Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ตัดสินใจ Making Better Decisions, โมเดลไหนไม่ต้องวิจิตสวยงามมาก …
ตัดสินใจ
Making Better Decisions
Decision Making Models
1.ทฤษฎี TDODAR ส่วนใหญ่จะใช้ในอุตสาหกรรมการบิน ที่มีทางเลือกไม่มาก และเวลาจำกัด
D : Diagnosis (วินิจฉัย)
การวินิจฉัย วิเคราะห์ ตีแผ่ปัญหา เราจะไม่สามารถและไม่ควรที่จะเลือกคำตอบหรือทางเลือกออกมาโดยที่เรา ถ้าเรายังไม่เข้าใจปัญหาจริงๆ
O : Options (ตัวเลือก)
เราควรมีการชั่งน้ำหนัก ระหว่าง (Pros)ข้อดี ,(Cons)ข้อด้อย ซึ่งเราจะต้องนำทางเลือกในแต่ละข้อมาเลือก ว่ามีข้อดีข้อด้อยของแต่ละข้ออย่างไรบ้าง โดยที่ควรจะกำหนดเวลา หรืไม่ควรเกิน 5 นาที
A : Assign (ลงมือทำ)
ดำเนินการลงมือทำตามตัวเลือกที่เรากำหนด
R : Review (ทบทวน)
มีการทบทวนผลลัพท์จากตัวเลือกที่เราเลือก ผลที่ออกมาเป็นอย่างไร ดูว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ คล้ายๆกับ P:Plan, D:Do, C:Chack, A:Action in a way
D : Decide (ตัดสินใจ)
เลือกตัวเลือกที่เราติดสินใจว่าเป็นตัวเลือกที่ดี
มีประโยชน์ที่จะไม่ทำให้เราก้าวเข้าไปในหลุมพราง ที่ทำให้เราไม่กล้าที่จะตัดสินใจได้ Decision paralysis เนื่องจากมีตังเลือกมากเกินไป ไม่รู้จะเปรียบเทียบกับอะไร จึงทำให้เรามีแนวโน้มที่จะเลื่อนการตัดสินใจ ซึ่งในสถานะการณ์นั้นเราไม่มีเวลามากขนาดนั้น
T : Time (เวลา)
เราต้องตัดสินใจในกรอบเวลาที่จำกัด และต้องตัดสินใจให้เหมาะสมกับเวลาที่จำกัด เพราะมันมีผลกระทบกับผลลัพท์
2.ทฤษฎี cabnertego matrix ใช้ในสถานะการณ์ที่ต้องตัดสินใจ และมีข้อมูลที่เยาะแยะมากมายหลากหลายรูปแบบ ที่ต้องทำการวิเคราะห์ ซึ่งทฤษฎีนี้ มาช่วยในการวิเคราะห์มาประเมินประมวลความเสี่ยงของตัวเลือกที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งทำให้เราสามารถตัดสินใจ โดยไม่ใช้ อคติ และสามารถมองความเสี่ยงแบบครอบคลุม เป็นอะไรที่ไม่เร่งรีบจนเกินไป
2.เป็นการวิเคราะห์ในตัวปัญหา ตีกรอบ ทำให้เห็นภาพที่ชัดเจน ต้นเหตุมันอยู่ตรงไหน และเป้าหมายที่เราจะไปให้ถึง
3.การตัดสินใจวิเคราะห์ทางเลือกที่ให้เหมาะสม โดยมองจากมิติของความเสี่ยง แต่ละทางเลือกเราวิเคราะห์มีโอกาสอะไร ที่จะทำให้ความเสี่ยงของตัวเลือกน้อยที่สุด
1.เราต้องประเมินสถานะการณ์ก่อน ลำดับความสำคัญ ข้อกังวล ที่มี
4.ถ้าเราเลือกทางเลือกแล้ว ถ้าเราลงมือทำอะไรที่จะเป็นปัญหา ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนั้น จะสร้างปัญหาอะไรได้บ้าง เพื่อเตรียมรับมือหากมันเกิดขึ้นจะได้แก้ไขได้ทัน
Facts :ข้อเท็จจริง, Opiniens : ข้อคิดเห็น
หลายๆครั้งในการตัดสินใจต่างๆ Opiniens มักจะมีบทบบาทมากๆ ความแตกต่างระหว่าง Facts :ข้อเท็จจริง, Opiniens : ข้อคิดเห็น
Facts :ข้อเท็จจริง
เป็นข้อมูลข้อความ ที่สามารถตรวจสอบได้ ต้องยืนยันได้ มีหลักฐานมาพิสูจได้
1.Empirical facts
เป็นข้อเท็จจริงที่
ผ่านการสังเกตุ
สามารถตรวจสอบหรือยืนยันได้ ผ่านการที่เราเห็น วัดผลได้ ประเมินได้ ความจริงเชิงประจักษ์
2.History facts
เป็นข้อเท็จจริงเชิงประวัติศาสตร์ ซึ่งจะมองเป็นหมวดเดียวกันกับ Empirical facts แต่เราไม่สามารถสังเกตุเห็นได้ในตอนนี้เดี๋ยวนี้ เพราะ
มันเป็นอดีตที่เกิดขึ้นไปแล้ว
ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องมีการบันทึกไว้ให้เราสามารถเห็นหรือพิสูจได้
3.Analytical facts
เป็นข้อเท็จจริงที่
เกิดจากกฎอันใดอันหนึ่งเข้ามาประกอบ เพื่ออ้างอิงและพิสูจตามหลักการ
ต่างๆ
4.Evaluative facts
เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกพิสูจน์หรือยืนยัน
อ้างอิงกับมาตรฐานที่มันเป็นค่ากลาง
Opjective standart
Opiniens : ข้อคิดเห็น
โมเดลไหนไม่ต้องวิจิตสวยงามมาก
เริ่มต้นที่ทฤษฎีไหนก่อนก็ได้
ให้เหมาะสมกับปัญหา