Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หลักการออกแบบสื่อเพื่อการเรียนรู้, image, image, image, image - Coggle…
หลักการออกแบบสื่อเพื่อการเรียนรู้
การเสนอเนื้อหา (Present New Information)
เป็นการนำเสนอเนื้อหาโดยใช้ตัวกระตุ้นที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเรียนการสอน รูปแบบการนำเสนอมีหลายลักษณะ ได้แก่ การใช้ข้อความ ภาพนิ่ง กราฟ ตารางข้อมูล กราฟิก ตลอดจนภาพเคลื่อนไหว สิ่งที่จะต้องพิจารณาในการนำเสนอเนื้อหาใหม่ มีดังนี้
ในเนื้อหาที่ยากและซับซ้อนให้เน้นข้อความเป็นสำคัญ
ไม่ควรใช้กราฟิกที่เข้าใจยากหรือไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
ใช้ภาพเคลื่อนไหวในเนื้อหาที่ยาก หรือภาพเปรียบเทียบประกอบเนื้อหา
จัดข้อความให้น่าอ่าน
ใช้ภาพนิ่งประกอบการเสนอเนื้อหา เฉพาะส่วนเนื้อหาที่สำคัญ
การจำและนำไปใช้ (Promote Retention and Transfer)
สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนมีความคงทนในการจำข้อมูลความรู้ โดยการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ประยุกต์ใช้ความรู้ สิ่งที่ควรพิจารณาในการจำและนำไปใช้ มีดังนี้
สรุปให้ผู้เรียนได้ทราบว่าความรู้ใหม่มีความสัมพันธ์กับความรู้เดิมอย่างไร
เสนอแนะเนื้อหาที่เป็นความรู้ใหม่
ทบทวนแนวคิดที่สำคัญ
บอกแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการศึกษาให้กับผู้เรียน
กระตุ้นการตอบสนอง (Elicit Responses)
เมื่อผู้เรียนได้รับการชี้แนวทางการเรียนรู้แล้ว ต้องมีการกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองโดยกิจกรรมต่าง ๆ ปฏิบัติเชิงโต้ตอบ สิ่งที่ต้องพิจารณาในการกระตุ้นการตอบสนอง มีดังนี้
ควรให้ผู้เรียนได้มีโอกาสพิมพ์คำตอบ
ถามคำถามเป็นช่วง ๆ ตามเนื้อหา
พยายามให้ผู้เรียนตอบสนองตลอดการเรียน
ควรมีการเปลี่ยนกิจกรรมอย่างอื่นไม่ซ้ำกัน
บอกวัตถุประสงค์ (Specify Objectives)
เป็นการให้ผู้เรียนได้ทราบถึงเป้าหมายในการเรียน พิจารณาในการบอกวัตถุประสงค์ มีดังนี้
3.ไม่ควรกำหนดวัตถุประสงค์หลายข้อเกินไป
4.ผู้เรียนควรมีโอกาสที่จะทราบว่าหลังจบบทเรียนเขาสามารถนำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง
2.หลีกเลี่ยงคำที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก
5.หากบทเรียนนั้นยังมีบทเรียนย่อย ๆ ควรบอกจุดประสงค์กว้าง ๆ
1.ใช้คำสั้น ๆ
ชี้แนวทางการเรียนรู้ (Guide Learning)
การชี้แนวทางการเรียนรู้ เป็นการใช้ในชั้นเรียนตามปกติ ซึ่งผู้สอนจะยกตัวอย่างหรือตั้งคำถามชี้แนะแบบกว้าง ๆ ให้แคบลง งที่จะต้องพิจารณาในการชี้แนวทางการเรียนรู้ มีดังนี้
แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของสิ่งใหม่กับสิ่งที่ผู้เรียนมีความรู้หรือประสบการณ์มาแล้ว
พยายามให้ตัวอย่างที่แตกต่างกันออกไป
แสดงให้ผู้เรียนได้เห็นถึงความสัมพันธ์ของเนื้อหา
การเสนอเนื้อหาที่ยาก ควรให้เห็นตัวอย่าง
กระตุ้นให้ผู้เรียนคิดถึงความรู้และประสบการณ์เดิม
ทดสอบความรู้ (Access Performance)
เป็นการประเมินผลว่าผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ได้ตามเป้าหมายหรือไม่อย่างไร สิ่งที่ต้องพิจารณาในการออกแบบทดสอบหลังบทเรียน มีดังนี้
ให้ผู้เรียนตอบครั้งเดียวในแต่ละคำถาม
อธิบายให้ผู้เรียนทราบว่าควรจะตอบด้วยวิธีใด
หลีกเลี่ยงการให้พิมพ์คำตอบที่ยาวเกินไป
ควรมีรูปภาพประกอบด้วย
ข้อทดสอบ คำตอบและ Feedback อยู่ในเฟรมเดียวกัน
ต้องแน่ใจว่าสิ่งที่ต้องการวัดนั้นตรงกับวัตถุประสงค์
คำนึงถึงความน่าเชื่อถือของแบบทดสอบด้วย
ทวนความรู้เดิม (Activate Prior Knowledge)
เป็นการทบทวนหรือการเชื่อมโยงระหว่างความรู้เดิม เพื่อเชื่อมกับความรู้ใหม่ ควรจะมีการประเมินความรู้เดิม คือการทดสอบก่อนการเรียน สิ่งที่จะต้องพิจารณาในการทบทวนความรู้เดิม มีดังนี้
ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนออกจากแบบทดสอบหรือเนื้อหาใหม่เพื่อไปทบทวน
หากไม่มีการทดสอบ ควรมีการกระตุ้นให้ผู้เรียนกลับไปทบทวนในสิ่งที่เกี่ยวข้อง
การทดสอบหรือทบทวนควรให้กระชับ
1.ควรมีการทดสอบหรือให้ความรู้เพื่อเป็นการทบทวนให้พร้อมที่จะรับความรู้ใหม่
ให้ข้อมูลย้อนกลับ (Provide Feedback)
หลังจากที่ผู้เรียนได้รับการทดสอบจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ข้อมูลย้อนกลับหรือการให้ผลกลับไปยังผู้เรียนเกี่ยวกับความถูกต้อง การให้ข้อมูลย้อนกลับสามารถแบ่งขั้นตอนได้เป็น 4 ประเภทตามลักษณะที่ปรากฏได้ดังนี้
แบบไม่เคลื่อนไหว
การเสริมแรงด้วยการแสดงคำ
แบบเคลื่อนไหว
การเสริมแรงด้วยการแสดงกราฟิก
แบบโต้ตอบ
การเสริมแรงด้วยการให้ผู้เรียนได้มีกิจกรรมเชิงโต้ตอบกับบทเรียน
แบบทำเครื่องหมาย
การทำเครื่องหมายบนคำตอบของผู้เรียนเมื่อมีการตอบคำถาม
เร้าความสนใจ (Gain Attention)
ลักษณะที่เร้าความสนใจและดึงดูดความสนใจ ผู้ออกแบบจึงต้องกำหนดสิ่งที่จะดึงดูดความสนใจ เพื่อให้เกิดพฤติกรรมและเป้าหมายตามที่ต้องการ ซึ่งควรมีรูปภาพ ภาพเคลื่อนไหวหรือสีสันต่าง ๆ เพื่อให้น่าสนใจ