Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สารน้ำและสารอาหาร ที่ให้ทางหลอดเลือดดำ - Coggle Diagram
สารน้ำและสารอาหาร
ที่ให้ทางหลอดเลือดดำ
สารน้ำที่ให้ทางหลอดเลือดดำ
ข้อบ่งชี้ การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ผู้ป่วยรับประทานอาหารทางปากไม่ได้
ผู้ป่วยที่มีภาวะไม่สมดุลของกรด-ด่าง
ผู้ป่วยที่สูญเสียน้ำและเกลือแร่ปริมาณมาก
ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับเลือดหรือผ่าตัด
ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับยาทางหลอดเลือดดำ
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ มี 3 ทาง
ทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย (Peripheral intravenous infusion)
-เป็นการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำที่อยู่ส่วนปลายของมือ แขนและขา ให้เป็นระยะเวลาสั้นๆ เช่น การให้สารน้ำ 0.9% NSS, การให้สารละลายยาทาง IV piggyback
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำใหญ่ (Central venous therapy)
-เป็นการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำขนาดใหญ่ที่คอหรือท้อง ได้แก่ subclavian veins , internal jugular veins , external jugular veins , nominate vein , femoral veins
-วัตถุประสงค์เพื่อ ให้สารน้ำเข้าไปในร่างกายในระยะเวลารวดเร็วและปริมาณมาก ให้สารอาหารที่มีความเข้มข้นสูง เช่น การให้สารอาหาร TPN
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำใหญ่ทางอุปกรณ์ที่ฝังใต้ผิวหนัง (implanted vascular access devices : IVADs)
-เป็นการให้สารน้ำทางอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แทนหลอดเลือดดำที่ฝังไว้ใต้ผิวหนังบริเวณหน้าอก แขน ขา หรือท้อง (ปลายสายสอดผ่านเข้าหลอดเลือดดำใหญ่)
-วัตถุประสงค์เพื่อ เป็นอุปกรณ์สำหรับการให้สารน้ำ สารอาหาร ยา เลือด ใช้สำหรับดูดเลือดเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ใช้กับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องให้สารละลายทางหลอดเลือดดำเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง เช่น ผู้ป่วยเคมีบำบัด ผู้ป่วยโรคเลือด
ประเภทของสารน้ำ
สารละลายไอโซโทนิก (Isotonic solution)
-เป็นสารน้ำที่มีความเข้มข้น osmolality เท่ากับน้ำเลือด (plasma) ในร่างกาย (280-310 mOsm/L)
-ใช้เพื่อทดแทนสารน้ำที่ร่างกายสูญเสีย (ทดแทนน้ำที่อยู่นอก cell) เช่น 0.9% sodium chloride (NSS) , Dextrose 5% in water (D5W) , Ringer’s lactate solution (LRS)
สารละลายไฮโปโทนิก (Hypotonic solution)
-เป็นสารน้ำที่มีความเข้มข้น osmolality ต่ำกว่าความเข้มข้นในน้ำเลือด (plasma) ในร่างกาย (<280 mOsm/L)
-การให้สารน้ำชนิดนี้มีผลให้ cell ขยายตัว ใช้เพื่อทดแทนสารน้ำที่ร่างกายสูญเสีย โดยที่ระดับโซเดียมในพลาสมาไม่เพิ่มขึ้น เช่น 0.45% sodium chloride (NSS/2)
สารละลายไฮเปอร์โทนิก (Hypertonic solution)
-เป็นสารน้ำที่มีความเข้มข้น osmolality สูงกว่าความเข้มข้นในน้ำเลือด (plasma) (>310 mOsm/L)
-ทำให้เกิดการดึงน้ำเข้าช่องว่างของหลอดเลือดด้วยกระบวนการ osmosis ผลคือเพิ่มปริมาณน้ำในหลอดเลือด
Enteral nutrition support
การให้โภชนบำบัดทางสายให้อาหารเข้าสู่กระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กโดยตรง ซึ่งอาจเป็นการใส่สายผ่านรูจมูก เช่น nasogastric tube, nasojejunal tube หรือการใส่สายผ่านผนังหน้าท้องเข้าสู่กระเพาะอาหารโดยตรง เช่น percutaneous endoscopic gastrostomy (PEG)
สายให้อาหารที่ให้ระยะเวลาสั้น (ไม่เกิน 4-6 สัปดาห์)
-สายให้อาหารที่ใส่ผ่านจมูก หรือปาก
-วัสดุที่เหมาะกับการใช้ คือ โพลียูรีเทน ซิลิโคน (ราคาแพง) เนื่องจากลดการระคายเคืองเยื่อบุจมูก
-ตรวจสอบตำแหน่งปลายสายทุกครั้งภายหลังใส่สาย ว่าปลายสายอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องก่อนจะให้อาหารหรือยา
สายให้อาหารที่ใช้ระยะเวลายาว (นานกว่า 4-6 สัปดาห์)
-ได้แก่ สายให้อาหารผ่านจากหน้าท้อง โดยปลายสายอยู่ในกระเพาะอาหาร(gastrostomy tube) และสายให้อาหารผ่านจากหน้าท้อง โดยปลายสายอยู่ที่ลำไส้เล็ก (jejunostomy tube)
-วัสดุที่เหมาะกับการใช้ คือ โพลียูรีเทน ซิลิโคน
-ตรวจสอบตำแหน่งปลายสายก่อนจะให้อาหารหรือยา
ข้อบ่งชี้ในการให้อาหารทางสายให้อาหาร
เมื่อระบบทางเดินอาหารของผู้ป่วยสามารถใช้ได้
เมื่อผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานได้เองทางปาก หรือรับประทานได้เองไม่เพียงพอ
ผู้ที่มีภาวะทุพโภชนาการ ที่ไม่สามารถกินอาหารได้ปกติ หรืออาหารทางการแพทย์เสริมได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ผู้ที่มีปัญหาด้านการกลืน เช่น ผู้ป่วยโรคสมอง ผู้ป่วยที่มีปัญหากล้ามเนื้อ การกลืน
ข้อห้ามในการให้อาหารทางสายให้อาหาร
ทางเดินอาหารอุดกั้นที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยการผ่าตัด
เลือดออกในทางเดินอาหารปริมาณมาก
3.ภาวะลำไส้สั้นที่รุนแรง โดยมีลำไส้เล็กเหลืออยู่น้อยกว่า 100 ซม.
ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะช็อกอย่างรุนแรง
ภาวะอาเจียนหรือถ่ายเหลวรุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อการให้ยา
รูรั่วของลำไส้อยู่ต่ำกว่าปลายสายให้อาหาร
ลำไส้ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้ชนิดรุนแรง
วิธีการให้อาหารทางสายให้อาหาร
การให้อาหารด้วยวิธีหยดต่อเนื่อง (continuous feeding)
การให้อาหารด้วยวิธีหยดเป็นมื้อ (intermittent feeding)
การให้อาหารด้วยวิธี bolus feeding
Parenteral nutrition support
เป็นการให้โภชนบำบัดทางหลอดเลือดดำ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต (น้ำตาล) โปรตีน(กรดอะมิโน) ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ อาจให้แบบแยกขวด (separate bottle) หรือแบบรวมกันในถุงเดียว (all in one bag)
การใส่สายเพื่อให้อาหารทางหลอดเลือดดำ
peripheral venous access
-การแทงเข็มหรือการใส่สายควรเลือกหลอดเลือดดำส่วนปลาย (peripheral vein) บริเวณปลายมือหรือแขน เนื่องจากอุบัติการณ์เกิดการอักเสบของหลอดเลือดดำต่ำกว่าที่เท้าหรือขา
-เหมาะกับการให้สารอาหารช่วงระยะเวลาสั้นๆ
-ข้อดี อุบัติการณ์ของการเกิดการติดเชื้อต่ำกว่า, การแทงเข็ม หรือใส่สายสวนสามารถทำได้ง่ายกว่า central vein
-ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่น การอักเสบของหลอดเลือดด้าส่วนปลาย ได้แก่ อาการเจ็บบริเวณผิวหนังที่แทงเข็ม การอักเสบนี้ทำให้เกิดลิ่มเลือด (thrombosis) และการอุดตัน (occlusion) ของหลอดเลือดดำทำให้ผิวหนังมีการบวม แดง และคลำได้ลำหลอดเลือดที่ภายในมีลิ่มเลือด
-ปัจจัยที่ท้าให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือดด้าส่วนปลาย เช่น ตำแหน่งของเข็ม ระยะเวลาที่เข็มหรือสายสวนคาไว้ ชนิดของสารอาหาร ความเข้มข้นของสารละลายที่ให้ สารละลายที่มีฤทธิ์เป็นกรดและสารที่ออกฤทธิ์ต่อหลอดเลือด ยาบางชนิดที่ทำให้หลอดเลือดระคายเคือง
central venous access
-การแทงและใส่สายสวน (catheter) ให้ตำแหน่งของปลายสายสวนอยู่ในหลอดเลือดดำส่วนกลาง
-ตำแหน่งของหลอดเลือดดำที่แทงหรือใส่สายสวน ได้แก่
ใส่สายสวนที่หลอดเลือดดำส่วนปลายแล้วให้ปลายสายสวนอยู่ในหลอดเลือดดำส่วนกลาง เรียกวิธีนี้ ว่า Peripheral inserted central venous catheter (PICC line) placement
Central venous catheter (CVCs) placement
Parenteral Nutrition Formula
คาร์โบไฮเดรต
-ให้พลังงานเฉลี่ย 3.4 กิโลแคลอรีต่อกรัม
-อยู่ในรูปน้ำตาลเชิงเดี่ยว (monosaccharide) เท่านั้น ได้แก่ glucose
-สูตรที่ใช้มีความเข้มข้นตั้งแต่ 5-50%
-หากให้ทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย ไม่ควรใช้ความเข้มข้นที่มากกว่า 10% เนื่องจาก osmolality สูง อาจทำให้เกิดหลอดเลือดอักเสบได้
โปรตีน
-อยู่ในรูปของกรดอะมิโน (amino acid) สามารถให้ในรูป Dipeptide (การจับคู่ของกรดอะมิโน 2 ชนิด) ได้
-กรดอะมิโน ให้พลังงานเฉลี่ย 4 กิโลแคลอรีต่อกรัม
-สูตรที่ใช้มีความเข้มข้นตั้งแต่ 5-15 %
-หากให้ทางหลอดเลือดดำส่วนปลายไม่ควรใช้ความเข้มข้นที่มากกว่า 10 %
-การให้กรดอะมิโน ต้องให้คู่กับ กลูโคส หรือ กลูโคส และไขมัน เสมอ
-ต้องระวังการใช้ในผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคไต
ไขมัน
-ให้พลังงานประมาณ 9 กิโลแคลอรีต่อกรัม (จากไขมันสายยาว)
-ให้พลังงานประมาณ 8 กิโลแคลอรีต่อกรัม (จากไขมันสายกลาง medium chain triglycerides: MCT oil )
-ส่วนประกอบไขมันที่ให้ทางหลอดเลือด ประกอบด้วย triglyceride, phospholipids
-การให้ไขมันทางหลอดเลือดดำหากแยกจากสารอาหารอื่นๆ สามารถให้ทาง peripheral vein หรือให้ทาง central vein ก็ได้ เนื่องจากมีค่าความเข้มข้น osmolality ต่ำ
-มีข้อควรระวังในการให้ไขมันแก่ผู้ป่วยกลุ่มที่มีปัญหาในการ metabolism ไขมัน เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยที่ได้รับสเตียรอยด์เนื่องจากหากระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงเกิน อาจมีปัญหาเรื่องตับอ่อนอักเสบ เกล็ดเลือดทำงานผิดปกติ
วิตามิน
-ส่วนใหญ่เป็นวิตามินรวม (multivitamin)
-วิตามินที่ใช้ ได้แก่
OMVI ® เป็นวิตามินรวมทุกชนิด
Cernevit ® เป็นวิตามินรวมทุกชนิด ยกเว้นวิตามินเค
Soluvit ® มีเฉพาะวิตามินที่ละลายในน้ำ (water soluble vitamin)
Vitalipid ® มีเฉพาะวิตามินที่ละลายในไขมัน (fat soluble vitamin)
แร่ธาตุ
Macrominerals เป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการในปริมาณมากต่อวัน ได้แก่ โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส และ แมกนีเซียม การให้ต้องพิจารณาตามความต้องการในแต่ละวัน อาจเพิ่มตามความต้องการเฉพาะโรค
Trace elements เป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย ได้แก่ สังกะสี โครเมียม คอปเปอร์ แมงกานีส