Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Covid-19 ในหญิงตั้งครรภ์, นายสุริยา กงใจเด็ด เลขที่ 126 61101301131, 2…
Covid-19 ในหญิงตั้งครรภ์
-
-
การแพร่เชื้อ
แพร่จากคนสู่คนผ่านทางฝอยละอองจากจมูกหรือปากซึ่งขับออกมาเมื่อผู้ป่วย ไอหรือจาม เรารับเชื้อได้จากการหายใจเอาฝอยละอองเข้าไปจากผู้ป่วย หรือจากการเอามือไปจับพื้นผิวที่มีฝอยละอองเหล่านั้นแล้วมาจับตามใบหน้า
ระยะเวลานับจากการติดเชื้อและการแสดงอาการ (ระยะฟักตัว) มีตั้งแต่1-14 วัน และมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5-6 วัน เกิน 97% ของผู้ป่วยเริ่มมีอาการภายใน 14 วัน
การรักษา
ขณะนี้ยังไม่มียาต้านไวรัสที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้ใช้รักษาโรคโควิด19 แต่มีการทำวิจัยเพื่อพิจารณาว่ามียาตัวใดบ้างที่อาจปรับวัตถุประสงค์การใช้เดิมเพื่อการรักษาโรคโควิด19
องค์การอนามัยโลกกำลังประสานงานความร่วมมือในโครงการขนาดใหญ่ชื่อSolidarity Trial ในหลายประเทศเพื่อประเมินยา/สูตรการรักษา ดังนี้
-
-
-
ปัจจัยเสี่ยง
กลุ่มเสี่ยง
เสี่ยงสูง
ความเสี่ยงต่ออาการรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้นตามอายุและในผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น ความดันโลหิตสูงโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังและโรคมะเร็ง
-
-
-
-
-
ภูมิคุ้มกัน
ระยะสั้น
-
ผู้ป่วยอาจยังแพร่เชื้อได้แม้มีอาการดีขึ้น สิ่งนี้มีนัยสำคัญต่อการควบคุมป้องกันโรคในบริบทสถานพยาบาลและในการจำหน่ายผู้ป่วย ผู้ป่วยบางรายยังคงต้องแยกกักตัวเองต่อที่บ้านหลังจากได้รับการจำหน่ายแล้ว
ระยะยาว
ขณะนี้ ยังไม่หลักฐานเพียงพอเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือระยะเวลาของภูมิคุ้มกันที่สร้างจากสารแอนติบอดี้ที่จะรับประกันความเที่ยงตรงของสิ่งที่เรียกว่า "พาสปอร์ตภูมิคุ้มกัน" หรือ "ใบรับประกันว่าไม่มีความเสี่ยง"
มีข้อกังวลว่า ผู้คนอาจเข้าใจว่าตนเองมีภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อครั้งที่สอง และละเลยการปฏิบัติตามคำแนะนำทางสุขภาพ ซึ่งอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการระบาดต่อเนื่อง
มาตรการการป้องกัน
มาตรการระดับบุคคล
การรักษาสุขอนามัยของมือและมารยาทในการไอ/จามเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำตลอดเวลาและเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะป้องกันตัวเองและผู้อื่น
เมื่อเป็นไปได้ รักษาระยะอย่างน้อย 1 เมตรจากผู้อื่น เนื่องจากผู้ติดเชื้อบางรายอาจยังไม่แสดงอาการหรือมีอาการไม่รุนแรงดังนั้นการเว้นระยะห่างจากทุกคนสำคัญมากหากคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคโควิด19
มาตรการทางสาธารณสุข
การกักกัน คือ การจำกัดกิจกรรมต่างๆ หรือการแยกผู้ที่ไม่ป่วย แต่อาจมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด19 จุดประสงค์คือเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในห้วงเวลาที่คนเริ่มมีอาการ
การแยกกัก หมายถึง การแยกผู้ป่วยที่มีอาการของโรคโควิด 19 และอาจแพร่เชื้อได้ จึงทำเพื่อป้องการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
การเว้นระยะ คือ การอยู่ห่างกันและกัน องค์การอนามัยโลกแนะนำให้เว้นระยะอย่างน้อย 1 เมตรจากผู้อื่น ส่วนนี้เป็นมาตรการทั่วไปที่ทุกคนควรทำถึงแม้ว่าจะแข็งแรงดี
-
-
-
คำแนะนำ
- ให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในสตรีตั้งครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากวัคซีนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อและลดความรุ่นแรงของโรคนอกจากนี้ยังพบภูมิคุ้มกันในเลือดสายสะดือทารกและในน้ำนม
- การฉีดวัคซีนไม่เพิ่มความเสี่ยงของการแท้งบุตรก่อนอายุครรภ์ 14 สัปดาห์ ดังนั้นสตรีตั้งครรภ์สามารถฉีดวัคซีนได้ทุกอายุครรภ์
- การฉีดวัคซีนสามารถให้พร้อมกับวัคซีนอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องฉีดในขณะตั้งครรภ์ได้
- การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ใช้คำแนะนำเช่นเดียวกับคนทั่วไป
-
2.ข้อคิดหรือข้อสังเกตและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้การศึกษาดูงาน
ได้ความรู้เพื่อสานต่อนำความรู้ที่ได้ นำไปใช้ไปเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้รับรู้ข้อมูลการการดูแลตนเองทั้งบุคคลทั่วไปหรือว่ามารดาที่อยู่ระยะตั้งครรภ์ ระยะหลังคลอดให้มีความรู้นำไปใช้เพื่อป้องกันโรคโควิด-19
อ้างอิง
-กลุ่มงานเภสัชกรรม.(2020).สารพันเรื่องยา.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
-พัชรินทร์ เงินทอง.(2021).คำแนะนำในการดูแลสตรีในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอดและ
หลังคลอดระหว่างการแพร่ระบาดโควิด-19: การทบทวนวรรณกรรมแบบกำหนด
ขอบเขตRecommendations for Antenatal, Intrapartum and Postpartum careduring COVID-19 Pandemic: A Scoping Review
-https://www.who.int/docs/default-source/searo/thailand/update-28-covid-19-
what-we-know---june2020---thai.pdf?sfvrsn=724d2ce3_0