Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

กรณีศึกษาที่ 3 การพยาบาลมารดาที่มีภาวะตกเลือดหลังคลอด,…

- - - - ตกเลือด
        🤰: estimate blood loss 700 ml
        
        Blood circulation ลดลง
        
        venous return ลดลง
        
        preload ลดลง
        
        Stoke volum ลดลง
        
        low cardiac output
        
        2 more items...
        
        PostpartumHemorrhage
        
        แบ่งตามระยะเวลา
        
        การตกเลือดหลังคลอดในระยะแรก Primary or early postpartum hemorrhage
        หมายถึง การตกเลือดที่เกิดขึ้นตั้งแต่หลังคลอดทันทีจนถึง 24 ชม. หรือการมีเลือดออกหลังคลอดมากกว่า 500 มล.
        
        การตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง Late postpratum hemorrhage
        หมายถึง การตกเลือดในระยะหลัง 24 ชั่วโมงหลังคลอดไปแล้ว
        🤰: เป็นการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
        
        หมายถึง
        มีการเสียเลือดมากกว่าหรือเท่ากับ 500 ml ภายหลังการคลอดทางช่องคลอด
        หรือมากกว่า 1,000 ml ภายหลังการผ่าตัด
        
        หรือเสียเลือด ร้อยละ 1 ของน้ำหนักตัวของมารดา
        
        Hct ลดลงร้อยละ 10
        
        ประเมิน Hct เพิ่มเติม
        
        จะต่ำกว่า 32.4
        
        ระดับความรุนแรง
        
        🤰 ระดับที่ 1 ไม่เป็นอันตรายร่างกายสามารถปรับตัว
        ได้: ปริมาณเลือดออก 500-1,000 มิลลิลิตร
        
        ระดับที่ 2 รุนแรงน้อย : ปริมาณเลือดออก 1,001 - 1,500 มิลลิลิตร
        
        ระดับที่ 3 รุนแรงปานกลาง : ปริมาณเลือดออก
        1,501 - 2,000 มิลลิลิตร
        
        ระดับที่ 4 รุนแรงมาก : ปริมาณเลือดออก 2,001 -
        3,000 มิลลิลิตร
        
        ผลกระทบด้านมารดา
        
        โลหิตจาก จากการเสียส่วนประกอบของเลือด
        
        ติดเชื้อหลังคลอดได้ง่าย จากภูมิต้านทานลดลง
        
        ปัสสาวะลำบากกรณีมีการฉีดขาดของช่องทางคลอด
        
        ไตล้มเหลว
        
        ตัดมดลูก
- - - - การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำในปริมาณมากเกินไป จนทำให้การเจือจางของเลือด Hemodilution การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำมากกว่า 2000 ml หรือเมื่อเกิดภาวะ severe acidosis ก็ส่งผลให้การทำหน้าที่ของปัจจัยการแข็งตัวของเลือดเสียหน้าที่
  - - - 1.Syntocinon(Oxytocin) 1st line drung
        
        การออกฤทธิ์ Oxytocin จับกับ G-protein receptor ที่บริเวณผิวของเซลล์กล้ามเนื้อมดลูก ทำให้เกิดการผลิต diacylglycerol (DAG) และ inositol tri-phosphate (IP3) ผ่านทาง phospholipase C จาก phosphatidyl-inositol bisphosphate ซึ่ง DAG จะกระตุ้นให้เกิดการสร้าง prostaglandin และ IP3 กระตุ้นให้เกิดการหลั่งแคลเซียม oxytocin ยังกระตุ้น cyclooxygenase-2 โดยผ่านทาง G-protein ซึ่งมีผลเพิ่มการสร้าง prostaglandin เพิ่มตัวรับ oxytocin ที่กล้ามเนื้อมดลูกของหญิงตั้งครรภ์ตามอายุ Oxytocin ทำ**ให้เพิ่มความถี่การหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูกโดยตรงและมีผลทำให้กล้ามเนื้อมดลูกไม่คลายตัวสุดในระยะก่อนการคลอดบุตร ทำให้เกิดความเจ็บปวดตามมา
        
        ข้อควรระวัง
        
        water intoxication
        
        สับสน มีอาการหงุดหงิด
        
        ชัก หมดสติ
        
        จำนวนปัสสาวะที่มีมากกว่า 3 ลิตรต่อวัน
        
        (specific gravity of urine) น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1.008
        
        urine osmolarity น้อยกว่า 150 mmol/Kg H2O
        
        แนะนำให้ฉีดเข้าหลอดเลือดดำอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้เกิด Profound hypotension
        
        Occasionally nausea and vomiting
        
        ขนาดและวิธีบริหารยา
        
        Solutions 10 units/mL (1mL amp)
        แผนการรักษา 20 units/2mL จะต้องใช้ 2 amp = 2 mL
      - Methylergometrine (Methergin) 1st line drung
        
        ออกฤทธิ์เพิ่มแรงบีบของมดลูกโดยกระตุ้นกล้ามเนื้อเรียบจึงมีผลทำให้หลอดเลือดหดตัว และหดเกร็งได้
        
        พึงระวังในผู้ที่เป็นโรดหัวใจหรือผู้ที่มีความดันโลหิตสูง เช่น ผู้ที่เป็นความดัน โลหิดสูงร่วมกับการตั้งครรภ์
        
        งดให้ยาในกรณีผู้คลอดที่มีความดันโลหิตมากกว่าหรือเท่ากับ 140/90 mmHg
        
        การดูแลเพิ่มเติม
        
        -ทำการสวนปัสสาวะเพื่อลดการคั่งค้างของปัสสาวะ
        
        -ติดตาม Urine Output
        
        🤰 กรณีศึกษารายนี้ไม่สามารถให้ Methergin เนื่องจากยามีผลทำให้กล้ามเนื้อเรียบหลอดลมหดตัว
        
        ขนาดและวิธีบริหารยา
        
        Solutions 0.2 mg/mL (1mL amp)
      - และการให้สารน้ำอีกเส้น อาจเนื่องจากเนื่องจากยาไม่สามารถให้ผ่านหลอดเลือดดำเส้นเดียวกันกับที่ให้สารน้ำได้เพราะอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาและอาจส่งผลเสียต่อหลอดเลือด
    - - สารน้ำรั่วออกนอกหลอดเลือดดำ (Extravasation)
        
        การพยาบาล
        
        ตรวจสอบบริเวณที่ให้สารน้ำทุก 1 hr
        
        ประเมินอาการปวดแสบ ปวดร้อน บวม แดง การไหลย้อนกลับของเลือด การเกิดแผลบริเวณการให้สารน้ำ
        
        หากพบการรั่วซึม ให้หยุดการให้สารน้ำและยาทันที และดูดยาออกให้มากที่สุดเพื่อช่วยลดปริมาณยาที่รั่วซึม
        
        การประคบเย็น เพื่อให้หลอดเลือดหดตัวเล็กลง ลดการแพร่กระจายของยาไปสู่เนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ
        
        ยกบริเวณแขนสูง ภายใน 48 hr แรก เพื่อลดอาการบวม
      - หลอดเลือดดำอักเสบ (Phlebitis)
        
        การพยาบาล
        
        การประเมิน Phlebitis Scale grade
        0 : ไม่พบอาการ 1: ผิวหนังบริเวณที่แทงเข็มแดง มีอาการปวดหรือไม่มีก็ได้ 2 : ปวดบริเวณที่แทงเข็มผิวหนังแดงอาจบวมหรือไม่ก็ได้ 3 : ปวดบริเวณที่แทงเข็ม ผิวหนังบวม แดงเป็นทาง คลำได้หลอดเลือดแข็งเป็นลำ
        
        หยุดให้สารน้ำหากตรวจพบว่าภาวะของ Phlebitis
        
        การประคบด้วยความอุ่น เพื่อให้หลอดเลือดเกิดการคลายตัว
        
        การเปลี่ยนตำแหน่งที่แทงเข็มใหม่
        
        หลีกเลี่ยงการให้สารน้ำบริเวณตำแหน่งที่มีการอักเสบ
        
        การประเมินอาการปวดที่แทงเข็ม ผิวหนังบวม แดงเป็นทาง คลำหลอดเลือดแข็งเป็นลำความยาวมากกว่า 1 นิ้ว มีหนอง
  - - - อาจจะเกิดการมีเศษรกค้างได้
- - - - วัตถุประสงค์: เพื่อจัดการภาวะตกเลือดหลังคลอด
        
        อุปกรณ์: ฟองน้ำขนาดเล็ก
        
        เกณฑ์: การตกเลือดหลังคลอดซึ่งกำหนดโดยองค์การอนามัยโลกว่าเป็นการสูญเสียเลือด 500 มล. หรือมากกว่าภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด
        
        ผลการศึกษา: ฟองน้ำสามารถใส่และถอดออกได้อย่างง่ายดาย โดยอุปกรณ์จะถูกใส่อย่างรวดเร็วในตำแหน่งของมดลูกที่ถูกต้องโดยไม่ต้องใช้การอัลตราซาวนด์ อุปกรณ์ฟองน้ำขนาดเล็กสามารถหยุดเลือดไหลภายในไม่กี่วินาที โดยไม่ต้องบีบอัดจากภายนอก เนื่องจากฟองน้ำไม่มีรูปร่างตายตัวจึงสอดคล้องกับลักษณะเฉพาะ รูปร่างของบาดแผลหรือโพรงมดลูก ภายหลังการสอดใส่ ฟองน้ำขนาดเล็กจะดูดซับเลือดอย่างรวดเร็วเเละ ขยายตัวจากนั้นออกแรงกดออกด้านนอกได้นานถึง 24 ชั่วโมง และสามารถหยุดเลือดได้ทันที
        
        การประยุกต์ใช้
        
        จากงานวิจัยสามารถนำมาประยุกต์ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ ให้สอดคล้องกับการพยาบาล โดยการวางเเผนประสานงานร่วมกับทีมเเพทย์เพื่อลดปัญหาการตกเลือดมารดาหลังคลอด
        
        จัดทำสื่อ วิดีโอ เเผ่นภาพ เป็นการกระจายข้อมูลให้ความรู้เกี่ยวอุปกรณ์ ขั้นตอนการทำ ผลดีผลเสียการรักษา เเละสร้างความไว้วางใจ เพื่อลดปัญหาการตกเลือดเเละลดความวิตกกังวล
- - - - ไม่ทราบข้อมูลการใช้ยาเพื่อควบคุมโรคหอบหืด