Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบหายใจ Respiratory system - Coggle Diagram
ระบบหายใจ Respiratory system
Conducting part ที่เป็นทางผ่านของอากาศ
Trachea หลอดลม
ประกอบด้วยกระดูกอ่อนเป็นรูปวงแหวนคล้ายตัว c จำนวน 16-20ชิ้น
ปลายสุดของ Iarynx(C6) จนถึงจุดแยกเป็น bronchusซ้าย ขวา (T5) เรียกมุมนี้ว่า carina angle
ตั้งอยู่ด้านหน้าของหลอดอาหาร
ภายในจะมีขนเล็กๆ (Cilia ) และ Goblet cells ทำหน้าที่ผลิตเมือก
Bronchial tree
Primary (main) bronchi (Rt. and Lt.)
Secondary (lobar) bronchi
Secondary (lobar) bronchi
Tertiary (segmental) bronchi
Subsegmental
Larynx ปล่องเสียง ประกอบด้วยกระดูกอ่อน
Corniculate cartilage 1 คู่
Cuneiform cartilage 1 คู่
Arytenoid cartilage 1 คู่
Epiglottis 1 ชิ้น
Cricoid cartilage 1ชิ้น
Thyroid cartilage 1 ชิ้น
สายเสียง (Vocal cords)
สายเสียงไม่แท้ (Vestibular fold หรือ False vocal cord)
สายเสียงแท้ (Vocal fold หรือ True vocal cord)
Pharynx คอหอย
Oropharynx
วางตัวอยู่ด้านหลังช่องปาก
จาก soft palate ลงไปถึงระดับของกระดูก hyoid
พบ Palatine tonsils และ lingual tonsils
Laryngopharynx
อยู่ด้านหลังกล่องเสียง
ตั้งแต่ระดับ hyoidไปจนถึงระดบัcricoid
เปิดเข้าสู่กล่องเสียงด้านหน้า และเข้าสู่หลอดอาหารทางด้านหลัง
Nasopharynx
เป็นส่วนบนสุดของคอหอย อยู่หลังโพรงจมูกลงมาถึงเพดาอ่อน (soft palate)
มีรูเปิดของ Eustachian’s tube
พบ Pharyngeal tonsil (adenoid)
Nose/Nasalcavity จมูก
โพรงจมูก
Respiratory region
Olfactory region
Vestibule
เยื่อบุผิว
Respiratory epithelium
Olfactory epithelium
Respiratorypart
Alveolar duct
Alveolar sac
alveoli ประมาณ20ถุง (ประมาณ100ถุงเรียก 1 functional unit ของปอด)
มีโครงสร้างที่ประกอบด้วยถุงลมขนาดเล็กและขนาดใหญ่ต่างกัน
คนปกติกมีประมาณ300ล้าถุง แรกเกิดขะมี24ล้านถุง เเละจะเพิ่มจำนวนเท่าผู้ใหญ่เมื่ออายุ8ขวบ
Respiratory bronchioles
Alveoli
โครงสร้างผนังถุงลม
เซลล์ถุงลมชนิดที่1 (type I alveolar cell หรือ Squamous epithelial cells)
พบ pinocytic vesicles จำนวนมาก และมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงของสาร surfactant และมีบทบาทในการกำจัดฝุ่นเล็กๆ
เซลล์ถุงลมชนิดที่2 (type II alveolar cell หรือ Great alveolar)
สร้างสารลดแรงตึงผิว (surfactant)และพบเซลล์macrophage
เป็นของเหลวผสมสารไขมันชนิดหนึ่ง Palmitoyl lecithin
สร้างในเดือนที่4ของการตั้งครรภ์และทำหน้าที่ได้ตั้งแต่เดือนที่7 ของการตั้งครรภ์
สร้างจาก alveolar type II cell
ประโยชน์
ลดการแทรกซึมของของเหลวเข้ามาในถุง
คงสภาพของถุงลม
ช่วยลดแรงตึงผิวของเหลวบนถุงลม
Capillary endothelial cells
ปอด(Lungs)
Apex
อยู่เหนือไหปลาร้าขึ้นไปประมาณ1.5-2.5ซม. และอยู่ตรงกับกระดูกสันหลังT1
Base
อยู่ติดกระบังลม ข้างขวาอยู่ตรงกับกระดูกสันหลัง T10 ข้างซ้าย T11
ลักษณะภายนอก
Right lung ประกอบด้วย3 พู
Upper (Superior) lobe
Middle lobe
Lower (Inferior) lobe
แบ่งเป็น2 ร่อง
oblique
horizontal fissure
Left lung ประกอบด้วย 2 พู
Upper (Superior) lobe
Lower (Inferior) lobe
มี1 ร่อง ได้แก่ oblique fissure
เยื่อหุ้มปอด (Pleura)
parietalpleura
visceral pleura
Pleural recesses
Costodiaphagmatic recesses
Costomediastinal recesses
Clinical correlation
Pleural effusion
Pneumothorax
Haemothorax
Haemopneumothorax
หลอดเลือดที่มาเลี้ยงปอด (Blood supply to the lungs)
Brochial
ข้างซ้ายเป็นเเขนงของ thoracic aorta
ข้าวขวาเป็นแขนงของ posteriorintercostalsa. ให้ไปเลี้ยง
Bronchial trees จนถึง respiratory bronchioles
เยื่อหุ้มปอดชั้นในและผนังของหลอดเลือดของ pulmonary Bronchial vein ข้างขวาเทเข้าท่ี azygos vein ข้างซ้ายเทเข้าท่ี accessory hemiazygos vein
เส้นประสาทที่มาเลี้ยงปอด
Lung
Parasympathetic จากเส้นประสาท vagus
Sympathetic จาก sympathetic trunk และ cardiac plexus
Bronchus
Visceral efferents from: Vagus nerve
Constrict the bronchioles : Sympathetic system
กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ
การหายใจเข้า ออกแบบปกติ
Diaphragm
External intercostals muscle
การหายใจออกแบบใช้พลังงาน (Forced Expiration)
การหายใจเเรงๆ เช่นคนที่ออกกำลังกาย หรือผู้ป่วยที่มีทางเดินอากาศตีบแคบ
กล้ามเนื้อช่วยหายใจออก
Abdominal muscle
Internal intercostal muscle
การหายใจเข้าที่ลึกและแรง
ขณะออกกำลังกาย ไอ หรือจาม หรือผู้ป่วยในโรคหอบหืด
Sternocleidomastoid
Scalenus