Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Respiratory system Respiratory_system_complete_en.svg - Coggle Diagram
Respiratory system
แบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
Conducting part
ส่วนที่เป็นทางผ่านของอากาศ (Air passages) โดยไม่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซ
โพรงจมูก (Nasal cavity)
เเบ่งออกเป็น2 ช่อง
ethmoid maxillary
nasal septem
ผนังด้านข้าง (Lateral wall)
Ethmoid bone
Inferior conchae
Maxillary bone
ผนังด้านใน (Medial wall)
โพรงอากาศ (sinuses) ช่วยทำให้ลมหายใจอุ่นขึ้น
พบ 3 บริเวณ
Respiratory region
Vestibule
Olfactory region
มีเยื่อบุผิว 2 ชนิด
Respiratory epithelium
Olfactory epithelium รับกับคู่ที่1
คอหอย (Pharynx)
ทำหน้าที่เป็นทางผ่าน
ของอากาศและอาหาร แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
Nasopharynx
บนสุดของคอหอย
หลังโพรงจมูกลงมาถึงเพดานอ่อน (soft palate)
Oropharynx
วางตัวอยู่ หลังช่องปาก
soft palate ลงไปถึงระดับของกระดูก hyoid
พบ Palatine tonsils.lingual tonsils
Laryngopharynx
เริ่มระดับ hyoid จนถึง cricoid
อยู่ด้านหลังกล่องเสียง
เปิดกล่องเสียงด้านหน้า เข้าสู่หลอดอาหารด้านหลัง
กล่องเสียง Larynx
เป็นเเหล่งเกิดเสียง ควบคุมหายใจเข้า-ออก มีกระดูกอ่อน 9 ชิ้น
▪Arytenoidcartilage 1 คุ่
▪Corniculate cartilage 1 คู่
▪Epiglottis 1 ชิ้น
▪Cuneiform cartilage 1 คู่
▪Cricoidcartilage 1 ชิ้น
▪Thyroid cartilage 1 ชิ้น
สายเสียง (Vocal cords)
สายเสียงไม่แท้
(Vestibular fold หรือ False vocal cord)
สายเสียงแท้ (Vocal fold หรือ True vocal cord)
Muscle of larynx
กล้ามเนื้อกลุ่ม intrinsic muscle สำหรับเปิด-ปิด glottis
extrinsic muscles
cartilage
ของ larynx หน้าที่เคลื่อน
ระหว่างที่มีการกลืน (deglutition)
หลอดลม (Trachea)
•ตั้งอยู่หน้าหลอดอาหาร
เริ่มจากส่วนปลายสุด C6 ซ้าย ขวา T5 carina angle
กระดูกอ่อน 16-20 ชิ้น
หลอดลมบุ เยื่อเมือก มีขนเล็ก(Cilia ) หน้าที่ผลิตเมือก
Bronchial tree
Trachea
Primary (main) bronchi (Rt. and Lt.)
Secondary (lobar) bronchi
Tertiary (segmental) bronchi
Subsegmental
1 more item...
Respiratory part
เป็นส่วนที่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างหลอดเลือดฝอยกับถุงลม
Alveolarducts
Respiratorybronchioles
Alveolar sacs
Alveoli
•Alveolar sacalveoli
ประมาณ 20 ถุง ประมาณ 100 เรียก (1functional unit ของปอด)
•ปอดคนปกติ 300 ล้านถุง เกิด 24 ล้าน เพิ่มจำนวนเท่าผู้ใหญ่ ปกติเมื่ออายุ 8 ขวบ
ปอดมีโครงสร้างขนาดเล็ก เเละขนาดใหญ่ต่างกัน
โครงสร้างถุงลมด้วยเซลล์เยื่อบุชั้นเดียว เเบ่งออก 3ชนิด
▪เซลล์ถุงลมที่1(type I alveolar cell หรือSquamous epithelial cells)
เซลล์ ผนังถุงลม
▪ เซลล์ถุงลมที่ 2(type II alveolar cell หรือ Great alveolar)
หน้าที่ สร้างสารลดเเรงตึงผิว
(surface tension and surfactant)
สร้างในเดือนที่ 4 ได้ตั้งเเต่เดือนที่7 ของการตั้งครรภ์
ประโยชน์
-ช่วยลดเเรงตึงผิว เหลวบนถุงลม
-ลดการเเทรกซึมของเหลวเข้ามาในถุง
คงสภาพของถุงลม
▪ Capillary endothelial cells
ปอด (Lungs)
Apex
อยู่ตรงกับกระดูกสันหลัง T1
Base
อยู่ติดกระบังลม ข้างขวาอยู่ตรงกระดูกสันหลัง T10
เยื่อหุ้มปอด (Pleura)
▪เป็นถุง 2 ชั้น
▪ ชั้นนอก ผนังทรวงอก parietal pleura
▪ ชั้นในติดผิวนอกของปอด visceral pleura
ลักษณะภายนอก
Left lung
ประกอบด้วย 2 พู(lobe)
Upper (Superior) lobe
Lower (Inferior) lobe
ร่อง 1 ร่อง
oblique fissure
Right lung
ประกอบ 3พู (lobe)
Middle lobe
Lower (Inferior) lobe
Upper (Superior) lobe
ร่อง 2 ร่อง
horizontal fissure
oblique
หลอดเลือดที่มาเลี้ยงปอด (Blood supply to the lungs)
มี 2ระบบ
ระบบ Brochial
Bronchial artery and vein
ข้างซ้ายเเขนงthoracic aorta
ข้างขวาเเขนงposterior intercostals a.
Bronchial vein
ข้างขวาเทเข้าที่ azygos vein
ข้างซ้ายเทเข้าที่accessory hemiazygos vein
ระบบ Pulmonary
กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ
2.การหายใจออกแบบใช้พลังงาน (Forced Expiration)
เป็นการหายใจออกเเรงๆ เช่น ในผู้ที่ออกกำลังกาย หรือผู้ป่วยที่มีทางเดินอากาศ ตีบเเคบความยืดหยุ่นผิดปกติ
ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง
จำเป็นต้องอาศัยกล้ามเนื้อช่วยหายใจออก
Abdominal muscle
Internal intercostal muscle
external obliques
internal obliques
rectus abdominis
transversus abdominis
1.การหายใจเข้า ออกแบบปกติ
กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจเข้า
External intercostals muscle
Insertion
Superior border
Nerve supply
Intercostal nerves (T1-T11)
Origin
Inferior border
Diaphragm
Sternal part
xiphoid process
Posterior
Costal part
Internal surfaces
lower costal cartilages
ribs 7-12
Lumbar part
Medial and lateral arcuate ligaments
vertebrae L1-L3
3.การหายใจเข้าที่ลึกและแรง
ขณะออกกำลังกาย ขณะไอ จาม หรือในผู้ป่วยโรคหอบหืด
Scalenus
Sternocleidomastoid