Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบหายใจ (Respiratory system) 🫁🫀 - Coggle Diagram
ระบบหายใจ (Respiratory system) 🫁🫀
Conducting part คือส่วนที่เป็นทางผ่านอากาศโดยไม่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซ
Nose/Nasalcavity
Pharynx
Larynx
Bronchus (bronchi)
Bronchiole
Bronchiole
Respiratory part คือส่วนที่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างหลอดเลือดฝอยกับถุงลม
Respiratory bronchioles
Alveolar duct
Alveolar sac
Alveoli
Conduction part ส่วนประกอบ
จมูก (Nose)
โพรงจมูก (nasal cavity)
ถูกแบ่งออกเป็น2ช่องโดย nasalseptemซึ่งเป็นส่วนของseptalcartilage และได้รับการค้ำจุนโดยกระดูก ethmoid maxillary และ inferior conchae
ผนังด้านข้าง (Lateral wall)
โพรงอากาศ (Sinuses)
ช่วยทำให้ลมหายใจอุ่นขึ้นและทำให้เสียงมีความกังวาน
Vestibule
Respiratory region
Olfactory region
เยื่อบุผิวมี2 ชนิด
• Respiratory epithelium • Olfactory epithelium
คอหอย (Pharynx)
เร่ิมตั้งแต่ base of skull ลงไปจนถึงกระดูกคอชิ้นท่ี 6 (C6) ทาหน้าที่เป็นทางผ่าน ของอากาศและอาหาร มีโครงสร้างแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
Nasopharynx
เป็นส่วนบนสุดของคอหอยวางตัวอยู่หลังโพรงจมูกลงมาถึงเพดานอ่อน (soft palate)
มีรูเปิดของ Eustachian’s tube
พบ Pharyngeal tonsil (adenoid)
Oropharynx
วางตัวอยู่ด้านหลังช่องปาก
เริ่มจาก soft palate ลงไปถึงระดับของกระดูก hyoid
พบ Palatine tonsils และ lingual tonsils
Laryngopharynx
อยู่ด้านหลังกล่องเสียง
เริ่มตั้งแต่ระดับhyoidไปจนถึงระดับcricoid
เปิดเข้าสู่กล่องเสียงด้านหน้า และเข้าสู่หลอดอาหารอด้านหลัง
กล่องเสียง (Larynx)
ทำหน้าที่เป็นแหล่งเกิดเสียง ควบคุมการ หายใจเข้า-ออก การกลืนอาหาร และป้องกันท่อลมในระบบทางเดินหายใจ
ประกอบด้วยกระดูกอ่อน 9 ชิ้น ได้แก่
▪Thyroid cartilage 1 ชิ้น
▪Cricoid cartilage 1 ชิ้น
▪Epiglottis 1 ชิ้น
▪Arytenoid cartilage 1 คู่
▪Corniculate cartilage 1 คู่
▪Cuneiform cartilage 1 คู่
สายเสียง (Vocal Cord)
สายเสียงไม่แท้ (Vestibular fold หรือ False vocal cord)
สายเสียงแท้ (Vocal fold หรือ True vocal cord)
หลอดลม (Trachea)
ตั้งอยู่ด้านหน้าของหลอดอาหาร
• ประกอบด้วยกระดูกอ่อนเป็นรูปวงแหวน คล้ายตัวC จำนวน 16-20 ชิ้น
• เริ่มจากส่วนปลายสุดของlarynx (C6) จนถึงจุดแยกเป็น
bronchus ซ้าย ขวา (T5) เรียกมุมนี้ว่า carina angle
Bronchial tree ภายในหลอดลมบุด้วยเยื่อเมือก และมีขนเล็กๆ (Cilia ) และ Goblet cells ทำหน้าที่ผลิตเมือก
Respiratory part บริเวณแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างอากาศในถุงลมกับอากาศในหลอดเลือดฝอย
Alveolar sac ประกอบด้วย alveoli ประมาณ 20 ถุง (ประมาณ 100 ถุง เรียก 1 functional unit ของปอด)
• ปอดคนปกติมีประมาณ300ล้านถุงแรกเกิดมี24ล้านถุงและเพิ่มจานวนเท่าผู้ใหญ่ ปกติเมื่อ อายุ8ขวบ
• ปอดมีโครงสร้างท่ีประกอบด้วยถุงลม ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ต่างกัน
โครงสร้างผนังถุงลมจะประกอบด้วยเซลล์เยื่อบุช้ันเดียว แบ่งออกได้เป็ น 3 ชนิด คือ
▪Capillary endothelial cells
▪เซลล์ถุงลมชนิดที่ 1 (type I alveolar cell หรือ Squamous epithelial cells)
▪เซลล์ถุงลมชนิดที่ 2 (type II alveolar cell หรือ Great alveolar)
เซลล์ถุงลมชนิดที่ 1 (type I alveolar cell หรือ squamous epithelial cells) เป็นเซลล์ส่วนใหญ่ของผนังถุงลม
พบ pinocytic vesicles จานวนมาก มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงของสาร surfactantและมีบทบาทในการกาจัดฝุ่นเล็กๆ
เซลล์ถุงลมชนิดที่ 2 (type II alveolar cell หรือ Great alveolar) ทำหน้าสร้างสารลด แรงตึงผิว(surfactant)และพบเซลล์macrophage
สารลดแรงตึงผิว(surface tension and surfactant)
เป็นของเหลวส่วนผสมของสารไขมันชนิดหนึ่งคือ Palmitoyl lecithin
สร้างจาก alveolar type II cell
สร้างในเดือนที่4ของการตั้งครรภ์และทำหน้าท่ีได้ต้ังแต่เดือนท่ี7ของการตั้งครรภ์
ประโยชน์
ช่วยลดแรงตึงผิวของของเหลวบนถุงลม
ลดการแทรกซึมของของเหลวเข้ามาในถุง
คงสภาพของถุงลม
ปอด (Lungs)
Apex อยู่เหนือไหปลาร้าขึ้นไปประมาณ 1.5-2.5 ซม. และอยู่ตรงกับกระดูกสันหลังT1
Base อยู่ติดกระบังลม ข้างขวาอยู่ตรงกับกระดูกสันหลังT10 ข้างซ้าย T11
เยื่อหุ้มปอด(Pleura)
Pleural recesses
Costodiaphagmatic recesses
Costomediastinal recesses
ลักษณะภายนอก
Right lung
Upper (Superior) lobe
Middle lobe
Lower (Inferior) lobe
และร่อง 2 ร่อง ได้แก่ oblique และ horizontal fissure
Left lung
Upper (Superior) lobe
Lower (Inferior) lobe
และร่อง 1 ร่อง ได้แก่ oblique fissure
หลอดเลือดที่มาเลี้ยงปอด
(Blood supply to the lungs)
ระบบ Brochial
ระบบ Pulmonary
Rt. pulmonary artery และ Lt. pulmonary artery
Pulmonary vein
Rt. Superior pulmonary vein
Rt. Inferior pulmonary vein
Lt. Superior pulmonary vein
Lt. Inferior pulmonary vein
กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ
การหายใจเข้า ออกแบบปกติ
กล้ามเนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจเข้าคือ
Diaphragm
External intercostals muscle
การหายใจออกแบบใช้พลังงาน
(Forced Expiration)
เป็นการหายใจออกแรงๆเช่นในผู้ที่ออกกำลังกายหรือในผู้ป่วยที่มีทางเดินอากาศแคบหรือความยืดหยุ่นของปอดผิดปกติ
(เช่น ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่ งพอง)
จำเป็นต้องอาศัยกล้ามเนื้อช่วยหายใจออก ได้แก่
-Abdominal muscle
-Internal intercostal muscle
การหายใจเข้าที่ลึกและแรง
ขณะออกกำลังกาย ขณะไอหรือจาม หรือในผู้ป่วย โรคหอบหืด
Sternocleidomastoid
Scalenus