Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Postpartum Hemorrhage, บรรณานุกรม …

- - - - ให้การพยาบาล 1.กระตุ้นให้ปัสสาวะ 2.เปิดเส้นให้Acetar 1,000ml vein drip 100cc/hr. เพื่อกระตุ้นให้เข้าActive phase
    - - การพยาบาล 1.ได้รับสารน้ำ 5%DN/2 1,000ml+Syntocinon 10unit 20cc/hr. 2. นอนตะแคงซ้ายให้เลือดไหลเวียนเลี้ยงมดลูก
    - - รายงานแพทย์เมื่อชักนำคลอดไม่สำเร็จ ให้การพยาบาลก่อนเข้าห้องผ่าตัด
    - - Diagnosis: Pregnancy 37 wks. with CPD with Labor pain with Failed induction วิธีการผ่าตัดผ่าตัด Low Tranverse sesarean section with General Anastasia
        
        ได้รับสารน้ำ 5%DN/2 1000ml+syntocinon 20 unit vein drip , clindamycin 900 mg vein drip Blood loss 700cc. urine out put of Foley 10cc.
        
        เวลา 21.26น. คลอดทารกเพศชาย หนัก 2,985g. Apgar score 9,10,10 พบปานทั่วก้น รอยแดงที่ศีรษะและแก้มขวา หลังผ่าตัดมารดานอนสังเกตอาการ เวลา 22.00น. ได้รับ Pethidine 10mg สัญญาณชีพ BP:124/97mmHg. HR:94bpm. RR:18 ครั้ง/นาที SpO2 96% ได้รับ O2 cannula 3LPM เวลา 23.00น. ย้ายมาแผนกมารดาหลังคลอด
- - - - A: ภาวะตกเลือดหลังคลอด Postpartum Hemorrhage คือ การที่มารดามีเลือดออกหลังคลอดบุตรปกติทางช่องคลอด มากกว่า500cc. ผ่าตัดคลอดมากกว่า 1000cc. โดย แบ่งเป็น2ระยะ 1.Early PPH การตกเลือดใน24ชั่วโมงหลังคลอดรวมระยะที่3ของการคลอดด้วย 2. Late PPH การตกเลือดหลังคลอด ภายหลักจาก 24ชั่วโมงจนถึง6สัปดาห์หลังคลอด เกิดจากสาเหตุ ปัจจัย 4 T
        
        Tone : มดลูกหดรัดตัวไม่ดีหากมดลูกหดรัดตัวจะทำให้หลอดเลือดบริเวณที่รกลอกตัวถูกบีบให้เล็กลงทำให้เลือดออกน้อยลง โดยปัจจัยที่ทำให้มดลูกหดรัดตัวไม่ดี เกิดได้จาก
        
        1.กล้ามเนื้อมดลูกขยายมากเกินไป เช่น ครรภ์แฝด คลอดลูกมากกว่า1คน ทารกตัวโต
        
        ตั้งครรภ์ครั้งที่2
        
        2.การคลอดผิดปกติ เช่นการคลอดยาวนาน (Prolonged labor)ทำให้มารดาอ่อนเพลียมาก Glycogen ถูกใช้หมดไปจากการหดตัวของมดลูกติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ทำให้พลังงานในการหดรัดตัวมดลูกอ่อนกำลังลง ไม่มีแรงพอห้ามเลือด หรือการคลอดเฉียบพลันที่ทำให้มดลูกลดขนาดเล็กเกินไป กล้ามเนื้อมดลูกมี Inadaquate retraction
        
        กรณีศึกษารู้สึกเจ็บครรภ์จริงเมื่อเวลา 02.00น. ใช้เวลาในการคลอดระยะที่1 ยาวนานกว่าปกติ 16ชั่วโมง
        
        O: มารดาอ่อนเพลีย จากการเจ็บครรภ์นานว่าปกติ V/S BP:100/60mmHg. HR84ครั้ง/นาที RR18ครั้ง/นาที
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        
        S: มารดาบอกว่า “คลอดเองไม่ได้ปากมดลูกเปิด3เซนติเมตรตั้งแต่ตี 02.00น.ของวันที่ 26 ถึง 21.00ของวันที่ 27”
        
        O: ไม่สามารถคลอดเองได้ทางช่องคลอด แพทย์ใช้สูติศาสตร์หัตถการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
        
        O: เสียเลือดขณะผ่าตัดคลอด 700cc.
        
        เกณฑ์การประเมิน
        
        1 more item...
        
        วัตถุประสงค์ ป้องกันการตกเลือดหลังคลอด
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ประเมินสัญญาณชีพทุก 15-30 นาทีหลังคลอด เป็นเวลา 1 ชั่วโมง สังเกตการหดรัดตัวของมดลูก
        2.จัดท่านอนหงายราบ ไม่หนุนหมอน หรือตะแคงค้างเพื่อให้หายใจโล่ง ส่งเสริมการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง
        3.ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ตามแผนการรักษาให้5%DN/2 1000ml +Syntocinon 10 unit 20ml/hr. หากมีปริมาณเลือดออกมากให้เตรียมเลือดเพื่อให้เลือดทดแทน
        4.ดูแลให้ได้รับออกซิเจน Cannula 4-5lit/min
        5.ดูแลให้กระเพาะปัสสาวะว่างเพื่อไม่ให้ขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูกด้วยการกระตุ้นให้ถ่ายปัสสาวะเอง หรือสวนปัสสาวะ
        6.บันทึกปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอด ปริมาณน้ำปัสสาวะ อาเจียน และการได้รับสารน้ำ เพื่อประเมินความรุนแรงของภาวะช็อก และขาดน้ำ ควรบันทึกปริมาณปัสสาวะทุก 1 ชั่วโมง ซึ่งปกติไม่ควรออกน้อยกว่า 25-30มล/ชั่วโมง 7.หาสาเหตุของการตกเลือด เช่น การหดรัดตัวมดลูกไม่ดี การบาดเจ็บของแผลผ่าตัด ภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ การคั่งค้างของรกและเยื่อหุ้มรก
        
        1 more item...
        
        3.การตกเลือดก่อนคลอด จากภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด รกเกาะต่ำทำให้เลือดแทรกอยู่ตามกล้ามเนื้อมดลูก และเลือดไม่แข็งตัว
        
        4.กระเพาะปัสสาวะเต็มและทวารหนักเต็ม ขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูกและการขยายของกระเพาะปัสสาวะทำให้มีReflexไปยังใยกล้ามเนื้อให้มีการคลายตัว
        
        5.การมีเนื้องอกที่ตัวมดลูก
        
        6.การตั้งครรภ์ที่มีบุตรเกิน5คน Grandmultipara ทำให้มีผังพืดแทรกตามกล้ามเนื้อมดลูก
        
        7.การได้รับยาทำให้มดลูกขยาย MaSO4 terbutaline หรือการได้รับยาแก้ปวด และยาสลบมากเกินไป
        
        Tissue : การมีเศษรกค้างใรโพรงมดลูก จากการบีบหรือนวดมดลูกก่อนรกลอกตัวทำให้รกลอกตัวได้บางส่วนและทำให้ปากมดลูกหดเกร็งcervical camp ปิดกั้นไม่ให้รกลอกตัวออกมา รกค้าง ซึ่งขัดขวางการหดรัดตัวมดลูก หรือในกรณีที่มีรกผิดปกติ รกใหญ่ มีรกน้อย และรกฝังตัวแน่น
        
        Trauma : การฉีกขาดของช่องทางคลอด การฉีกขาดของclistolis ปากมดลูก และการแตกของมดลูก หรือการคั่งของเลือดเมื่อเย็บแผลฝีเย็บแล้ว ปัจจับที่ส่งเสริมการฉีกขาด ได้แก่
        
        1.ด้านมารดา จากแผลเก่าที่ถูกตัดฝีเย็บ การติดเชื้อ เชิงกรานไม่ได้สัดส่วนกับศีรษะทารก หลอดเลือดขดพอง
        
        กรณีศึกษา มีช่องเชิงกรานที่ไม่ได้สัดส่วนกับศีรษะทารกทำให้ส่วนนำไม่ลงสู่Station 0 ค้างที่station-1เป็นเวลา 16 ชั่วโมงในการคลอดระยะแรก
        
        2.ด้านทารก ทารกตัวโต ท่าผิดปกติ ส่วนนำผิดปกติ
        
        3.การคลอดและวิธีคลอด การคลอดที่ใช้เวลาน้อยกว่า3ชั่วโมงทำให้ช่องทางคลอดปรับตัวขยายไม่ทันการฉีกขาด การได้รับยากระตุ้นหดรัดตัวมดลูก การทำสูติศาสตรหัตการและตัดฝีเย็บกว้างเกินไป การช่วยคลอดศีรษะและไหล่ไม่ถูกต้อง การตัดฝีเย็บเร็วเกินไป
        
        Trombin การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ DIC จากการที่มีรกลอกตัวก่อนกำหนด ทารกตายในครรภ์ ปท้งค้าง ช็อกจากการติดเชื้อ ความดันโลหิตสูงร่วมกับการตั้งครรภ์ โรคเลือด TIP,Aplastic anemia มะเร็งเม็ดเลือดขาว การได้รับยาต้านเกล็ดเลือดHeparin
        
        หากมีการตกเลือดเป็นระยะเวลายาวนาน ผลกระทบต่อมารดา ได้แก่ ภาวะโลหิตจาง อ่อนเพลีย และเพิ่มโอกาสการติดเชื้อ หากมีการตกเลือดรุนแรงอาจเกิดภาวะHypovolumic shockมีผลทำให้เลือดไปเลี้ยงไตลดลง ขับปัสสาวะลดลง และเมื่อขาดนานๆไตอาจล้มเหลวได้ Renal shutdown หากเกิดการช็อกนานๆร่างกายขาดออกซิเจนอวัยวะสำคัญได้แก่ สมอง ทำให้ต่อมAnterior Pituitaryขาดออกซิเจน เสียหน้าที่ส่งผลให้ฮอร์โมนต่างๆลดลง ส่งผลต่อต่อมหมวกไต ต่อมไทรอยด์ และต่อมเพศเกิดกลุ่มอาการ
        
        Sheehan's syndrome คือ การตกเลือดที่ 1000-2000mlร่วมกับความดันโลหิตต่ำ อาการ น้ำนมไม่ไหล เต้านมเล็กลง ไม่มีขนบริเวณอวัยวะเพศ รักแร้ อวัยวะสืบพันธุ์ฝ่อ กระหายน้ำบ่อย ปัสสาวะมาก และไม่มีประจำเดือน การวินิจฉัย MRI brain การรักษา.ให้ฮอร์โมนทดแทน
        
        ผลกระทบต่อทารก อาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอเนื่องจากมารดาเสียเลือดปริมาณมากทำให้สมองส่วนที่ควบคุมการสร้างน้ำนม Anterior pituitary ขาดเลือดไปเลี้ยงกระตุ้นการสร้างน้ำนมไม่เพียงพอต่อทารก