Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
:red_flag:ทฤษฎีการพยาบาลผู้สูงอายุ และการเปลี่ยนแปลงในผู้สูงอายุ :red_flag…
:red_flag:
ทฤษฎีการพยาบาลผู้สูงอายุ และการเปลี่ยนแปลงในผู้สูงอายุ
:red_flag:
:star:
ทฤษฎีความสูงอายุ
:star:
ทฤษฎีทางชีวภาพ(Biological Theories)
ทฤษฎีอนุมูลอิสระ (Free radical Theory)
เกิดจากการได้รับกระตุ้นจากความร้อน แสง และรังสี
เมื่อมีอนุมูลอิสระจะเข้าทําลายโปรตีน เอ็นไซด์และ DNA
ส่งผลให้อวัยวะมีความเสื่อมลง ร่างกายทําหน้าที่ลดลง
ทฤษฎีจํากัดพลังงาน
เชื่อว่าการจำกัดพลังงานในอาหารที่รับประทานจะช่วยชะลอกระบวนการเผาผลาญในร่างกายให้ช้าลงโดยเฉพาะไขมัน
ทฤษฎีสะสม (Accumulation Theory)
ทฤษฏีนี้เกิดจากสารไลโปฟัสซิน (Lipofuscin) สารนี้เป็นผลผลิตของการเผาผลาญไขมันไม่อิ่มตัว
เชื่อว่าสารไลโปฟัสซินมีผลเสียต่อร่างกายจะมีผลต่อการกระจายและการขนส่งสารที่จําเป็นในร่างกาย
ทฤษฎีการเชื่อมตามขวาง (Cross - Linking Theory)หรือทฤษฎีคอลลาเจน (Collagen Theory )
ทฤษฏีเชื่อว่าความสูงอายุว่าเมื่อมีอายุมากขึ้นโปรตีนบางตัวจะเปลี่ยนแปลงลักษณะไขว้ขวางกันและอาจจะขัดขวางกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย
พบเมื่ออายุมากขึ้น เมื่อเยื้อเยื่อคอลลาเจนมีการเปลี่ยนแปลงทำให้มีลักษณะแข็ง แตกแห้ง สูญเสียความยืดหยุ่ย มีความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวร่างกายลดลง เนื้อเยื่อสูญเสียตวามยืดหบุ่น เป็นผลให้เกิดความเสื่อมของอวัยวะ
ทฤษฎีความเสื่อมโทรม (Wear and tear theory)
เมื่ออายุมากขึ้น จึงเกิดการตายของเซลล์ เนื้อเยื่อ อวัยวะและระบบต่างๆ ในร่างกายจะทํางานเสื่อมลง เช่น หลอดเลือด ข้อเข่า
ทฤษฎีระบบประสาท/ต่อมไร้ท่อและภูมิคุ้มกัน
(Neuroendocrine-Immunologic Theory)
ความสูงอายุเป็นผลร่วมกันของการเปลี่ยนแปลงระบบประสาท/ต่อมไร้ท้่อและระบบภูมิคุ้มกันที่ทําหน้าที่ลดลง หรือแตกต่างจากเดิม
ทฤษฎีพันธุกรรม (Genetic Theory)
เชื่อว่าความสูงอายุถูกควบคุมด้วยพันธุกรรม อายุขัยของมนุษย์ถูกโปรแกรมก่อนเกิดกําหนดไว้โดยเริ่มจากยีนใน DNAถ่ายทอดลักษณะ ตารางๆ ให้ลูกหลาน ทฤษฎีนี้เชื่อว่ามนุษย์สามารถคาดอายุขัยได้
ทฤษฎีความสูงอายุเชิงจิตสังคม (Phychosocial theory)
ทฤษฎีการถดถอย (Disengagement Theory)
เชื่อว่าความสูงอายุเป็น
กระบวนการถดถอยออกจากการดําเนินชีวิตในสังคมเมื่อมีปฏิสัมพันธ์ลดลง
ทฤษฎีการมีกิจกรรม (Activity theory)
ส่งเสริมการทํากิจกรรมต่อไป ไม่ยอมรับการเป็นผู้สูงอายุเร็วเกินไป
ทฤษฎีความต่อเนื่อง (Continuity Theory)
ผู้สูงอายุจะมีความสุขในการทํากิจกรรมต่างๆได้ขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพและแบบแผนการดําเนินชีวิตที่มีมาในอดีตที่แต่ละคนเคยปฏิบัติมาก่อน
ควรมีการส่งเสริมให้
ผู้สูงอายุมีการตัดสินใจที่จะเลือก
การประเมินพฤติกรรมในอดีตของผู้สูงอายุ จึงเป็นประโยชน์ในกาวจุบันและอนาคต
แนวคิดพัฒนกิจชีวิตของอิริคสัน
แนวคิดที่สําคัญ : การเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาพจิตดี อยู่บนพื้นฐานของการประสบความสําเร็จในการเผชิญพันธะกิจในแต่ละขั้นตอนของชีวิต ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุยอมรับการเปลี่ยนแปลง
ทฤษฎีของเพค (Peck, Concept)
เกี่ยวกับการสร้างความรู้สึกมีศักดิ์ศรีในตนเองว่าผู้สูงอายุควรสรางความรู้สึกพึงพอใจในตนเองในฐาน
:star:
การเปลี่ยนแปลงในผู้สูงอายุ
:star:
ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงร่างกายผู้สูงอายุ
ปัจจัยภายใน
กรรมพันธุ์
สุขภาพอนามัย
การมองโลก ประสบการณ์ชีวิต
ความเชื่อ
ปัจจัยภายนอก
การศึกษา
เศรษฐกิจ
สิ่งแวดล้อม
การเกษียณงาน
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย
ระบบผิวหนัง (Integumentary System)
ผิวหนังบางลง
เซลล์ผิวหนังมีจํานวนลดลง
คอลลาเจนใหญ่และแข็งตัวมากขึ้น ทําให้ความยืดหยุ่นของผิวหนังไม่ดี
ผิวหนังเหี่ยวและมีรอยย่นมากขึ้น สามารถมองเห็นปุ่มกระดูกชัดเจนขึ้น ประกอบกับการไหลเวียนที่ผิวหนังลดลง ผู้สูงอายุจึงเกิดแผลกดทับได้ง่ายและทนต่อความเย็นได้น้อยลง
ต่อมไขมันทํางาน ลดลงทําให้ผิวหนังแห้งคันและแตกง่าย
ระบบประสาท
ขนาดของสมอง น้ำหนักสมอง
จำนวนเซลล์สมอง เซลล์ประสาทลดลง
ประสิทธิภาพการทํางานของสมองน้อยลง ปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งต่างๆลดลง การเคลื่อนไหวและความคิดเชื่องช้า
การมองเห็น
ลูกตามีขนาดเล็กลงและลึกเพราะไขมันของลูกตาลดลง
รูม่านตาเล็กลง ปฏิกิริยาตอบสนองของม่านตาต่อแสงลดลง
การปรับตัวสําหรับการมองเห็นในสถานที่ต่างๆไม่ดี โดยเฉพาะในสถานที่มืดหรือในเวลากลางคืน
แก้วตาแข็ง ยืดหยุ่นลดลง และเริ่มขุ่นมัวมีสีเหลืองมากขึ้น
ทําให้ความสามารถเทียบสีลดลง
ผู้สูงอายุสามารถแยกสีแดง สีส้มและสีเหลือง ได้ดีกว่าสีน้ําเงิน สีม่วง และเขียว
ปัญหาการได้ยินลดลง หูตึง(Presbycusis)
สาเหตุมาจากมีการเสื่อมของorgan of Corti และbasilar membrane ร่วมกับเส้นประสาทคู่ที่ 8 เยื่อแก้วหูและอวัยวะในหูชั้นกลางแข็งตัวมากขึ้น ทําให้มีความบกพร่องการได้ยินระดับเสียงสูงมากกว่าระดับเสียงต่ํา
การดมกลิ่นไม่ดี
มีการเสื่อมของเยื่อบุโพรงจมูกการรับรสของลิ้นเสียไป ต่อมรับรสทำหน้าที่ลดลง ทำให้ผู้สูงอายุเกิดภาวะเบื่ออาหาร
กล้ามเนื้อกล่องเสียงและสายเสียงบางลง
แคลเซียมที่สลายออกจากกระดูก
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
ขนาดของหัวใจอาจโตขึ้น
ลิ้นหัวใจแข็งแล้วหนาขึ้น
กล้ามเนื้อหัวใจมีแคลเซียมมาเกาะมากขึ้น
ทำให้เกิดรอยฟกช้ำได้ง่าย
ระบบภูมิคุ้มกันทํางานลดลง
ทําให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
ระบบทางเดินหายใจ(Respiratory System)
ผู้สูงอายุจะมีความยืดหยุ่นของเนื้อปอดลดลง
จํานวนถุงลมปอดลด ผนังถุงลมแตกง่ายเกิดถุงลมโป่งพองได้ง่าย
ระบบทางเดินอาหาร(Digestive System)
ฟันสึกกร่อน เคลือบฟันบางลง ฟันเปราะ บิ่นง่าย ฟันผุ หลุดล่วงง่าย ต่อมน้ําลายเสื่อมหน้าที่ทําให้การย่อยแป้งและน้ํำตาลในปากลดลง
ปากและลิ้นแห้งมีการติดเชื้อในปากมากขึ้น
เซลล์บริเวณหลอดอาหารมีการเปลี่ยนแปลงมีการยื่นโป่งพองของ
หลอดอาหารทําให้การเคลื่อนไหวของหลอดอาหารลดลง
บางครั้งมีการสูดสําลักเข้าสู่หลอดลมทําให้เกิดโรคปอดบวมได้
การดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียมลดลงเนื่องจากการผลิตน้ำย่อยกรดเกลือลดลง ผู้สูงอายุจึงเกิดโรคกระดูกผุและโรคโลหิตจางได้ง่าย
ระบบทางเดินปัสสาวะ และระบบสืบพันธุ์(Genitourinary System)
ไต ขับของเสียออกจากร่างกายได้ลดลง
ปริมาณเลือดที่เข้าสู่ไตลดลง
ความเสื่อมหน้าที่ของไตโดยเฉพาะ
ความสามารถในการควบคุมความเข้มข้นของปัสสาวะผู้สูงอายุจึงมีความเสี่ยง
ต่อภาวะขาดน้ำ ปัสสาวะบ่อย
ผู้ชาย
ปัสสาวะขัด
ลําปัสสาวะไม่พุ่งเนื่องจากต่อมลูกหมากโต
ผู้หญิง
กลั้นปัสสาวะไม่อยู่เป็นครั้งคราวเพราะกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อน
ระบบต่อมไร้ท่อ(Endocrine System)
ต่อมธัยรอยด์มีเนื้อเยื่อพังผืดมาสะสมมากขึ้น
ผู้สูงอายุจะเกิดภาวะhypothyroidism
ตับอ่อนหลั่งinsulinลดลงและช้า
ต่อมเพศทํางานลดลง
:star:
ปัญหา สาเหตุ และการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการชะลอความเสื่อมในผู้สูงอายุ
:star:
อุบัติเหตุ แผลบริเวณผิวหนัง
ภายในบ้านควรมีราวยึดเกาะโดยเฉพาะห้องน้ำเปลี่ยนท่าเดินช้าๆ ไม่รีบร้อน
การติดเชื้อในทางเดินหายใจและการสําลัก ถุงลมโป่งพอง หายใจลําบากเหนื่อยง่าย
รับประทานอาหารช้า ๆ หลีกเลี่ยงการพูดขณะรับประทานอาหาร
กระดูกเปราะและหักง่าย ปวดข้อ
รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง ออกกลังกายในสถานที่ที่มีแสงแดดอ่อน ๆอย่างสม่ําเสมอ
เบาหวาน
ควบคุมอาหาร รับประทานอาหารแป้งและน้ำตาลลดลง
กล้ามเนื้อหัวใจตาย หัวใจวาย ความดันโลหิตสูง สมองขาดเลือด
ออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงความเครียดต่างๆ งดสูบบุหรี่และดื่มสุรา
ท้องผูก
ห้ามกลั้นอุจจาระ หลีกเลี่ยงความเครียดต่าง ๆ
ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ถ่ายปัสสาวะลําบาก และถ่ายบ่อย
บริหารกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานและกล้ามเนื้อหูรูดโดยการขมิบก้นบ่อย ๆ
ความไม่สมดุลของน้ำในร่างกาย
ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อากาศร้อนเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ําออกจากร่างกาย
นางสาวอมรทิพย์ มีสีผ่อง ชั้นปี 2 รุ่น 38 63111301108