Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่ 2 ศัลยกรรมชาย 2 - Coggle Diagram
กรณีศึกษาที่ 2 ศัลยกรรมชาย 2
ชายไทย อายุ 58 ปี
CC : มาตามนัดเรื่อง CA rectosigmoid
PI : CA rectosigmoid
Diagnosis : CA rectosigmoid
การรักษาที่ได้รับ
(01-09-66) S/P colonoscope
เป็นการตรวจเยื่อบุลำไส้ใหญ่
โดยใช้กล้องส่องลำไส้ใหญ่ เรียกว่า colonoscope ที่มีลักษณะเป็นท่อขนาดความยาว 180 cm. ใส่ผ่านทางทวารหนักเข้าไปในลำไส้ใหญ่
เพื่อตรวจหาความผิดปกติของเยื่อบุผนังลำไส้ด้านใน ตั้งแต่ลำไส้ใหญ่ส่วนปลายบริเวณทวารหนักไปจนถึงลำไส้ใหญ่ส่วนต้น และตัดชิ้นเนื้อออกมาตรวจ
การเตรียมตัวก่อนตรวจการตรวจลำไส้ใหญ่
1.สอบถามประวัติแพ้ยากับผู้รับบริการ ประวัติการทานยา เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาละลายลิ่มเลือด ยาต้านเกล็ดเลือดแข็งตัว เป็นต้น
ปฏิบัติตามคำแนะนำในการเตรียมการใช้ยาระบาย เพื่อให้การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ทำได้อย่างปลอดภัย และสามารถทำการวินิจฉัยโรคได้ชัดเจน
หลังจากการกินยาระบาย ให้ NPO จนกว่าจะทำการตรวจเสร็จ
ให้ญาติมาด้วยในวันนัดตรวจ เพื่อฝากของมีค่าในระหว่างรับการตรวจ และรอรับผู้ป่วยกลับภายหลังการตรวจ
ในกรณีที่แพทย์ต้องใช้ยาระงับความรู้สึก เพื่อให้ผู้ป่วยผ่อนคลายขณะตรวจ ผู้ป่วยอาจจะมีอาการง่วงเป็นระยะเวลาหนึ่งภายหลังการตรวจ จำเป็นต้องมีญาติมาด้วยเพื่อนำผู้ป่วยกลับบ้าน ไม่อนุญาตให้ผู้ป่วยขับรถเองเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
ขั้นตอนการส่องตรวจ
เมื่อผู้ป่วยหรือผู้รับการตรวจมาถึง ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ทางโรงพยาบาลจัดเตรียมให้ ถอดแว่นตา นาฬิกา คอนเทคเลนส์ ฟันปลอมและของมีค่าฝากญาติไว้
ผู้ป่วยลงนามในใบยินยอมรับการตรวจรักษาด้วยการส่องกล้องตรวจรับทราบความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการตรวจหรือรักษา
ผู้ป่วยจะได้รับสารละลายทางหลอดเลือด
ผู้ป่วยจะได้รับการจัดท่าให้นอนตะแคงซ้าย สะโพกชิดขอบเตียง งอเข่าทั้งสองข้างชิดอก
แพทย์จะฉีดยาระงับความรู้สึกเข้าทางหลอดเลือดดำ เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลายและง่วง จากนั้นแพทย์จะทำการสอดใส่กล้องส่องตรวจ เมื่อพบสิ่งผิดปกติ แพทย์จะตัดชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิวิทยา ขณะตรวจผู้ป่วยอาจรู้สึกอยากถ่ายอุจจาระหรือแน่นอึดอัดท้อง เนื่องจากแพทย์เป่าลมให้ลำไส้ขยาย เพื่อให้การส่องกล้องตรวจเห็นได้ชัดเจน และแพทย์จะดูดลมออกหลังจากส่องตรวจเสร็จ
ระยะเวลาในการส่องกล้องตรวจประมาณ 20-45 นาที หลังจากนั้นผู้ป่วยจะได้รับการดูแลในห้องพักฟื้น และแพทย์จะแจ้งผลของการส่องกล้องให้กับผู้ป่วยหรือญาติต่อไป
การปฏิบัติตัวของผู้ป่วยหลังการตรวจ
ผู้ป่วยนอนพักประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อสังเกตอาการภายหลังจากการได้รับยาระงับความรู้สึกระหว่างการตรวจ และเพื่อสังเกตว่ามีภาวะแทรกซ้อนหรือไม่ เมื่อผู้ป่วยรู้สึกตัวดีแล้วก็สามารถดื่มน้ำ หรือรับประทานอาหารและให้ญาติรับกลับบ้าน ไม่อนุญาตให้ผู้ป่วยขับยานพาหนะเอง
ภายหลังส่องกล้อง ผู้ป่วยอาจมีอาการแน่น อึดอัดท้อง เจ็บบริเวณท้องน้อยหรือทวารหนัก อาการเหล่านี้จะค่อยๆทุเลาลงและหายไปเมื่อได้เรอหรือผายลมแล้ว
ผู้ป่วยอาจจะมีเลือดปนอุจจาระออกมาเล็กน้อยได้ ถ้ามีเลือดออกมามากผิดปกติให้พบแพทย์โดยด่วน
หลังการตรวจหากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องมาก ท้องแข็ง มีไข้สูง ให้รีบมาพบแพทย์ทันที
ผู้ป่วยไม่ควรทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร การขับขี่ยานพาหนะ หรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับการทำนิติกรรมภายใน 24 ชั่วโมงหลังตรวจ เนื่องจากยาระงับความรู้สึกอาจจะมีผลต่อการตัดสินใจและอาจจะมีปฏิกิริยาต่างๆ ต่อร่างกายได้
(27-01-66) RT ครบและ colonoscope
RT : Radiotherapy (การฉายรังสี)
การรักษาด้วยรังสีรักษาหลังผ่าตัดในผู้ป่วย Colon Carcinoma ประโยชน์ที่ได้ยังไม่ชัดเจน ที่มีประโยชน์คือในผู้ป่วย Rectal Carcinoma หลังการผ่าตัดก้อนที่พบว่ามีการแพร่กระจายของมะเร็งไปสู่
ต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียง
การจัดท่าของผู้ป่วยในการฉายรังสีก็มีส่วนสำคัญมาก เช่น ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วน ascending หรือ descending ถ้าให้ผู้ป่วยนอนตะแคงข้างซ้ายหรือข้างขวาในขณะฉายรังสี
ช่วยทำให้ลำไส้เล็กเคลื่อนตัวออกนอกบริเวณฉายรังสีได้มาก
1 more item...
(15-09-66) S/P loop transverse colostomy
นำส่วนขวางของลำไส้ใหญ่มาเปิดเป็นสโตมา จะอยู่กึ่งกลางเยื้องมาทางขวาของหน้าท้องส่วนบน สโตมาชนิดนี้จะมี 2 รูเปิด รูที่มีอุจจาระออกเรียกว่า proximal loop ส่วนอีกรูหนึ่งเป็น distal loop รูนี้จะไม่มีอุจจาระออกแต่จะขับเมือก (mucous) ออก ส่วนใหญ่สโตมาชนิดนี้จะเป็นการเปิดแบบชั่วคราว อุจจาระที่ออกค่อนข้างเหลว (Mushy stool) ยังมีฤทธิ์ความเป็นด่างอยู่ กลิ่นอุจจาระแรงมาก
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยผ่าตัดเปิดลำไส้ทางหน้าท้อง
หลังผ่าตัดประมาณ 7-10 วัน แผลที่บริเวณ stoma ก็จะแห้งสนิท และระบบขับถ่ายอุจจาระก็จะเข้าสู่ภาวะปกติเช่นกัน ผู้ป่วยจึงสามารถประกอบกิจวัตรประจำวันได้ตามเหมือนเดิม
สามารถออกกำลังกายได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงกีฬาที่หักโหมรุนแรง และ ไม่ควรยกของหนักเพราะอาจเป็นสาเหตุการเกิดไส้เลื่อนได้
รับประทานอาหารได้ทุกประเภท ยกเว้นบางโรคที่ต้องควบคุมการรับประทานอาหาร เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน โรคตับ โรคไต ความดันโลหิตสูง
ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สและกลิ่น เช่น ถั่ว สะตอ ชะอม น้ำอัดลม เบียร์ เป็นต้น แต่ผลิตภัณท์บางชนิดมีตัวช่วยเก็บกลิ่นด้วย
ควรดื่มน้ำอย่างน้อย วันละ 6–8 แก้ว หลีกเลี่ยงปัญหาท้องผูก
การมีเลือดออกเล็กน้อยไม่ต้องตกใจ เพราะอาจเกิดจากการทำความสะอาดที่บ่อยหรือแรงเกินไป
การผ่าตัดไม่ได้ลดความต้องการทางเพศแต่อย่างใด ขึ้นกับการแสดงออกและความเข้าใจซึ่งกันและกัน
พยาธิสภาพ
เนื่องจากอุจจาระที่มาถึงบริเวณส่วนปลายของลำไส้ใหญ่จะมีลักษณะค่อนข้างแข็งตัว และเส้นผ่าศูนย์กลางของลำไส้ใหญ่บริเวณนี้มีขนาดเล็กกว่าส่วนต้น
ทำให้อาจพบอาการต่าง ๆ หลายชนิด ประกอบด้วยอาการถ่ายเป็นเลือด (Hematochezia)
ปวดเบ่ง (Tenesmus) อุจจาระมีลักษณะเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กลง (Narrowing in the Caliber of Stool)
การผ่าตัด
ระยะที่เป็นเฉพาะที่ การผ่าตัดเป็นวิธีการรักษาที่สำคัญที่สุด สามารถทำให้ผู้ป่วยหายขาดจากโรคได้
เมื่อมีภาวะแทรกซ้อน เช่น การอุดตัน การแตกหรือเลือดออกจากก้อนมะเร็ง อาจพิจารณาทำการผ่าตัดเพื่อรักษาภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว
ระยะแพร่กระจาย ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่บางรายแม้จะเป็นระยะแพร่กระจายแล้ว ถ้ามีรอยโรคของการแพร่กระจายเพียงตำแหน่งเดียว (Isolated Metastasis) เช่น รอยโรคที่ตับหรือปอด อาจพิจารณาทำผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกที่แพร่กระจาย (Metastatectomy) นั้นออก39,40
แรกรับน้ำหนัก 84 Kg ส่วนสูง 170 Cm BMI. 29 kg/m2 PR 95 ครั้ง/นาที RR 20 ครั้ง/นาที BP 155/98 mmHg
Hypertension : ความดันโลหิตสูง
ความหมาย
ค่าความดันตัวบน/ระดับความดันขณะหัวใจบีบตัว >= 140 mmHg
ค่าความดันตัวล่าง/ความดันขณะหัวใจคลายตัว >=90 mmHg
อาการ
อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายนอนไม่หลับ ใจสั่น ปวดศีรษะ
พยาธิสภาพ
หลอดเลือดบีบตัวมากขึ้นและขนาดของหลอดเลือดใหญ่ขึ้น
ทำให้เพิ่ม strok volum และ heart rate
หลอดเลือดหนาตัว แข็งตัว ไม่ยืดหยุ่น หลอดเลือดบีบตัวมากขึ้น ทำให้ Cadiac output เพิ่มขึ้น
ทำให้ความต้านทานของหลอดเลือดสูงขึ้น
เมื่อ Cardiac output และ TPR สูงขึ้นมีผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
1 more item...
U/D โรคประจำตัว
เบาหวาน : Diabetes
Beta cell ตับอ่อน มีการสร้างและหลั่งอินซูลินน้อยลง เกิดภาวะดื้ออินซูลิน
น้ำตาลในกระแสเลือดสูง
แบ่งเป็น micro vascular คือ หลอดเลือดฝอย
ออกซิเจนจับกับน้ำตาล
ออกซิเจนออกสู่เซลล์ไม่ได้ ร่างกายขาดออกซิเจน
หลอดเลือดขยายตัว
1 more item...
ผนังหลอดเลือดแข็งและหนาตัวทำให้หลอดเลือดตีบแคบ
ส่งผลต่อ
สมอง : ภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว
หัวใจ : เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ดี กล้ามเนื้อหัวใจตาย
หลอดเลือดส่วนปลาย : ปวด ชา บางครั้งไม่รู้สึก
มีแผลไม่รู้สึกตัว นำไปสู่การติดเชื้อ
ความเข้มข้นของเลือดสูง
หัวใจบีบตัวมากขึ้น
เกิด Hypertension : ความดันโลหิตสูง
ยาที่ได้รับ
Paracetamol : บรรเทาอาการปวด
Tolperisone : คลายกล้ามเนื้อ
Ceftriaxone : ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
Mitronidazole : ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
Omeprazole : ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร
NPH : สารที่ทำให้อินซูลินออกฤทธิ์นานขึ้น
Mophine : บรรเทาอาการปวด
Nicardipine : ยาลดความดันโลหิต
RI : ลดระดับน้ำตาลในเลือด
Plasil : ยาแก้อาเจียนคลื่นไส้ อาเจียน
สรุปปัญหาทางการพยาบาล
ไม่สุขสบายปวดเจ็บเนื่องจากมีพยาธิสภาพที่หน้าท้อง
มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดในสมองเนื่องจากผู้รับบริการมีโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
มีภาวะโรคอ้วนเนื่องจากมี BMI เกินมาตรฐาน
เสี่ยงเกิด CA rectosigmoid ซ้ำเนื่องจากมีเคยมีประวัติตรวจพบมาก่อน
แบบแผนสุขภาพพื้นฐาน
ประวัติการผ่าตัด : 1 ครั้ง colostomy เมื่อวันที่ 15-09-66
ประวัติการใช้ยาประจำ : ยา DM
การรับวัคซีน : โควิด 3 เข็ม
อาหาร : พื้นบ้าน รับประทานของดิบเป็นบางครั้ง จำนวน 3 มื้อ/วัน ตรงเวลา
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์/สูบบุหรี่ : ไม่ดื่ม ไม่สูบบุหรี่
น้ำหนักในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา : เพิ่มขึ้น
การปัสสาวะ : 4 ครั้ง/วัน
การอุจจาระ : ไม่มีท้องผูก ขับถ่ายทุกวัน
การทำกิจวัตรประจำวัน : สามารถทำได้เองทั้งหมด ทรงตัวได้ ไม่มี-ประวัติการล้ม ออกกำลังกายไม่สม่ำเสมอ
การนอนหลับ : นอนหลับเป็นเวลาในตอนกลางคืน
สติปัญญา : จบมัธยมศึกษา ความจำ การรับรู้ การได้ยิน การมองเห็นเป็นปกติ
บุคลิกภาพ : ใจร้อน
อาชีพ : เกษตรกร
ความเครียด/ภาวะซึมเศ้รา : ไม่พบสิ่งผิดปกติ