G2P1A0 Elderly Gravidarum ć Mild pre-eclampsia without severe feature ć Malposition (Occiput posterior position) ć small for gestational age ć Vacuum Extraction
มารดาเสี่ยงต่อภาวะตกเลือดหลังคลอดเนื่องจาก Elderly Gravidarum
ข้อมูลสนับสนุน
O: G2P1
O: มดลูกหดรัดตัวไม่ดี
O: มารดาหลังคลอดบุตรทางช่องคลอด 24 hr. แรก
O: มีการใช้ Vacuum Extraction ช่วยคลอด
O: เสียเลือด 400 cc. หลังคลอด
O: มารดาได้รับยา Syntocinon
O:ไล่ก้อนเลือดมก้อนเลือดขนาดเล็กเท่าเหรียญ 10 บาท 2-3 ก้อน
O: มีเลือดสดออกทางช่องคลอดประมาณ 50 CC.
วัตถุประสงค์
เพื่อป้องกันไม่เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดใน 24 ชั่วโมง
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินการตกเลือดหลังคลอด จากการตรวจดูบาดแผลบริเวณฝีเย็บเเละการหดรัดตัวของมดลูก รวมทั้งสังเกตปริมาณเลือดที่ออกจากช่องคลอดเเละสังเกตอาการที่เกิดจากมีการตกเลือดหลังคลอด เช่น ซึม ไม่รู้สึกตัว ซีด หัวใจเต้นเร็ว ชีพจรเบาเร็ว
- ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกเเละแผลฝีเย็บ เพื่อป้องกันสาเหตุที่อาจก่อให้เกิดการตกเลือดหลังคลอดได้ ตามหลัก 4 T และ ประเมินการฉีกขาดของแผลฝีเย็บตามหลัก REEDA
- กระตุ้นให้มารดาปัสสาวะภายใน 8 ชม. เเรกหลังคลอดเนื่องจากการที่กระเพาะปัสสาวะเต็มจะทำให้การบีบหดรัดตัวของมดลูกไม่ดี เสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอดได้
- สังเกตปริมาณน้ำคาวปลาเพื่อดูสี กลิ่น ปริมาณ โดยให้มารดาเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ 3-4 ชม. หรือ เมื่อชุ่ม โดย 2 ชม. เเรกไม่ควรเกิน 2 ผืน เเละในหลัง 2 ชม.ต่อมาไม่ควรเกิน 1 ผืน
- แนะนำให้มารดาคลึงมดลูก เพื่อป้องกันการตกเลือด เเต่ไม่ควรคลึงหรือกระตุ้นมากเกินไปเพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อมดลูกล้าได้
- วัดสัณญาณชีพทุกๆ 4 ชม. และดูอาการเเสดงของการตกเลือด ได้เเก่ ชีพจรเบาเร็ว หายใจเร็ว ความดันโลหิตสูง
- ดูแลให้ได้รับ 5%D/NSS 1,000 ml + Syntocinon 30 unit IV drip 100 cc/hr เพื่อดระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก ป้องกันการตกเลือดหลังคลอด
มีโอกาสเกิดภาวะชักในระยะหลังคลอด เนื่องจากภาวะ mind preeclampsia
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยา MgSO4
ไม่สุขสบาย เนื่องจากปวดแผลฝีเย็บ
มีโอกาสเกิดภาวะพลัดตกหกล้มเนื่องจากร่างกายอ่อนเพลีย
กิจกรรมการพยาบาล
- อธิบายให้มารดาหลังคลอดทราบถึงพยาธิสภาพของโรค อาการนำสู่ภาวะชัก อันตราย
ที่จะเกิดขึ้น และความจำเป็นในการให้ยา MgSO4 และอาการข้างเคียงของการได้รับยา MgSO4 ซึ่งอาจพบได้ เช่น อาการร้อนบริเวณที่ฉีด ร้อนวูบวาบทั่วตัว
- ประเมินอาการนำสู่ภาวะชัก ได้แก่ อาการปวดศีรษะ ตาพร่ามัว เห็นภาพไม่ชัด อาการปวดบริเวณใต้ลิ้นปี หรืออาการเจ็บชายโครงขวา Deep tendon reflex เร็วเกินไป 3+ ขึ้นไป ถ้าตรวจพบอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต้องรีบรายงานแพทย์
- ประเมินระดับความรู้สึกตัว ความดันโลหิต ชีพรและการหายใจ อาการปวดศีรษะ
ทุก 1 ชั่วโมง และรายงานแพทย์เมื่ออาการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เลวลงกว่าเดิม
- ให้สารน้ำชนิด 5%D/W 1,000 ml. ผสมยา 50% MgSO2 10 กรัม หยดเข้า
หลอดเลือดดำในอัตรา 100 ml./hr. เพื่อป้องกันการชัก และสังเกตอาการไม่พึงประสงค์ของยาเช่น อัตราการหายใจน้อยกว่า 14 ครั้ง/นาที ปีสสาวะออกน้อยกว่า 30 มิลลิเมตร/ชั่วโมง Deep tendon reflex น้อยกว่า 2+ ถ้าตรวจพบอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต้องรีบรายงานแพทย์ หยุดการให้ยา
- เตรียมยา 10% Calcium gluconate 10 กรัม ไว้ให้พร้อมโดยฉีดเข้าหลอดเลือดดำช้าๆ
ถ้าพบมีอาการผิดปกติ เช่น การหยุดหายใจ กล้ามเนื้ออ่อนแรง เพราะเป็นอาการแสดงของภาวะหัวใจถูกกดจากยา MgSO4 ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อลาย
- ตรวจและบันทึกการได้รับสารน้ำ และปริมาณปัสสาวะ โดยเฉพาะตรวจสอบปริมาณ
น้ำปีสสาวะทุกชั่วโมง เพราะยาจะถูกขับออกจากร่างกายทางไต ถ้าไตทำงานผิดปกติจะทำให้มีการคั่งของยาในร่างกาย
- จัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการพักผ่อน ทำกิจกรรมต่างๆ บนเตียง เพื่อให้สามารถพักผ่อนได้อย่างเพียงพอ ช่วยลดความดันโลหิตและป้องกันการเกิดอาการชัก ไม่ปล่อยให้อยู่ตามลำพัง ขณะอยู่บนเตียงต้องยกไม้กั้นเตียงทั้ง 2 ข้างขึ้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการตกเตียง
- เตรียมอุปกรณ์และทีมช่วยฟื้นคืนชีพให้พร้อม เพื่อช่วยเหลือได้ทันทีเมื่อมีอาการชัก ได้แก่ ไม้กดลิ้น เครื่องดูดเสมหะ เป็นต้น
กิจกรรมการพยาบาล
- อธิบายให้มารดาหลังคลอดและญาติเข้าใจเป็นในการให้ยาและอาการข้างเคียงขณะให้ยา ได้แก่ ร้อนตามตัว มีเหงื่อออกมาก อาการร้อนปลายมือปลายเท้า และหน้าแดง
เนื่องจากยานี้มีฤทธิ์ยาขยายหลอดเลือด ในขณะที่ได้รับยา MeSO4ควรนำผ้าชุบน้ำวางบริเวณข้อพับ ลำคอ เพื่อให้มารดารู้สึกดีขึ้นจากอาการร้อน
- ควบคุมให้ได้รับปริมาณยา 50% MgSO4 10 กรัม ผสมใน 5%D/W 1,000 มิลลิลิตรโดยใช้ Infusion pump ในอัตรา 100 มิลลิลิตร/ชั่วโมง เพื่อให้ได้ปริมาณยาตา
รักษา
- ปฏิบัติตามแนวทางเพื่อป้องกันอาการไม่พึงประสงค์จากยา คือ ภาวะแมกนีเซียมเป็นพิษ
- สังเกตอาการของการได้รับยา MgSO4 ในเลือดสูงมากเกินไป ได้แก่ อาการร้อนวูบวาบ
เหงื่อออก ความดันโลหิตลดลง การหายใจช้าลง ซึม ไม่มีแรง อ่อนปวกเปียก Deep tendon reflex ลดลง ต้องรีบรายงานแพทย์ ดังนั้น จึงต้องมีการตรวจเลือดเพื่อประเมินระดับแมกนีเขียมเป็นระยะ ระดับ MgSO4ในเลือดไม่ควรเกิน 7 mEg/L (8.4 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร) หากสูงกว่านี้ จะทำให้ Deep tendon refex หายไป รวมทั้งจะทำให้หยุดการหายใจได้ การประเมินระดับแมกนีเซียมในน้ำเลือด ควรทำภายหลังให้ยาแมกนีเขียม ไปแล้ว 1 - 2 ชั่วโมง และประเมินช้ำเมื่อมีอาการบ่งชี้
- เตรียมออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยฟื้นคืนชีพไว้ให้พร้อม หากมารดาหยุดหายใจ หรือหัวใจหยุดเต้น ต้องให้การช่วยชีวิตเบื้องต้น ใส่ท่อช่วยหายใจ
- นับอัตราการหายใจ ทุก 1 ชั่วโมง ต้องไม่น้อยกว่า 14 ครั้ง/นาที ถ้าอัตราการหายใจน้อยกว่า 14 ครั้ง/นาที ต้องหยุดให้ยา และรายงาแพทย์ทันที
- ตวงและบันทึกปริมาณปัสสาวะทุก 1 ชั่วโมง ใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้ ถ้าปัสสาวะออกน้อยกว่า 30 มิลลิลิตร หรือภายใน 4 ชั่วโมงออกน้อยกว่า 100 มิลลิลิตร รายงานแพทย์
- ประเมิน Deep tendon reflex ทุก 1 ชั่วโมง ถ้าน้อยกว่า 2+ ต้องรายงานแพทย์ทันที หรือเท่ากับ 0 ต้องหยุดยาทันที เนื่องจาก ยาจะออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง กดกล้ามเนื้อเรียบ กล้ามเนื้อลาย และกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งอาจกดศูนย์การหายใจ และทำให้เสียชีวิตได้ และเนื่องจากยา MgSO 4 เกือบทั้งหมดขับออกทางไต ถ้าปัสาวะออกน้อยลง ระดับยาจะยังคงสูงอยู่ในเลือดโอกาสเกิดภาวะแมกนีเซียมเป็นพิษ(Magnesium toxicity) จะเพิ่มมากขึ้น
ข้อมูลสนับสนุน
S: มารดาบอกว่าปวดแผลฝีเย็บ
O: มารดามีสีหน้าแสดงความเจ็บปวด
O: G2P1A0 ใช้ vacuum Extraction ในการช่วยคลอด
O: Right Mediolateral Episiotomy
O: Pain score 6-7 คะแนน
ไม่สุขสบายเนื่องจากปวดมดลูก
วัตถุประสงค์
ปวดแผลฝีเย็บลดลง
กิจกรรมการพยาบาล
1.แนะนำให้นอนตะแคงซ้าย และเวลาขยับตัวหรือลุกนั่งให้ค่อยทำอย่างช้าๆ เพื่อช่วยลดการกดทับแผลฝีเย็บด้านขวา และช่วยลดการกระเทือนบริเวณแผล
2.สอนเทคนิคการบรรเทาอาการปวด ได้แก่
3.อบแผลฝีเย็บวันละ 1 ครั้ง นาน 15-20นาที เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด ส่งเสริมการหายของแผล
2.1 สอนเทคนิคการผ่อนคลาย โดยเป็นจังหวะ เป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และเบี่ยงเบนความปวด
2.2 นวดคลึงเบาๆ บริเวณหลัง เท้า สะโพก จะช่วยยับยั้งการส่งกระแสประสาทความเจ็บปวด
2.3 แนะนำวิธีเบี่ยงเบนความสนใจด้วยวิธีต่างๆ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ทำกิจกรรมที่ชอบ
4.แนะนำการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ที่ถูกต้อง จากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ
5.แนะยำการเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 3-4 ชั่วโมงหรือเมื่อชุ่ม เพื่อลดการหมักหมมของเชื้อโรค
6.แนะนำการรับประทานอาหารที่ส่งเสริมการหายของแผล ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง พวกส้ม เป็นต้น
7.แนะนำการขมิบช่องคลอดให้ทำบ่อยๆ วันละ100-200 ครั้ง เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปที่แผลมากขึ้น ส่งเสริมการหายของแผล
8.ดูแลให้ได้รับยาแก้ปวด Paracetamol 500 mg. 1 tab oral prn for pain q 4-6 hr.
9.แนะนำให้ใช้หมอนสี่เหลี่ยมเจาะกลาง เพื่อลดการกดทับแผล
10.แนะนำการสังเกตอาการผิดปกติ ได้แก่ แผลฝีเย็บ ปวด บวม แดง ร้อน มีไข้ ซึ่งเป็นอาการแสดงของภาวะติดเชื้อ
11.ประเมินความปวด Pain score ซ้ำ เพื่อติดตามเรื่องความปวดแผลฝีเย็บ
ข้อมูลสนับสนุน
O: มารดาแสดงสีหน้าวิตกกังวลจากความปวด
O: PS=6-7
O: G2P1 GA38+4 อายุ 41ปี
กิจกรรมการพยาบาล
1.อธิบายให้ทราบถึงอาการปวดมดลูก เพื่อให้มีการรับรู้ที่ถูกต้องช่วยให้ระดัยความอดทนต่อความเจ็บปวดสูงขึ้น อาการปวดมดลูกเกิดจากการหดรัดตัวของมดลูกซี่งเป็นภาวะปกติที่เกิดขึ้นในระยะหลังคลอด เพื่อช่วยป้องกันการตกเลือดหลังคลอด และทำให้มดลูกกลับเข้าสู่สภาพเดิมโดยเร็ว ซึ่งในครรภ์หลังจะปวดมดลูกมากกว่าครรภ์แรก เพราะมดลูกของครรภ์หลังจะสูญเสียความตึงตัวของกล้ามเนื้อมากกว่า และจะปวดมดลูกมากยิ่งขึ้น ถ้าให้บุตรดูดนม ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซินออกมาจึงมีอาการปวดมดลูก
- สอนเทคนิคการผ่อนคลายโดยการบริหารการหายใจเป็นจังหวะ เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และเบี่ยงเบนความสนใจออกจากความเจ็บปวด
- จัดให้นอนคว่ำ โดยเอาหมอนหนุนบริเวณท้องน้อย ช่วยบรรเทาอาการปวด
4.หากปวดมากให้รับประทานยาParacetamol 500mg 1tab prn. ทุก4hr. เพราะยามีฤทธิ์ในการยับยั่งสารพอสตาแกลนดิน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นความเจ็บปวด จึงช่วยให้ความเจ็บปวดลดลงได้
ส่งเสริมออกกำลังกาย
ข้อมูลสนับสนุน
S:รู้สึกอ่อนเพลีย
O:เสียเลือด 400 cc. ระยะคลอด
O:เสียเลือด 50 cc.หลังคลอด
O:ระยะที่สองการคลอดยาวนาน
วัตถุประสงค์
ไม่เกิดการพลัดตกหกล้ม
กิจกรรมการพยาบาล
- จัดให้มารดานอนพักบนเตียงหลังคลอดบุตรอย่างน้อย 5-6 ชั่วโมงหลังคลอดเพื่อบรรเทาอาการอ่อนเพลียและป้องกันอุบัติเหตุ
- วัดความดันโลหิตและตรวจดูความเข้มข้นของเลือดเพื่อประเมินสภาพร่างกาย
- แนะนำวิธีการเปลี่ยนท่าอย่างช้าๆเพื่อให้การไหลเวียนดีเลือดไปเลี้ยงสมองดีการทรงตัวจะดีขึ้นเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ
- แนะนำวิธีป้องกันการบาดเจ็บที่ศีรษะในขณะเปลี่ยนท่าโดยแนะนำให้นั่งลงบนพื้นเพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่ศีรษะ
- อนุญาตให้มารดาทำกิจกรรมข้างเตียงและไกลเตียงตามศักยภาพหลังคลอด 5-6 ชั่วโมงในรายที่ไม่มีอาการวิงเวียนโดยแนะนำญาติหรือพยาบาลคอยระวังการเกิดอุบัติเหตุอย่างใกล้ชิด
- แนะนำมารดาหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น การงอเข่าเวลาขับถ่ายหรืออาบน้ำเพราะอาจทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอเป็นสาเหตุทำให้เกิดหน้ามืดเป็นลม
ข้อมูลสนับสนุน
S: ปกติไม่ออกกำลังกายเลย
S:หลังคลอดไม่ได้ออกกำลังกาย
วัตถุประสงค์
มารดามีออกการออกกำลังกายหลังคลอด
กิจกรรมการพยาบาล
ส่งเสริมสัมพันธภาพและการเลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดา
- การบริหารปอด (Breathing exercises) ด้วยการหายใจSKT ท่าที่ 1 นั่งผ่อนคลายประสานกายประสานจิต ช่วยกระตุ้นการทำงานของปอดปอดขยายตัวได้ดีมีการไหลเวียนเลือดวิธีการทำคือ-นอนหรือนั่งในท่าที่สบายจะลืมตาหรือหลับตาก็ได้วางมือทั้ง 2 ข้างไว้บนหน้าท้องสูดลมหายใจเข้ายาว ๆ ทางจมูกให้ท้องพองออกมากที่สุดกลั้นลมหายใจไว้นับ 1-3-เผยอริมฝีปากเล็กน้อยผ่อนลมหายใจออกทางปากยาว ๆ ให้ท้องแฟบมากที่สุด-หายใจเข้ากลั้นไว้หายใจออกนับเป็น 1 รอบทำซ้ำ 4-5 รอบ
2.การบริหารกล้ามเนื้อขา (Leg exercises) ช่วยกระตุ้นการทำงานความรู้สึกของเซลล์ขาช่วยให้การไหลเวียนเลือดที่ขาดีลดการอักเสบอุดตันของหลอดเลือดดำที่ขาลดอาการปวดเมื่อยขาสามารถมีวิธีการทำคือนอนหรือนั่งบนพื้นราบนั่งบนเก้าอี้เหยียดขาทั้ง 2 ข้างให้ตึงไม่งอเข่า-กระดูกปลายเท้าเข้าหาตัวให้น้องตึงเกร็งค้างไว้ 10 วินาทีค่อยๆคลายออกมาอยู่ในท่าปกติ
3) บริหารสะโพก นอนหงายยกสะโพกนอนหงายราบไม่หนุนหมอนชันขาทั้ง 2 ข้างขึ้นให้ฝ่าเท้าแยกห่างกันประมาณ 1 ช่วงไหล่ของสตรีหลังคลอดหนีบหัวเข่าให้ติดกัน-สูดลมหายใจเข้ายาว ๆ พร้อม ๆ กับยกสะโพกขึ้นลอยสูงจากพื้นโดยหลังไม่งอแล้วเกร็งกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานฝีเย็บขมิบช่องคลอดค้างไว้นับ 1-3 แล้วคลายออกขมิบและคลายออก 2-3 รอบ-ผ่อนลมหายใจออกยาว ๆ พร้อม ๆ กับผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งไว้และลดสะโพกลงวางบนพื้น-ทำซ้ำโดยยกสะโพกและลดสะโพกลงวันละ 10 ครั้ง
4) การบริหารทรวงอก (Thoracic exercises) ช่วยให้เลือดไหลเวียนบริเวณเต้านมได้ดีเต้านมผลิตน้ำนมได้มากขึ้น วิธีทำยกแขนขึ้น-ลงนอนหงายบนพื้นราบไม่หนุนหมอนกางแขน 2 ข้างออกไปให้ตั้งฉากกับลำตัวยกแขนทั้ง 2 ข้างขึ้นจนฝ่ามือมาประกบกันเหนือ 2 หน้าอกแขนเหยียดตรงค้างไว้ 2-3 วินาทีแยกฝ่ามือและลดแขนลงวางข้างลำตัวทำซ้ำ 10 ครั้ง
ข้อมูลสนับสนุน
O: - น้ำนมแม่ไหลหยด
วัตถุประสงค์
กิจกรรมการพยาบาล
1.สัมพันธภาพมารดาและบุตรเป็นไปได้ด้วยดี
2.ทารกได้รับนมอย่าง
1.ให้กำลังใจให้คำปรึกษา แนะนำมารดาเกี่ยวกับการดูแลบุตร เช่น การอุ้มบุตร พูดคุย การให้นม การทำความสะอาดร่างกาย เพื่อให้มารดาเกิดความมั่นใจ
2.กระตุ้นให้มารดามีสัมพันธภาพที่ดีกับบุตร การพูดคุย การประสานสายตา การสัมผัส เพื่อให้มารดาได้เกิดความเข้าใจทักษะการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับทารก
3.เปิดโอกาสให้บิดา มารดา ทารกอยู่ด้วยกัน และให้บิดาได้ดูแลทารกด้วยตัวเอง และสอนการอาบน้ำ การเช็ดสะดือ การทำความสะอาดหลังขับถ่ายที่ถูกต้องให้แก่บิดามารดา พยาบาลคอยช่วยและแนะนำอยู่ข้างๆ
4.ให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงดูบุตรด้วยนมตนเอง และสอนท่าอุ้มดูดนม และการดูดนมที่มีประสิทธิภาพ ให้ทารกดูดนมมารดาทุก 2-3 ชั่วโมง หรือตามที่ทารกต้องการ โดยสอดหัวนมเข้าปากให้พอดีกับจังหวะอ้าปากของทารก ให้ทารกอมหัวนมเข้าไปลึกจนเหงือกกดบริเวรลานนม ให้ดูดข้างละ 10-20 นาที
ส่งเสริมการวางแผนครอบครัว
ข้อมูลสนับสนุน
s: ต้องการคุมกำเนิดโดยการฉีดยาคุมกำเนิด
o: มารดา G2P1 อายุ 41 ปี
วัตถุประสงค์
มารดาคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กิจกรรมการพยาบาล
ทารกมีความเสี่ยงต่อภาวะ Hypoglycemia เนื่องจากทารกมีน้ำหนักตัวน้อย
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะ hypothermia
1.พูดคุยสอบถามความต้องการของมารดาในการคุมกำเนิด เพื่อประเมินความต้องการการมีบุตรเพิ่ม และความต้องการเว้นระยะห่างการมีบุตรของมารดา
2.แนะนำวิธีการคุมกำเนิดแบบต่างๆ
การคุมกำเนิดแบบชั่วคราว
ยาเม็ดคุมกำเนิด ข้อดี มีประจำเดือนสม่ำเสมอ ราคาถูก และซื้อได้ง่าย ข้อเสีย ประสิทธิภาพต่ำ ไม่เหมาะกับผู้ที่ลืมกินยาบ่อยๆ
ยาฉีดคุมกำเนิด คำแนะนำ การใช้ยาฉีดคุมกำเนิดควรนัดทุก 12 สัปดาห์ ไม่ควรเกินนัด 2 สัปดาห์ ถ้าเกินกว่านี้และเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ต้องงดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยางอนามัยไปอีก 7 วันหลังจากฉีดยาคุมกำเนิด ข้อดี - มีประสิทธิภาพสูง ไม่มีผลต่อการมีเพศสัมพันธ์ สามารถใช้ได้ในแม่ที่ให้นมบุตร ข้อเสีย มีประจำเดือนมากหรือนานกว่า 8 วัน หนัก
ยาฝังคุมกำเนิด ข้อดี มีประสิทธิภาพสูง ใช้ได้นาน เหมาะกับวัยรุ่น ข้อเสีย เลือดออกกะปริดกะปรอย ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
- แนะนำให้คู่สมรสสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง เมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
ห่วงอนามัย ข้อดี ราคาถูก ใช้ได้นาน ประสิทธิภาพสูง ข้อเสีย - ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นเบาหวาน และสตรีคันแรก - ติดเชื้อ เกิดการอักเสบได้ง่าย
ถุงยางอนามัย (สำหรับสามี) ข้อดี ป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ ราคาถูก ใช้ง่าย ข้อเสีย - อาจเกิดการรั่ว
การคุมกําเนิดแบบถาวร
การทำหมันหญิง ทำหมันชาย
- ให้มารดาตัดสินใจเลือกการคุมกำเนิดตามความต้องการ
กิจกรรมการพยาบาล
- ดูแลให้ความอบอุ่นร่างกายด้วยการสวมเสื้อผ้า ใส่หมวก ใส่ถุงมือ ถุงเท้า เพื่อลดการสูญเสียความร้อนออกจากร่างกาย
- ก่อนอาบน้ำทุกครั้ง ควรวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนทุกครั้ง ถ้าหากอุณหภูมิร่างกายต่ำ ควรงดการอาบน้ำ และ เลือกสถานที่อาบน้ำที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
- หลังอาบน้ำทุกครั้ง รีบเช็ดให้แห้ง ห่อตัวและส่งให้มารดาอุ้มโดยเร็ว
- ดูแลให้ได้รับนมทุก 2-3 ชั่วโมง นาน 20-30 นาที เพื่อให้ทารกได้รับนมเพียงต่อต่อพลังงานที่ร่างกายต้องกาย
- รีบทำความสะอาดอวัยวะเพศโดยเร็ว ให้แห้ง เพื่อลดการเปียกชื้น
- วัดอุณหภูมิร่างกายทุก 4 ชั่วโมงเพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลง
- สังเกตและบันทึกอาการิดปกติที่แสดงถึงภาวะ อุณหภูมิกายต่ำ เช่น reflex น้อย ปลายมือปลายเท้าเขียว ซีดทั่วร่างกาย เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือได้ทัน
กิจกรรมการพยาบาล
1.ดูแลให้ทารกได้รับ breast feeding ทุก 2-3 ชั่วโมง ตามความเหทมาสมของสภาพทารก เพื่อให้ทารกได้รับสารอาหารเพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
3.ควบคุม และดูแลเรื่องความอบอุ่นแก่ทารกเพื่อป้องกันภาวะที่จะทำให้มีการใช้น้ำตาลในร่างกายเพิ่มขึ้น
2.สังเกตอาการและอาการแสดงของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เช่น ตัวสั่น หรือ กระตุก มีอาการเขียวชัดเจน ค่อนข้างซึม ชัก หยุดหายใจเป็นระยะ หรือหายใจเร็วมาก เสียงร้องค่อย หรือแหลมสูง ตัวอ่อนปวกเปียก ดูดนมน้อยหรืออาจจะไม่ดูด อาจมีออาเจียน อุณหภูมิต่ำลง หัวใจเต้นเร็ว ให้เจาะ DTX ถ้า < 40 mg% รีบรายงานแพทย์ เพื่อช่วยเหลือ
4.วัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการเปลี่ยนแปลงและวางแผนช่วยเหลือได้ทันท่วงที
5.เฝ้าระวังภาวะติดเชื้อ โดยใช้หลักปลอดเชื้อ โดยใช้หลักปลอดเชื้อ Aseptic Technique และหลัก Universal Precaution เพื่อป้องกันภาวะพร่อง O2 ซึ่งจะทำให้ต้องการกลูโคสในการให้พลังงานแก่ร่างกายและหายใจแบบไม่ใช่ O2
6.ชั่งน้ำหนักทารกทุกวัน เพื่อประเมินน้ำหนักของทารกภายหลังได้รับการพยาบาล และวางแผนการพยาบาลได้เหมาะสม
น.ส.สุตาภัทร ประเสริฐศักดิ์ 611001055 เลขที่ 55