1.สังเกตอาการแสดงของความเจ็บปวด เช่น ขมวดคิ้ว กํามือแน่น ไม่ยอมขยับตัว และประเมินคะแนนความปวด จากการสอบถามผู้ป่วย โดยใช้ pain scale คะแนนเต็ม 10 คะแนนในการประเมิน และสังเกตและบันทึกแผล แผลที่ว่ามีแผลซึมก๊อสหรือไม่
2.วัดความดันโลหิตชีพจรและหายใจ ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
3.ดูแลให้ได้รับยา Morphine 4 mg IV pn 6 h ตามแผนการรักษาของแพทย์ เพื่อลดอาการปวดแผล เฝ้าระวังผลข้างเคียงยา เช่น มึนงง คลื่นไส้อาเจียน ซึม เป็นต้น และประเมินความปวดหลังได้รับยาแล้วประมาณ 30 นาที
4.เมื่อแพทย์จะเปิดการทำแผลบริเวณเท้าข้างขวา(บริเวณที่รับ )ครั้งแรก มีเทคนิคช่วยลดอาการปวดของผู้ป่วยดังนี้
4.1 ประเมินความพร้อมของผู้ป่วยก่อนทำแผล
4.2 สร้างสัมพันธภาพที่ดี ทำให้คลายวิตกกังวล
4.3 ให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำแผล เช่น การลอกผ้าปิดแผล การทำความสะอาดแผล ข้อมูลความรู้สึกที่จะประสบ
4.4 ฝึกให้ผู้ป่วยใช้เทคนิคลดปวด เช่น ทำสมาธิ ฝึกการหายใจเข้าออกลึกๆ ขณะทำแผล
4.5 ทำแผล skin graft ครั้งแรก ผ้าก๊อซจะติดแผลมาก ให้ใช้สำลีชุบ 0.9 % NSS ซับแผลให้ชุ่มจากนั้นดึงผ้าปิดแผลออกเบาๆ4.6 ทำความสะอาดแผลแบบ dry dressing เนื่องจากเป็นแผลสะอาดและแห้ง4.7 ปิดแผลแบบตาข่าย ปิดทับด้วยผ้าก๊อสและพันทับด้วยผ้ายืด ป้องกัน graft หลุด
5.ให้ผู้ป่วยนอนยกขาขวาสูง ใช้หมอนรองให้สูงจากระดับตัวเล็กน้อย เพื่อให้การไหลเวียนเลือด ส่วนปลายขาไหลกลับสู่หัวใจได้ดี ลดอาการบวมซึ่งเป็นอุปสรรคในการติดของผิวหนังนํามาปลูก6.ดูแลและแนะนำให้ผู้ป่วยลดการเคลื่อนไหวบริเวณต้นขาข้างขวาและเท้าขวา เพราะการเคลื่อนไหว จะไปกระทบกระเทือนการเจริญเติบโตของเส้นเลือดที่ เชื่อมต่อระหว่างหนังที่ปลูกทับบริเวณที่รับทําให้หนังที่ปลูกไว้ไม่ติด7.แนะนำให้รับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ไข่ นม ผัก และผลไม้โดยเฉพาะผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจะมีวิตามินซี เพื่อช่วยเสริมประสานแผลให้หายเร็วขึ้น