Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

DLBCL with LGIB, นางสาวชลดา บัวบาน เลขที่ 15 - Coggle Diagram

- - - - แบ่งเป็น
        
        มะเร็งต่อน้ำเหลืองชนิดนอนฮอร์จกิน( NON – HODHKIN LYMPHOMA ) สามารถแบ่งมะเร็งได้เป็นชนิด B – CELL หรือ T – CELL มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนี้สามารถแบ่งออกเป็น 30 ชนิดย่อยถ้าอาศัยการเจริญของตัวมะเร็งแล้วจะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
        
        2.1 ชนิดค่อยเป็นค่อยไป ( INDOLENT) มีอัตราการแบ่งเซลล์มะเร็งค่อนข้างช้าผู้ป่วยมีอาการค่อยเป็นต่อยไป
        
        2.2 ชนิดชนิดรุนแรง (AHHRESSIVE) มีอัตราการแบ่งเซลล์มะเร็งเร็ว ถ้าไม่ได้รับการรักษาอาจเสียภายใน 6 เดือน -12 ปี หากรู้เร็วสามารถรักษาให้หายขาดได้
    - - 5 เดือนก่อน พบก้อนโตที่คอ ก้อนโตมากขึ้นเรื่อยๆ คลำพบก้อนหลายก้อนที่บริเวณคอหลายตำแหน่ง พบเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
        
        แพทย์วินิจฉัยพบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง DIFFUSE LARGE B – CELL LYMPHOMA (DLBCL)
  - - - มะเร็งต่อน้ำเหลืองชนิดนอนฮอร์จกิน( NON – HODHKIN LYMPHOMA ) สามารถแบ่งมะเร็งได้เป็นชนิด B – CELL หรือ T – CELL มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนี้สามารถแบ่งออกเป็น 30 ชนิดย่อยถ้าอาศัยการเจริญของตัวมะเร็งแล้วจะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
      - 2.1 ชนิดค่อยเป็นค่อยไป ( INDOLENT) มีอัตราการแบ่งเซลล์มะเร็งค่อนข้างช้าผู้ป่วยมีอาการค่อยเป็นต่อยไป
      - 2.2 ชนิดชนิดรุนแรง (AHHRESSIVE) มีอัตราการแบ่งเซลล์มะเร็งเร็ว ถ้าไม่ได้รับการรักษาอาจเสียภายใน 6 เดือน -12 ปี หากรู้เร็วสามารถรักษาให้หายขาดได้
      - การสัมผัสสารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลงจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
  - - - การพบก้อนที่บริเวณต่างๆของร่างกาย เช่น ที่คอ รักแร้ ขาหนีบ โดยก้อนที่เป็นมะเร็งต่อมนั้นมักไม่เจ็บ ซึ่งต่างจากการติดเชื้อ ที่มักมีอาการเจ็บที่ก้อน
      - ไข้ หนาวสั่น
      - มีเหงื่อออกมากตอนกลางคืน
      - เบื่ออาหาร และน้ำหนักลด
      - มีริดสีดวงทวารจากการรักษา
- - - - ข้อมูล
        
        O : แพทย์วินิจฉัยเป็น DLBCL โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
        
        -ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
        
        Hemoglobin 6.3 g/dl
        
        Hematocrit 20.8 %
        
        Lymphocyte 76%
        
        Capillary refill 2 sec
        
        -ให้เลือกตามแผนการรักษา LPRC3 unit
        
        S: ผู้ป่วยบอกว่า “หายใจเหนื่อย เหนื่อยง่ายเวลาพูด”
    - - ไม่เกิดภาวะโลหิตจาง
      - เกณฑ์การประเมิน
      - -capillary refill < 2 sec
      - -ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยลดลง
      - -ผลการตรวจทางปฏิบัติการปกติ
      - Hb 12-15.1 g/dL
      - HCT 36-44 %
      - Lymphocyte 30-45 %
      - Monocyte 1-4 %
    - - 1ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะซีด เช่น อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง เวียนศีรษะ มึนงง เพื่อประเมินภาวะซักของผู้ป่วย
      - 2.ดูแลและผู้ป่วยพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพือลดการใข้ ออกซิเจนโดยไม่จำเป็น
      - 3.แนะนำการรับประทานอาหารของผู้ป่วย เพื่อช่วยส่งเสริมธาตุเหล็กให้แก่ร่างกาย
      - 4.แนะนำผู้ป่วยสังเกตอาการผิดปกติหรืออาการที่บ่งชี้ถึงภาวะซีด เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เวียนศรีษะ หากมีอาการดังกล่าวให้รับแจ้งพยาบาล
      - 5.ติดตามการตรวจทางปฏิบัติการ ได้แก่ Hb,HCT,Lymphocyte,Monocyte เพื่อประเมินภาวะซีดหลักการรักษา
      - 6.ติดตามการให้เลือดตามแผนการรักษาของแพทย์ เพื่อรักษาภาวะซีดและโลหิตจาง
    - - บรรลุจุดมุ่งหมายบางส่วน
      - Capiillary refill 2 sec
      - ผู้ป่วยบอกว่าเหนื่อยน้อยลง นอนราบได้
  - - - ผู้ป่วยบอกว่า มีเลือดออกขณะอุจจาระ
      - ผลการตรวจทางห้องปฎิบัติการ
    - - ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน
      - เกณพ์การประเมิน
        
        ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการอยู่ในเกณฑ์ปกติ
        
        v/s อยู่ในเกณพ์ปกติ
    - - v/s อยู่ในเกณฑ์ปกติ
    - - ประเมิน v/s ทุก 1 ชั่วโมง
      - บันทักสารน้ำเข้าขออก ทุก 4 ชั่วโมง
      - ควบคุมสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
      - ประเมินชีพจรส่วนปลาย
      - ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิยัติการ
  - - - O : case DLBCL ได้รับยาเคมีบำบัด
      - T=36.7 องศา
      - P = 85 bpm
      - R = 24 bpm
      - BP = 95/63 mmhg
      - -ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
      - วันที่ 21 พย. 64
      - WBC = 4,470 /ul
      - Lymphocyte = 76 %
      - Monocyte = 13 %
      - -แพทย์มีแผนการรักษาให้ยา tazonic เป็นยาปฏิชีวนะที่มีผลทำให้การสร้างเกร็ดเลือดผิดปกติ
    - - ไม่เกิดภาวะติดเชื้อ
    - - -ไม่มีอาการ อาการแสดงของการติดเชื้อ เช่น ไข้ ปวดศีรษะ ไอ
      - -V/S
      - T=36.5 - 37.4องศา
      - P = 60-100 bpm
      - R = 16-20 bpm
      - BP = 90/140/60-90 mmhg
      - -ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการอยู่ในเกณฑ์ปกติ
      - WBC = 4,000-10,000/ul
      - Lymphocyte = 30 -45 %
      - Monocyte = 1-4%
    - - 1.ประเมินสัญญาณชีพทัก 4 ชั่วโมง
      - 2.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ประมาณ 2,500-3,000 ml/day เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
      - 3.ดูแลให้ยาการพยาบาลด้วยวิธี aseptic tachnique เพื่อป้องกันการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อน
      - 4.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยา Tazocin + 0.9% Nss rate 60 ml/hr ตามแผนการรักษาของแพทย์ พร้อมทั้งบอกผลข้างเคียงของยาให้ผู้ป่วยทราบ
      - 5.ดูแลทำความสะอาดร่างกาย และจัดสิ่งแวดล้อมให้สะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดโอกาสของเชื้อโรคที่จะเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วย
      - 6.ติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ และติดตามประเมินสัญญาณชีพหลังจากได้รับการรักษา เพื่อตรวตสอบดูความเปลี่ยนแปลง และประเมินการติดเชื้อในร่างกาย
- - - - -Losec- Omeprazole CAP 20 mg 1 tap oral b.I.d ac (07:00 น.-16:00น.) ข้อบ่งใช้ : ลดกรดในกระเพาะอาหาร
      - -Sodamint (sodium bicarbonate)300 mg oral t.I.d pc (08:00น .,12:00 น.,17:00 น.) ข้อบ่งใช้ ยาขับลม
      - -Tazocin 0.9% Nss IV rate 60 ml/hr ข้อบ่งใช้ รักษาและป้องกันการติดเชื้อก่อนผ่าตัด
      - Mucillin powder (ER) 100g b.I.d (เช้า-เย็น)
        ข้อบ่งใช้ รักษาภาวะท้องผูก
      - Daflon(L)(ND) 500 mg 1 tap oral b.I.d pc (08:00 น.-17:00 น.)
        ข้อบ่งใช่ ใช้รักษาริดสีดวง
      - -Domperidone 10 mg 1 tap oral t.I.d ac (07:00 น.,11:00 น.,16:00 น.)
        ข้อบ่งใช้ ลดอาการคลื่นไส้