Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบไหลเวียนเลือด และระบบหายใจ - Coggle Diagram
ระบบไหลเวียนเลือด และระบบหายใจ
ระบบไหลเวียนเลือด(Cardiovascular system)
เลือด(Blood)
เม็ดเลือดจัดเป็น special connective tissue มีปริมาณ 8% ของน้ำหนักตัว
เม็ดเลือด(Blood cells)
เม็ดเลือดแดง(Red blood cells)
ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์
ถูกสร้างที่ไขกระดูก ทำลายที่ตับ ม้าม ไขกระดูก
อายุการทำงานในกระแสโลหิต ประมาณ 90-120วัน
การสร้างเม็ดเลือดแดง
สร้างจากไต อัตราการสร้าง 400-500 มล./เดือน
ถูกควบคุมโดยฮอร์โมน erythropoietin
เม็ดเลือดขาว(White blood cells)
มีหน้าที่ป้องกันการรุกรานของแบคทีเรียและเชื้อโรคหรือสารแปลกปลอมต่างๆ
เม็ดเลือดขาวชนิด Granulocytes
Neutrophils
เป็นเม็ดเลือดขาวที่พบมากที่สุดในจำนวนเม็ดเลือดขาวทั้งหมด
มีหน้าที่ในการทำลายเชื้อแบคทีเรีย
Eosinophils
เพิ่มจำนวนเมื่อมีการแพ้หรือติดเชื้อพยาธิ
Basophils
สร้างสารheparin ช่วยการแข็งตัวของเลือด
คุณสมบัติที่สำคัญของเม็ดเลือดขาว 3 ประการ
Diapedesis:สามารถเคลื่อนที่ผ่านผนังหลอดเลือดฝอย ไปยังเนื้อเยื่อได้
Chemotaxis: สามารถเคลื่อนที่เข้าหาสารเคมีที่ปล่อยจากเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายได้
Phagocytosis: สามารถเก็บกินสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาสู่ร่างกายได้
เม็ดเลือดขาวชนิด Agranulocytes
Lymphocytes
มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
มีนิวเคลียสใหญ่เกือบเต็มเซลล์
Monocytes
มีหน้าที่เก็บกินสิ่งแปลกปลอมต่างๆ
มีประมาณ 3-8% เป็นเม็ดเลือดขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
เมื่อแทรกออกจากหลอดเลือดสู่เนื้อเยื่อต่างๆ จะเจริญเป็นแมโครฟาจ ทำลายเชื้อโรค โดยวิธีฟาโกไซโทซิส
พลาสม่าหรือน้ำเลือด (Plasma)
มีประมาณ 55% ของปริมาณเลือดทั้งหมด ประกอบไปด้วยน้ำประมาณ 91% สารโปรตีน
7%มีลักษณะใส ไม่มีเซลล
ทำหน้าที่ขนส่งโมเลกุลต่างๆ เช่น ไขมันหรือโปรตีนและฮอร์โมนบางชนิด
อัลบูมิน(albumin)
เป็นตัวพาของสารต่างๆที่อยู่ในเลือด รวมถึงยา
โกลบูรลิน(globulin)
ทำหน้าที่ในการขนส่งไขมันและวิตามิน
ไฟบริโนเจน (fibrinogen) และโปรทรอมบิน (prothrombin)
เป็นปัจจัยทำให้เลือดแข็งตัว (clotting factor)
เกล็ดเลือด (Blood Platelet, Thrombocyte)
เกล็ดเลือดเป็นส่วนของ cytoplasm ของ megakaryocytes ไม่มีนิวเคลียส
1 ลบ.มม มีเซลล์เกล็ดเลือดประมาณ 140,000-400,000 เซลล์
มีหน้าที่ทำให้เลือดหยุดไหลหรือห้ามเลือด
หลอดเลือด (Blood Vessels)
หลอดเลือดแดง (Artery)
หลอดเลือดแดงของอกและท้อง (Arteries of Thorax and abdomen)
Aorta
เป็นหลอดเลือดแดงที่ใหญ่ที่สุดของร่างกายที่ออกจากหัวใจห้องล่างซ้าย
Ascending aorta
แตกแขนงเป็น Right coronary artery ,Left coronary artery
Arch of aorta หรือ Aortic arch
ตรงกับกระดูกสันหลังระดับอกที่4 แบ่งเป็น3แขนง
Brachiocephalic artery
Right common carotid artery
Right subclavianartery
Left common carotid artery
Left subclavian artery
Descending aorta
Thoracic aorta
เริ่มจาก T4 จนถึงรูเปิดที่กะบังลม(T12-L1)
Visceral branch
เป็นแขนงที่ส่งไปเลี้ยง
อวัยวะภายในอก
Pericardial artery
Bronchial artery
1 more item...
Parietal branch
ส่งไปเลี้ยงผนังทรวงอก
Posterior intercostal artery
Superior phrenic artery
Abdominal aorta
เริ่มต้นจากรูเปิด(Aortic opening) ที่กะบังลม
ทอดลงไปจนถึงL4แล้วแตกปลายออกเป็น right และ left common iliac artery
หลอดเลือดแดงบริเวณคอและศีรษะ (Artery of the Neck and head)
ประกอบด้วยเส้นเลือดแดงใหญ่ ได้แก่ Common carotid artery 1 คู่ แตกแขนงได้ 2แขนงใหญ
External carotid artery
Internal carotid artery
หลอดเลือดแดงของรยางค์บน (Arteries of the upper limb)
Subclavian artery
Vertebral artery
Thyrocervical trunk
Internal thoracic artery
ข้างซ้ายแตกแขนงมาจาก arch of aorta
ข้างขวาแตกแขนงจาก brachiocephalic artery
Vertebral artery
เมื่อเข้าสู่กะโหลกศีรษะทั้งสองข้างจะรวมกันเป็น Basilar artery ให้แขนงไปเลี้ยง cerebellum, pons และหูส่วนใน
Basilar a. ให้แขนงเป็นPosterior cerebral artery1 คู่ (เลี้ยง occipital และ temporal)
Axillary artery
ต่อจาก Subclavian artery ผ่านขอบล่างของกระดูกซี่โครงที่1 เข้าสู่รักแร้ เปลี่ยนชื่อเป็น Axillary artery แตกแขนงเลี้ยงโครงสร้างภายในรักแร้ บริเวณส่วนบนของอกและไหล่
Brachial artery
เริ่มต้นที่ขอบล่างของกล้ามเนื้อ teres minor ให้และที่ข้อศอกแตกออกเป็น 2 แขนงใหญ่ Ulnar arteryและRadial artery
หลอดเลือดแดงของเชิงกราน และรยางค์ล่าง (Arteries of pelvic and lower limb)
Common iliac artery
แยกออกจาก abdominal aorta ที่ระดับL4 แล้วทอดไปยังsacroiliac joint เป็น
Internal iliac artery
ให้แขนงไปเลี้ยงกระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ใหญ่ส่วน rectum อวัยวะภายในและภายนอกกล้ามเนื้อก้น ต้นขา
External iliac artery
หลอดเลือดดำบริเวณต่างๆของร่างกาย
Superficial vein ที่สำคัญได้แก่ small และ great saphenous vein
Deep vein เช่น femoral vein
Venous sinus เป็นหลอดเลือดดำที่พบในกะโหลกศีรษะ
Dural sinus
รับเลือดดำจากสมองเข้าสู่internal jugular vein
Internal jugular vein และExternal jugular vein
Internal jugular vein ทอดลงล่างภายใน carotid sheath โดยคู่กับvagus nerve และ carotid artery แล้วเทเข้าสู่brachiocephalic vein
External jugular vein เทเลือดดำเข้า subclavian vein
หลอดเลือดดำชั้นลึกของรยางค์บน
Subclavian vein
Brachial
Axillary vein
Ulnar vein
Radial vein
หลอดเลือดดำชั้นตื้นของรยางค์บน
Cephalic vein
Basilic vein
Median antebrachial vein
Brachiocephalic vein
เป็นการรวมกันของ internal jugular vein และsubclavian vein ไปสิ้นสุดที่ superior vena cava
หลอดเลือดดำบริเวณอก (Vein of the thorax)
Accessory hemiazygos vein
Azygos vein
Hemiazygos vein
Superior vena cava (SVC)
รับเลือดดำจากส่วนบนของร่างกายจนถึงกะบังลมไปเทเข้าที่ right atrium
เป็นการรวมกันของ Rt.และ Lt.brachiocephalic v. (เกิดจาก internal jugular vein และsubclavianvein)ส่งเลือดเข้าสู่ svc
Azygos vein
Small pericardial veins
Mediastinal vein
หลอดเลือดดำของขา
Femoral vein
Popliteal segment of femoral vein
Inferior vena cava (IVC)
จุดเริ่มต้นที่L5-T8 รับเลือดจากส่วนล่างของร่างกาย ทอดขึ้นไปทางด้านขวาของ abdominal เข้าสู่ช่องอก สิ้นสุดที่right atrium
Portal venous system
รับเลือดดำจากอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร แล้วส่งเข้าสู่ตับ
หัวใจ (heart)
ขนาดและตำแหน่งของหัวใจ
วางตัวอยู่ในช่องอก อยู่ระหว่างปอดทั้ง
2 ข้าง (เรียก Mediastinum)
มียอดแหลมด้านล่างเรียก Apex ชี้ไปทำงด้านซ้าย(ระดับ intercostal space 5-6)
มีฐานเรียก base อยู่ทางด้านบน
เยื่อหุ้มหัวใจ(Pericardium)
Pericardium
ผนังหัวใจ (Heart wall)
ชั้นนอกสุด(Epicardium)
ชั้นกลาง (Myocardium)
ชั้นในสุด(Endocardium)
ห้องหัวใจ (Chamber of the heart)
ภายในหัวใจมี 4 ห้อง ห้องบน เรียกว่า atria (atrium) 2ห้อง
Right atrium (RA)
Left atrium (LA)
ห้องล่าง เรียกว่า ventricle 2 ห้อง Right ventricle (RV)
Left ventricle (LV)
ลิ้นหัวใจ (Heart Valves)
Cuspid valves หรือ Atrioventricular valves
กั้นระหว่าง atrium กับ ventricle
Tricuspid (Right) ,Bicuspid or mitral (Left)
Semilunar valves
Aortic semilunar valve (Aortic Valve)กั้น
ระหว่าง aortaกับ Left ventricle
Pulmonary semilunar valve (Pulmonic
Valve) กั้น pulmonary trunk กับ Right ventricle
หัวใจห้องบนขวา (Right atrium)
รับเลือดดำจากหลอดเลือดดำใหญ่2 เส้น คือSuperior vena cava (SVC)
Inferior vena cava (IVC
และเส้นเลือดดำที่รับจากกล้ามเนื้อหัวใจ
คือ Coronary sinus
หัวใจห้องล่างขวา (Right ventricle)
รับเลือดจากหัวใจห้องบนขวา
ผ่านลงสู่ห้องล่างขวาโดยผ่านลิ้น เรียกว่าTricuspid valve
จากนั้นเลือดถูกบีบเข้าสู่pulmonary trunk เพื่อส่งเข้าสู่ปอดผ่านลิ้น pulmonary semilunar valve จากนั้นเลือดเข้าสู่
pulmonary a.
The fossaovalis
Fossa ovalis คือช่องว่างในหัวใจระหว่าง
ห้อง RA และ LA เลือดจากห้องบนขวาทะลุผ่านไปบนซ้ายได้เลย
หัวใจห้องบนซ้าย (Left atrium)
รับเลือดจาก Pulmonary
veins 4 เส้น
มีลิ้นหัวใจชื่อ Bicuspid
หรือ Mitral
หัวใจห้องล่างซ้าย (Left ventricle)
มีผนังหนาสุด รับเลือดจากหัวใจห้องบนซ้าย
มีหลอดเลือดแดง aorta ต่อออกไป โดยมีAortic semilunar valve กั้นอยู่
เลือดที่มาเลี้ยงหัวใจ (The Blood Supply to the Heart )
Coronary artery
Right Coronary Artery (RCA)
Right marginal branch
Posterior interventricular artery หรือposterior descending artery
Left coronary artery (LCA)
Circumflex artery
artery หรือ Anterior descending artery Anterior interventricular
Cardiac Veins
Coronary sinus
หลอดเลือดดำแขนงต่างๆจะไหลลงสู่
Coronary sinus นำเลือดเข้าสู่ right atrium
Great cardiac vein
Middle cardiac vein
Small cardiac vein
การควบคุมการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด(Cardiovascular control)
ศูนย์ควบคุมระบบไหลเวียนเลือด
ศูนย์ควบคุมใน medulla oblongata
ศูนย์ที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว (Vasoconstrictor center)
ศูนย์ลดการหดตัวของหลอดเลือด (Vasodilator center)
ศูนย์ควบคุมใน hypothalamus
การเปลี่ยนแปลงของระบบไหลเวียนเลือดที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอารมณ์
ศูนย์ควบคุมใน cerebral cortex
มีหลายบริเวณใน cerebral cortex ที่สามารถส่งคลื่นประสาทไปกระตุ้นหรือยับยั้งการทำงานของ vasomotor center โดยมีผลต่อระบบประสาท sympathetic
ตัวรับการเปลี่ยนแปลงในระบบไหลเวียนเลือด
ตัวรับแคโรติสไซนัส(carotid sinus)
ตัวรับเอออร์ติกอาค (aortic arch)
Baroreceptor reflex (carotid sinus reflex) เป็นระบบประสาทอัตโนมัติหลักในการควบคุมระดับความดันเลือดให้คงที่
อวัยวะแสดงผล ซึ่งได้แก่ หัวใจและหลอดเลือด
ระบบหายใจ
. Conducting part ส่วนที่เป็นทางผ่านของอากาศ (Air passages) โดยไม่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซ ซึ่งประกอบด้วย
Nose/Nasal cavity
Pharynx
Larynx
Trachea
Bronchus (bronchi)
Bronchiole
Terminal bronchiole
Respiratory part เป็ นส่วนที่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างหลอดเลือดฝอยกับถุงลม
Respiratory bronchioles
Alveolar duct
Alveolar sac
Alveoli
Conduction part
จมูก(Nose)
โพรงจมูก(Nasal cavity)
nasal septem ซึ่งเป็ นส่วนของ septal cartilage
ได้รับการค้ำจุนโดยกระดูกethmoid maxillary และ inferior conchae
โพรงอากาศ(sinuses)
เกี่ยวข้องกับการช่วยทำให้ลมหายใจอุ่นขึ้น และทำให้เสียงมีความกังวาน
Vestibule
Respiratory region
Olfactory region
เยื่อบุผิว2ชนิด
Respiratory epithelium
Olfactory epithelium
คอหอย (Pharynx)
เริ่มตั้งแต่ base of skull ลงไปจนถึงกระดูกชิ้นที่6 (C6)ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของอากาศและอาหาร
Nasopharynx
Oropharynx
Laryngopharynx
กล่องเสียง (Larynx หรือ voice box)
ทำหน้าที่เป็นแหล่งเกิดเสียง ควบคุมการหายใจเข้า-ออก การกลืนอาหาร และป้องกันท่อลมในระบบทางเดินอาหาร
Thyroid cartilage 1 ชิ้น
Cricoidcartilage 1 ชิ้น
Epiglottis 1 ชิ้น
Arytenoid cartilage 1 คู่
Corniculate cartilage 1 คู่
Cuneiform cartilage 1 คู่
สายเสียง (Vocal cords)
สายเสียงไม่แท้ (Vestibular fold หรือ False vocal cord)
สายเสียงแท้ (Vocal fold หรือ True vocal cord)
Muscle of larynx
กล้ามเนื้อกลุ่มintrinsic muscle ของ larynx จะเชื่อม พวก cartilage plate เข้าด้วยกันและทำให้เกิดtension ของ vocal fold สำหรับเปิดและปิด glottis
กล้ามเนื้อกลุ่มextrinsic muscles จะมี origin จาก extralaryngeal structure มาเกาะที่ cartilageของ larynx มีหน้าที่เคลื่อน larynx ระหว่างที่มีการกลืน (deglutition)
หลอดลม (Trachea)
เริ่มจากส่วนปลายสุดของ (C6) จนถึงจุดแยกเป็น bronchus ซ้าย ขวา (T5) เรียกมุมนี้ว่า carina angle
ภายในหลอดลมบุด้วยเยื่อเมือก และมีขนเล็กๆ cilia และ Goblet ทำหน้าที่ผลิตเมือก
Bronchopulmonary segment
แต่ละ Tertiary (segmental) bronchi รวมกับเนื้อปอดที่ล้อมรอบ เรียกว่าbronchopulmonary segment
Respiratory part
บริเวณแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างอากาศถุงลมกับอากาศในหลอดเลือดฝอย
Alveolar sac ประกอบด้วยalveoli
ประมาณ 20 ถุง (ประมาณ100ถุง เรียก1 functional unit ของปอด)
ปอดคนปกติมีประมาณ300ล้านถุง
ปอดมรโครงสร้างที่ประกอบด้วยถุงลมขนาดเล็กและขนาดใหญ่ต่างกัน
โครงสร้างผนังถุงลม
Capillary endothelial cells
เซลล์ถุงลมชนิดที่1 (type I alveolar cell หรือSquamous epithelial cells)
พบ pinocytic vesiclesจำนวนมาก มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงของสารsurfactant และมีบทบาทในการกำจัดฝุ่นเล็กๆ
เซลล์ถุงลมชนิดที่2 (type II alveolar cell หรือ Great alveolar)
ทำหน้าสร้างสารลดแรงตึงผิว (surfactant) และพบเซลล์ macrophage
สารลดแรงตึงผิว (surface tension and surfactant)
เป็นของเหลวมีส่วนผสมของสารไขมันชนิดหนึ่งคือ Palmitoyl lecithin
สร้างจาก alveolar type II cell
สร้างในเดือนที่ 4 ของการตั้งครรภ์และทำหน้าที่ได้ตั้งแต่เดือนที่7ของการตั้งครรภ์
ประโยชน์
ช่วยลดแรงตึงผิวของเหลวบนถุงลม
ลดการแทรกซึมของของเหลวเข้ามาในถุง
คงสภาพของถุงลม
ปอด (Lungs)
Apex อยู่เหนือไหปลาร้าขึ้นไปประมาณ 1.5-2.5ซม. และอยู่ตรงกับกระดูกสันหลัง T1
Base อยู่ติดกระบังลม ข้างขวาอยู่ตรงกับกระดูกสันหลัง T10 ข้างซ้าย T11
เยื่อหุ้มปอด(Pleura)
เป็นถุง 2 ชั้น
-ชั้นนอกติดกับผนังทรวงอก เรียก parietal pleura
-ชั้นในติดกับผิวนอกของปอด เรียก visceral pleura
Pleural recesses
Costodiaphagmatic recesses
Costomediastinal recesses
Clinical correlation
Pleural effusion
Haemopneumothorax
Pneumothorax
Haemothorax
ลักษณะภายนอก
Right lung
ประกอบด้วย 3 พู(lobe)
Upper (Superior) lobe, Middle lobe, Lower (Inferior) lobe และร่อง 2 ร่อง ได้แก่ oblique และ
horizontal fissure
Left lung
ประกอบด้วย 2 พู(lobe) Upper (Superior) lobe , Lower (Inferior) lobe และร่อง 1 ร่อง ได้แก่ oblique fissure
หลอดเลือดที่มาเลี้ยงปอด (Blood supply to the lungs)
ระบบ Brochial
ระบบ Pulmonary
Bronchial artery and vein
Bronchial artery
ข้างซ้ายเป็นแขนงของ thoracic aorta ข้างขวาเป็นแขนงของ
posterior intercostals a. ให้แขนงไปเลี้ยง
Bronchial trees จนถึง respiratory bronchioles
เยื่อหุ้มปอดชั้นในและผนังหลอดเลือดของ pulmonary
Bronchial vein
ข้างขวาเทเข้าที่azygos vein ข้างซ้ายเทเข้าที่accessory hemiazygos vein
เส้นประสาทที่มาเลี้ยงปอด
Lung: anterior และ posterior pulmonary plexus
1.Parasympatheticจากเส้นประสาท vagus
Sympatheticจาก sympathetic trunkและ
cardiac plexus
Bronchus - Visceral efferents from: Vagus nerve
Constrict the bronchioles :Sympathetic system
กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ
1.การหายใจเข้า-ออกแบบปกติ
กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจเข้าคือ 1. Diaphragm
External intercostals muscle
การหายใจจะเกิดขึ้นเมื่อมีสัญญาณ ประสาทจากศูนย์ควบคุมการหายใจเข้ามายังกล้ามเนื้อ diaphragm และกล้ามเนื้อ external intercostals muscle โดยผ่านทาง phrenic nerve และ intercostals nerve
2.การหายใจออกแบบใช้พลังงาน (Forced Expiration)
เป็นการหายใจออกแรงๆ เช่น ในผู้ที่ออกกำลังกาย หรือในผู้ป่วยที่มีทางเดินอากาศ ตีบแคบหรือความยืดหยุ่นของปอดผิดปกติ(เช่น ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง)
จำเป็นต้องอาศัยกล้ามเนื้อช่วยหายใจออก ได้แก่ Abdominal muscle และInternal intercostal muscle
3.การหายใจเข้าที่ลึกและแรง
เช่นขณะออกกำลงกาย ขณะไอ หรือจาม หรือในผู้ป่วยโรคหอบหืด
Sternocleidomastoid
Scalenus