชใกล้เคียงเฟิน 1 ชนิด พืชเมล็ดเปลือย 1 ชนิด พืชมีดอกกลุ่ม Magnoliids 9 ชนิด พืชมีดอกกลุ่ม Monocots 24 ชนิด และพืชมีดอกกลุ่ม Eudicots 160 ชนิด
ผลการศึกษาจัดอยู่ในกลุ่มไม้ต้น จ านวน 38 วงศ์
83 สกุล 98 ชนิด กลุ่มไม้พื้นล่าง จ านวน 61 วงศ์ 137 สกุล 145 ชนิด
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพืช พบว่า กลุ่มไม้ต้นและกลุ่มไม้พื้นล่างมีค่าดัชนีความหลากหลายของชนิดพันธุ์และค่าความสม่ำเสมอในการกระจายตัวใกล้เคียงกัน คือ 3.6656 3.9968 และ 0.7995 0.8031 ตามลำดับ พืชชนิดที่มีค่าดัชนีความสำคัญสูงในพืชทั้งสองกลุ่ม คือ เสี้ยวป่า
พรรณไม้วงศ์ที่พบชนิดพันธุ์มากที่สุด คือ Fabaceae จำนวน 30 ชนิด รองลงมา คือ วงศ์ Rubiaceae จำนวน 12 ชนิด และ วงศ์ Malvaceae จำนวน 10 ชนิด ตามลำดับ ส่วนวงศ์ที่พบจำนวนชนิด น้อยที่สุดมี 35 วงศ์
นางสาวปิยนุช ณ คำตัน รหัส 611120401
โปรแกรมวิทยาศาสตร์ทั่วไป คณะครุศาสตร์