Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Chapter 5 Entering and Contracting การเข้าสู่องค์การและการทำข้อตกลงกับอง…
Chapter 5
Entering and Contracting
การเข้าสู่องค์การและการทำข้อตกลงกับองค์การ
ระบบความสัมพันที่ก่อให้เกิดความร่วมมือ
OD Practitioner เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร
องค์กร เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ OD Practitioner
OD Practitioner และ Client จะเข้าสู่ระบบความสัมพันธ์นี้
คืออะไร
เกี่ยวข้องกับการระบุปัญหาเบื้องต้นขององค์กร
เกี่ยวข้องกับโอกาสที่จะพัฒนาและจัดตั้งความสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดความร่วมมือกันระหว่าง OD Practitioner กับสมาชิกขององค์กร เพื่อแก้ไขปัญหา
เป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการ OD
เป็นการกำหนดปัจจัยเบื้องต้น เพื่อที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆของกระบวนการ OD
วินิจฉัยปัญหา
วางแผนและนำ Intervention มาใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงองค์กร
ประเมินผล และทำให้ Intervention เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร
องค์ประกอบของการเข้าสู่องค์การ
การกำหนดบุคคลในองค์กรให้เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
การเลือก OD Practitioner ที่เหมาะสม
การทำให้ปัญหาขององค์การมีความแจ่มชัดขึ้น
เมื่อองค์กรต้องการความช่วยเหลือจาก OD Practitioner
องค์กร
บอกปัญหาขององค์กร
ทั่วๆไป
บริษัทโตเร็วเกินไป
เรามีความจำเป็นต้องเตรียมตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
เฉพาะเจาะจง
คนขาดงานเพิ่มขึ้น
คนลาออกเพิ่มขึ้น
ส่วนแบ่งตลาดลดลง
วิธีการทำให้ปัญหามีความกระจ่างชัด
สิ่งที่คาดหวังร่วมกัน(Mutal Expectations)
ความคาดหวังของ Client กับ OD Practitioner
Client
บอกว่าต้องการ ให้ OD Practitioners ทำอะไร และผลลัพธ์ที่ต้องการคืออะไร
สิ่งที่องค์กร คาดหวังจาก
OD Practitioner
OD Practitioner
สิ่งที่ OD Practitioner คาดหวังว่าจะได้รับจาก OD Process
การรายงานผลให้ผู้ที่จะเป็น Client ต่อไปทราบ
ค่าตอบแทนที่เหมาะสม
ชื่อเสียงการยอมรับ
โอกาสที่จะลองใช้ Intervention ใหม่ๆ
การสร้างข้อตกลง
ประกอบด้วย 3 สิ่งที่สำคัญ
เวลาและทรัพยากรที่ใช้
กฎเกณฑ์ที่ใช้ทำงานร่วมกัน
สิ่งที่แต่ละฝ่ายคือทั้ง OD Practitioner และองค์กร คาดหวังจาก OD Process
เป็นส่วนขยายของกระบวนการเข้าสู่องค์การ และเป็นการอธิบายว่า กระบวนการ OD จะดำเนินไปอย่างไร
เวลาและทรัพยากร(Time and Resources)
การเปลี่ยนแปลงจะสามารถประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อ “ทั้งOD Practitioner และองค์กร มีการกำหนดอย่างชัดเจนว่าจะใช้เวลา และทรัพยากรเท่าใด”
การเลือก OD Practitioner
Gardon Lippitt
ทักษะที่มีความสัมพันธ์กับปัญหานั้นๆ
บอกหน้าที่ของตนเองอย่างแจ่มชัดหรือไม่
การให้ความสำคัญแก่ปัญหามากน้อยเพียงใด
เป็นสมาชิกสมาคมวิชาชีพหรือไม่
ความสามารถของ OD Consultant ในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
การรับรองจาก Client อื่นๆ
OD Practitioner มีแนวคิดที่เปิดกว้างในการแก้ปัญหา หรือมีวิธีการ/โปรแกรมสำเร็จ (Fixed Program) ที่สามารถใช้ได้กับทุกองค์กร
Resources
สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ OD Process สำเร็จ
ตามแนวคิดของ OD Practitioner
การได้รับคำมั่นสัญญาจากบุคคลต่างๆ
เวลาอย่างเพียงพอ
ข้อมูลที่สำคัญ
Key people
ตามแนวคิดขององค์การ
ความรวดเร็วในการวินิจฉัยปัญหา
เสียค่าใช้จ่ายน้อยสุด
ขจัดอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้น
สิ่งที่ไม่จำเป็นแต่ถ้ามีก็ดี
รายงาน
การเข้าถึงข้อมูล
การกำหนดบุคคลในองค์การว่าใครจะเป็นผู้เกี่ยวข้อง
ใครคือ “Relevant Client”
บุคคลที่มีผลโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลง
กฎที่ใช้ร่วมกัน(Ground rules)
เช่น เรื่องของความลับ ถ้า OD Practitioner ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัว หรือปัญหาระหว่างบุคคล
เป็นการกำหนดว่า Client และ OD Practitioner จะทำงานร่วมกันอย่างไร
จะยุติการเป็น Consult อย่างไร
เรื่องของการช่วยตัดสินใจ หรือให้ความเห็นต่างๆ แก่ Expert หรือ Manager
ต้องมีการเก็บข้อมูลเบื้องต้น
สัมภาษณ์ Key Member (บุคคลสำคัญๆ) 2-3 คนเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจเบื้องต้น
เก็บข้อมูลในระยะเวลาสั้นๆ 2-3 ชม. ถึง 1-2 วัน
ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น เพื่อให้ OD Practitioner & Client กำหนดทางเลือก ในการดำเนินการต่อไป
ตรวจสอบบันทึกต่างๆของบริษัท