Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วิวัฒนาการของนาฏศิลป์และการละครไทย ยุคแรก ( น่านเจ้า สุโขทัย ธนบุรี …
วิวัฒนาการของนาฏศิลป์และการละครไทย ยุคแรก ( น่านเจ้า สุโขทัย ธนบุรี กรุงศรีอยุธยา)
:red_flag:สมัยน่านเจ้า
:black_flag: ต้นกำเนิดของการละครสมัยน่านเจ้า
:pen:พวกไต คือ ประเทศไทยเรา แต่เป็นพวกที่ไม่อพยพลงมาจากดินแดนเดิม ชีวิตและความเป็นอยู่ของพวกไตเป็นแบบชาวเหนือของไทยประกอบอาชีพทำสวนผลไม้ พวกไทยนี้สืบเชื้อสายมาจากสมัยน่านเจ้า ซึ่งได้รักษาขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมไว้อย่างเดียวกับไทยภาคเหนือ การละเล่นของไทยนอกจากเรื่องมโนห์รา ยังมีการแสดงระบำต่างๆ เช่น ระบำหมวก ระบำนกยูง ซึ่งปัจจุบันจีนถือว่าเป็นการละเล่นของชนกลุ่มน้อยในประเทศของเขา
สืบค้นเมื่อ 27 พฤศิกายน 2564
https://sites.google.com/
นายปฏิภาณ ศรีมณี เลขที่14 ม.4/6 รับผิดชอบ
:red_flag:สมัยสุโขทัย
:black_flag:เหตุการณ์สำคัญ
:pen:ในสมัยสุโขทัยเรื่องละคร ฟ้อนรำ สันนิษฐานได้จากศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหงหลักที่ ๑ กล่าวถึง การละเล่นเทศกาลกฐินไว้เป็นความกว้างๆ ว่า “ เมื่อจักเข้าเวียงเรียงกัน แต่อรัญญิกพู้นท่านหัวลาน ดํบงคํกลอยด้วยเสียงพาทย์ เสียงพิณ เสียงเลื้อย เสียงขับ ใครจักมักเหล้น เหล้น ใครจักมัก หัว หัว ใครจักมักเลื้อน เลื้อน”
:black_flag: เหตุการสำคัญที่ 2
:pen:ละครแก้บนกับละครยก อาจมีสืบเนื่องมาแต่สมัยสุโขทัย สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอธิบายไว้ในสาส์นสมเด็จว่า หญิงแก้วมีจดหมายเล่าว่ามีละครเขมรตรงหน้าปราสาทนครวัด ให้พวกท่องเที่ยวชมในเวลากลางคืน เรื่องนี้เรารู้กันอยู่แล้ว ที่ปราสาทนครวัด และปราสาทหินเทวสถานแห่งอื่นหลายแห่ง มีเวทีทำด้วยศิลา กล่าวกันว่าทำไว้สำหรับฟ้อนรำบวงสรวง อันการฟ้อนรำบวงสรวง ตลอดจนการเล่นโขน เป็นคติทางศาสนาพราหมณ์ แต่ห้ามทางฝ่ายพระพุทธศาสนา
:black_flag: เหตุการสำคัญที่ 1
:pen:ในสมัยสุโขทัย ได้คบหากับชาติที่นิยมอารยธรรมของอินเดีย เช่น พม่า มอญ ขอม และละว้า แต่มิได้หมายความว่า ชาติไทยแต่โบราณจะไม่รู้จักการละครฟ้อนรำมาก่อน เรามีการแสดงระบำ รำ เต้น มาแต่สมัยดึกดำบรรพ์แล้ว เมื่อไทยได้รับวัฒนธรรมด้านการละครของอินเดียเข้ามา ศิลปะแห่งการละเล่นพื้นเมืองของไทย คือ รำ และระบำ ก็ได้วิวัฒนาการขึ้น มีการกำหนดแบบแผนแห่งศิลปะการแสดงทั้ง ๓ ชนิดไว้เป็นที่แน่นอน และบัญญัติคำเรียกศิลปะแห่งการแสดงดังกล่าวว่า “โขน ละคร ฟ้อนรำ”
:red_flag:สมัยกรุงธนบุรี
:black_flag: เหตุการณ์สำคัญที่ 1
:pen: สมัยนี้เป็นช่วงต่อเนื่องหลังจากที่กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าเมื่อปีพ.ศ. 2310 เหล่าศิลปินได้กระจัดกระจายไปในที่ต่างๆ เพราะผลจากสงคราม บางส่วนก็เสียชีวิต บางส่วนก็ถูกกวาดไปอยู่พม่า ครั้นพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ปราบดาภิเษกในปีชวด พ.ศ. 2311 แล้ว ทรงส่งเสริมฟื้นฟูการละครขึ้นใหม่ และรวบรวมศิลปินตลอดทั้งบทละครเก่าๆที่กระจัดกระจายไปให้เข้ามาอยู่รวมกัน ตลอดทั้งพระองค์
:black_flag: เหตุการณ์สำคัญที่ 2
:pen: ได้ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ขึ้นอีก 5 ตอน คือ ตอนหนุมานเกี้ยวนางวานรินทร์ ตอนท้าวมาลีวราชว่าความ ตอนทศกัณฐ์ตั้งพิธีทรายกรด ตอนพระลักษณ์ถูกหอกกบิลพัท ตอนปล่อยม้าอุปการ มีคณะละครหลวง และเอกชนเกิดขึ้นหลายโรง เช่น ละครหลวงวิชิตณรงค์ ละครไทยหมื่นเสนาะภูบาล หมื่นโวหารภิรมย์ นอกจากละครไทยแล้วยังมีละครเขมรของหลวงพิพิธวาทีอีกด้วย
:black_flag: บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ไทยสมัยกรุงธนบุรี ได้เเก่
:pen:เจ้าพยาจักรีหรือเจ้าพระยาจักกรีศรีองครักษ์เป็นเจ้าพระยาจักรีคนเเรกในเเผ่นดินกรุงธนบุรีหลายคนมักเรียกว่า”พระยาจักกรีเเขก”มีชื่อจริงว่า”หมุด”เป็นมุสลิม
:pen: สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้สนใจและส่งเสริมการละคร พระองค์ได้กำกับละครรามเกียรติตอนเกี้ยวนางาวนารินทร์ ตอนเท้ามารีวราชว่าความ ตอนทศกัณฑ์ตั้งพิธีทรายกรดและที่โด่งดังมากคือตอนนางจอม ตอนปล่อยม้าอุปกรณ์เป็นตอนที่มีวิจิตรเรื่องการแต่งตัว (มีเสื้อผ้ามากที่สุด) ต่อมาได้พระราชประสงค์ให้บทละครหลวงกลมกลืนกับการละคร มีละครหลวง พิชิตดำรง ละครหมื่นโวหารพิรม ละครหลวงพิพิธวาที ละครราชสีมา ช่วยผสมโรงด้วยค่ะ
สืบค้นเมื่อ 27 พฤศิกายน 2564
https://sites.google.com/
นางสาววนันท์ชนา แท่นเกิด เลขที่ 40 รับผิดชอบค้นคว้าหาข้อมูลกรุงธนบุรีและทำ coggle
:red_flag:สมัยกรุงศรีอยุธยา
:black_flag: ต้นกำเนิดของ กรุงศรีอยุธยา
:pen:ละครรำสมัยกรุงศรีอยุธยามีต้นกำเนิดจากการเล่นโนรา และละครชาตรีที่นิยมกันในภาคใต้ของประเทศไทย แต่เดิมมีละครชื่อขุนศรัทธา เป็นละครในสมัยกรุงศรีอยุธยา ส่วนระบำหรือฟ้อนเป็นศิลปะโดยอุปนิสัยของคนไทยสืบต่อกันมา ละครรำของไทยเรามี ๓ อย่าง คือ ละครชาตรี ละครนอก และละครใน ละครชาตรีเป็นละครเดิม ละครนอกเกิดขึ้นโดยแก้ไขจากละครชาตรี แต่ละครในนั้นคือละครผู้หญิง
:black_flag: ละครในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
:pen:เมื่อครั้งรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ยังไม่มีปรากฏ มาปรากฏว่ามีละครผู้หญิงในหนังสือบุณโณวาทคำฉันท์ ซึ่งแต่งในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พ.ศ. ๒๒๗๕ – ๒๓๐๑ เป็นครั้งแรก เพราะฉะนั้นละครผู้หญิงจึงเกิดขึ้นในระหว่างรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา พ.ศ.๒๒๓๑ – ๒๒๔๖ มาจนรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ในระหว่าง ๗๐ ปีนี้ รัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้มีละครผู้หญิงเล่นคือเรื่อง “อิเหนา” ซึ่งเป็นละครใน
:black_flag: เหตุการสำคัญของสมัยกรุงศรีอยุธยา
:pen:สำหรับละครผู้หญิงของหลวงครั้งกรุงเก่า เห็นจะเป็นของโปรดอยู่เพียงในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศสวรรคตแล้ว ทำนองจะละเลยมิได้ฝึกซ้อมเสมอเหมือนแต่ก่อน สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์จะทอดพระเนตรละคร จึงห้ามหาผู้ชาย เข้าไปเล่น เมื่อพิเคราะห์ดูทางตำนาน ดูเหมือนละครผู้หญิงของหลวงซึ่งมีขึ้นครั้งกรุงเก่า จะได้เล่นอยู่ไม่ช้านานเท่าใดนัก ก็ถึงเวลาเสียกรุงแก่พม่า
สืบค้นเมื่อ 27 พฤศิกายน 2564
https://sites.google.com/
นายศิวัฒน์ โสดาเจริญ
เลขที่ 19 ม4/6 รับผิดชอบ
:black_flag: บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ไทยสมัยอยุธยา ได้แก่
:pen:ตำรวจ ทหารมหาดเล็ก ซึ่งแสดงโขนกลางสนามปรากฏอยู่ในตำราพระราชพิธีอินทราภิเษก โดยใช้ตำรวจแสดงเป็นฝ่ายอสูร 100 คน ทหารมหาดเล็กเป็นฝ่ายเทพยดา 100 คน เป็นพาลี สุครีพ มหาชมพูและบริวารวานร
อีก 103 คน การแสดงชักนาคดึกดำบรรพ์ ฝ่ายอสูรชักหัว เทพยดาชักหาง และวานรอยู่ปลายหาง รวมผู้เล่นโขนประมาณ 300 กว่าคน แต่ไม่มีการกล่าวถึงชื่อผู้แสดง ทางด้านการรำไทย มีกล่าวถึงตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยจากศิลาจารึกหลักที่ 8 แต่ไม่มีการอ้างถึงเป็นรายบุคคล
:pen:เจ้าฟ้าอินทรวดี เป็นผู้สืบทอดจากสมัยอยุธยามีละครหญิงเกิดขึ้น แสดงในราชฐานเท่านั้น
สืบค้นเมื่อ 27 พฤศิกายน 2564
https://sites.google.com/
นางสาวประภาศิริ ปิติ
เลขที่ 37 รับผิดชอบหารูปภาพทั้งหมดเเละหาข้อมูลสมัยสุโขทัย
:black_flag: เหตุการณ์สำคัญของสมัยน่านเจ้า
:pen: สมัยอาณาจักรน่านเจ้าไทยมีนิยายเรื่องหนึ่งคือ“ มโนห์รา” ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีหนังสือนิยายที่เขียนบรรยายถึงเรื่องของชาวจีนตอนใต้และเขียนถึงนิยายการละเล่นต่างๆของจีนตอนใต้มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ชื่อเหมือนกับนิยายของไทยคือเรื่อง“ นามาโนห์รา” และอธิบายไว้ด้วยว่าเป็นนิยายของพวกไตเป็นน่านเจ้าสมัยเดิมคำว่า“ นามาโนห์รา” เพี้ยนมาจากคำว่า“ นางมโนห์รา” ของไทย
มโนห์รา
การเเต่งกายสมัยน่านเจ้า
การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี
การแสดงโนราห์ ชาตรี
เครื่องแต่งกายของผู้หญิงสมัยสุโขทัย