Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยากแค่ไหน กว่าจะได้ใช้รถยนต์ - Coggle Diagram
ยากแค่ไหน กว่าจะได้ใช้รถยนต์
รถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง
ผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมมีหลายชนิด สามารถนำมาไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมายทั้งทางตรง และทางอ้อม คุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เพื่อให้ทันกับวิวัฒนาการของเครื่องยนต์ที่เจริญก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ณ ที่นี้ขอกล่าวถึงคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง 2 ชนิดที่คุ้นเคย และเป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง คือน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล
น้ำมันเบนซิน
น้ำมันดีเซล
ข้อดีของรถยนต์เครื่องยนต์เชื้อเพลิงทั่วไป
เติมเชื้อเพลิงได้รวดเร็ว เพียงแค่เข้าปั๊มก็สามารถเติมเชื้อเพลิงได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
ปั๊มน้ำมันมีให้บริการทุกพื้นที่ การมีสถานีให้บริการจำนวนมาก ส่งผลต่อความมั่นใจของผู้ขับขี่ในการเดินทางที่มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องกังวลหากต้องเดินทางไกล เว้นแต่จะเดินทางไปในเส้นทางที่มีปั๊มน้ำมันน้อย อย่างเส้นทางขึ้นเขาเป็นต้น
ราคารถถูกกว่ารถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นเครื่องยนต์ที่มีการพัฒนามาอย่างยาวนาน รวมถึงมีการใช้งาน และผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีราคาถูกกว่ารถไฟฟ้าที่เป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ และมีการผลิตในปริมาณที่น้อยกว่า
ข้อเสียของรถยนต์เครื่องยนต์เชื้อเพลิงทั่วไป
ปล่อยมลพิษจากการสันดาปภายในเครื่องยนต์มากกว่า เพราะในกระบวนการเผาไหม้เชื้อเพลิงของเครื่องยนต์เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนของรถ ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และคาร์บอนมอนอกไซด์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อน
ราคาเชื้อเพลิงขึ้น ลงไม่เสถียร และมีแนวโน้มเพิ่มราคามากขึ้น เนื่องด้วยราคาน้ำมันในบ้านเราจำเป็นต้องอิงราคาน้ำมันดิบจากตลาดโลก ซึ่งหากเกิดสงครามการค้าระหว่างประเทศที่รุนแรงมากขึ้น ก็ย่อมส่งผลให้น้ำมันมีราคาแพงมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้เมื่อราคาน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ราคาแก๊สธรรมชาติทั้ง LPG และ CNG ก็แพงมากขึ้นตามไปด้วย
คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนจากการใช้พลังงานแบตเตอรี่ หรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้ารูปแบบอื่น โดยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลกในปีพ.ศ. 2513 – 2523 เนื่องจากวิกฤตการณ์พลังงาน ซึ่งก็ได้รับความนิยมเป็นเวลาสั้นๆ ต่อมาในปีพ.ศ. 2551 รถยนต์ไฟฟ้าก็ได้รับการฟื้นฟูอย่างจริงจัง เนื่องจากปัจจัยในเรื่องของความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ทำให้สามารถพัฒนาศักยภาพของแบตเตอรี่ได้ดียิ่งขึ้น ปัจจัยของราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นสูง รวมไปถึงการรณรงค์ลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก
ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ามีทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่ 1 รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Hybrid electric vehicles) 2.รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน (Plug-in hybrid electric vehicles) 3.รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (Battery electric vehicles) 4.รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel-cell electric vehicles)
สำหรับข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า ได้แก่
ลดสภาวะโลกร้อน เนื่องจากว่า รถยนต์ส่วนใหญ่ที่ใช้ก๊าซหรือน้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นส่วนในการขับเคลื่อนให้รถสามารถวิ่งได้ จะปล่อยมลพิษออกมาขณะสันดาปภายในเครื่องยนต์ ทำให้ส่งผลเสียต่อชั้นบรรยากาศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ผิวโลก และส่งผลก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนได้
ประหยัด หากคนในประเทศหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น จะช่วยประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจากว่าในประเทศไทยราคาน้ำมันแพงมาก การหันมาใช้พลังงานทดแทน อย่างรถยนต์ไฟฟ้า คงเป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว
อัตราเร่งดี เนื่องจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ส่งแรงบิดได้ในทันที โดยไม่ต้องรอรอบเครื่องเหมือนรถน้ำมัน หรือ รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกออกตัวได้รวดเร็วมากขึ้น รู้สึกถึงความ ปราดเปรียว น่าขับมากยิ่งขึ้น
ข้อเสียรถยนต์ไฟฟ้า ได้แก่
สถานีชาร์จไฟฟ้าน้อยกว่าปั๊มน้ำมัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ขับรถได้อย่างสบายใจ หากไม่มีสถานีให้ชาร์จไฟได้อย่างทั่วถึง คงไม่มีใครกล้าออกรถพลังงานไฟฟ้าออกมาขับ เพราะถ้าเกิดว่าหมดกลางทาง นอกจากจะอันตรายต่อตัวเราแล้ว ยังทำให้เดือดร้อนอีกด้วย ฉะนั้นสถานีชาร์จไฟฟ้าต้องพร้อม ก่อนที่จะมีรถไฟฟ้าออกมาวิ่งนั่นเอง
ใช้เวลาในการชาร์จไฟนาน รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่รถยนต์ซึ่งมีประจุไฟฟ้ามากกว่ารถไฮบริดหลายเท่า อาจจะต้องใช้เวลาในการชาร์จมากกว่า 3 ชม. หากใช้ปลั๊กชาร์จไฟบ้านขนาด 220 โวลต์
ข้อจำกัดทางด้านระยะทางส่วนใหญ่รถพลังงานไฟฟ้าจะวิ่งได้ประมาณ 120 – 280 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง ดังนั้นการวิจัย หรือทดสอบระยะทางวิ่งไกลสุดของต่างประเทศ หากรถยนต์ไฟฟ้ามาวิ่งในประเทศไทย เวลาดึงไฟมาใช้สำหรับการทำงานของแอร์ก็จะมากขึ้น ทำให้ใช้ไฟมากขึ้น ระยะทางในการวิ่งก็น้อยลง