Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ละครที่พัฒนาขึ้นใหม่, ละครวิทยุ, ละครเวที, ละคนพูดแบบร้อยกรอง, image,…
ละครที่พัฒนาขึ้นใหม่
ละครพูด
ละครพูดเริ่มขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการแสดงละครพูดสมัครเล่นเป็นครั้งแรก เนื้อเรื่องละครพูดที่แสดงในสมัยนี้ ดัดแปลงมาจากบทละครรำที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย
ละครพูดล้วนๆ
วิธีการแสดง
การแสดงจะดำเนินเรื่องด้วยวิธีพูดใช้ท่าทางแบบสามัญชนประกอบ การพูดที่เป็นธรรมชาติ ลักษณะพิเศษของละครชนิดนี้คือ ในขณะที่ตัวละครคิดอะไรอยู่ในใจ มักจะใช้วิธีป้องปากพูดกับผู้ดุ ถึงแม้จะมีตัวละครอื่นๆ อยู่ใกล้ๆ ก็สมมติว่าไม่ได้ยิน
-
-
เรื่องที่แสดง
เรื่องที่แสดงเรื่องแรก คือ เรือง"โพงพาง" เมื่อ พ.ศ. 2463 เรื่องต่อมาคือ "เจ้าข้าสารวัด" ทั้งสองเรื่อง เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
-
-
-
ละครพูดสลับลำ
-
เรื่องที่แสดง
เรื่องชิงนาง และปล่อยแก่ ซึ่งเป็นของนายบัว ทองอิน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์บทร้องแทรก โดยใช้พระนามแฝงว่า "ศรีอยุธยา" และทรงแสดงเป็นหลวงเกียรติคุณ เมื่อ พ.ศ. 2449
-
-
วิธีการแสดง
ยึดถือบทพูดมีความสำคัญในการดำเนินเรื่องแต่เพียงอย่างเดียว บทร้องเป็นเพียงสอดแทรกเพื่อเสริมความ ย้ำความ
-
-
-
-
ความหมายของละคร
-
ฝ่ายชายเรียกว่าตัวพระ เพราะสมัยโบราณแสดงแต่เรื่องจักร ๆ วงศ์ ๆ เป็นเรื่องของกษัตริย์ มีชื่อว่าพระต่าง ๆ เช่น พระอนิรุทธิ์ พระไชยเชษฐ์ พระอภัยมณี
ฝ่ายหญิงเรียกว่า ตัวนาง เพราะในเรื่องที่แสดงมักชื่อว่านางต่าง ๆ เช่น นางสีดา นางบุษบา นางทิพย์เกสร
ยังไม่มีการแบ่งเป็นนางสาวและนางที่มีสามีแล้ว
-
-
-
-
-
ละครเพลง
เป็นละครของเอกชนที่เกิดขึ้นภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ ละครที่มีชื่อเสียงนี้ คือ
ละครจันทโรภาส เป็นละครของนายจวงจันทน์
จันทร์คณา (พรานบูรณ์) สิ่งหนึ่งที่พรานบูรณ์ทำเป็นหลัก คือ ปรับปรุงจากเพลงไทยเดิมที่มีทำนองเอื้อน มาเป็นเพลงไทยสากลที่ไม่มีทำนองเอื้อน นับเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนแปลงเพลงไทยเดิมมากทีเดียว
-
-
เพลงร้อง
จะเป็นเพลงที่ประพันธ์ขึ้นใหม่ โดยประยุกต์จากเพลงไทยเดิมมาเป็นเพลงไทยสากลตามจังหวะและทำนอง ที่ผู้ประพันธ์กำหนดขึ้นให้กับผู้แสดงได้ขับร้องในระหว่างแสดง
-
วิธีการแสดง
การแสดงจะดำเนินเรื่องด้วยบทเพลงที่ปรับปรุงขึ้นใหม่จากเพลงไทยเดิมเป็นเพลงไทยสากล ใช้ท่าทางที่เป็นธรรมชาติประกอบบทร้อง
ผู้แสดง
จะใช้ผู้แสดงที่เป็นทั้งผู้ชายและผู้หญิง แสดงจริงตามบทบาทในเรื่อง โดยผู้แสดงจะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถในการร้องเพลงเป็นอย่างดี
-
-
-
ละครสังคีต
-
เรื่องที่เเสดง
นิยมแสดงบทพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มี 4 เรื่อง เช่น เรื่องหนามยอกเอาหนามบ่ง ทรงเรียกว่า "ละครสลับลำ"
-
-
การเเสดง
มุ่งหมายที่ความไพเราะของเพลง ตัวละครจะต้องร้องเองคล้ายกับละครร้อง แต่ต่างกันที่ละครร้องดำเนินเรื่องด้วยบทร้อง การพูดเป็นเจรจาทวนบท ส่วนละครสังคีตมุ่งบทร้องและบทพูดเป็นหลักสำคัญในการดำเนินเรื่อง
-
-
-
-
-
ละครร้อง
เเบ่งเป็นสองประเภท
1.ละครร้องสลับพูด
ละครร้องสลับพูด ใช้ผู้หญิงแสดงล้วน ยกเว้นตัวตลกหรือจำอวดที่เรียกว่า "ตลกตามพระ" ซึ่งใช้ผู้ชายแสดง มีบทเป็นผู้ช่วยพระเอกแสดงบทตลกขบขันจริงๆ เพื่อให้เกิดความสนุกสนาน
-
-
การเเสดง
ละครร้องสลับพูด มีทั้งบทร้อง และบทพูด ยึดถือการร้องเป็นส่วนสำคัญ บทพูดเจรจาสอดแทรกเข้ามาเพื่อทวนบทที่ตัวละครร้องออกมาส่วนละครร้องล้วนๆ ตัวละครขับร้องโต้ตอบกัน และเล่าเรื่องเป็นทำนองแทนการพูด ดำเนินเรื่องด้วยการร้องเพลงล้วนๆ
ดนตรี
ละครร้องสลับพูด บรรเลงด้วยวงปี่พาทย์ไม้นวมหรืออาจใช้วงมโหรีประกอบ
ละครร้องล้วนๆ บรรเลงด้วยวงปี่พาทย์ไม้นวม
เพลงร้อง
ละครร้องสลับพูด ใช้เพลงชั้นเดียวหรือเพลง ๒ ชั้น ในขณะที่ตัวละครร้องใช้ซออู้คลอตามเบาๆ เรียกว่า "ร้องคลอ"
-
ละครร้องกำเนิดขึ้นในตอนปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ละครร้อง ได้ปรับปรุงขึ้นดดยได้รับอิทธิพลจากละครต่างประเทศ ละครร้องนั้นต้นกำเนิด มาจากจากแสดงของชาวมลายู เรียกว่า “บังสาวัน” (Malay Opera) ได้เคยเล่นถวายรัชกาลที่ 5 ทอดพระเนตรครั้งแรกที่เมืองไทรบุรี
-
-
-
ละครอิงประวติศาสตร์
ละครอิงประวัติศาสตร์ เป็นละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ ดำเนินเรื่องในช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ ให้ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส มีเนื้อหาละครในช่วงยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นละครที่ได้รับความนิยมสูงสุดนับตั้งแตประเทศไทยเข้าสู่ยุคทีวีดิจิตอลเมื่อปี 2558 ละครที่มีเรื่องราวในช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา ช่วงการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ได้แก่ละครเรื่อง สายโลหิต และ ฟ้าใหม่ ละครเรื่อง รัตนโกสินทร์ ย้อนยุคไปในสมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 3 เรื่อง ข้าบดินทร์ มีเนื้อเรื่องเกิดขึ้นสมัยรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ละครที่เล่าเรื่องราวในช่วงรัชกาลที่ 5 ยุคที่ประเทศชาติบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลง และประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำหลายอย่าง เช่น บ่วงบาป, นางทาส, ลูกทาส, สี่แผ่นดิน, ร่มฉัตร และ ทวิภพ
-
-
-
ละครโทรทัศน์
-
-
รูปแบบรายการโทรทัศน์ประเภทบันเทิงของไทย ละครโทรทัศน์ไทยเรื่องแรกคือ สุริยานีไม่ยอมแต่งงาน ออกอากาศทางช่อง 4 บางขุนพรหม
ประเภท
-
ละครสั้นแบบMini series
ป็นละครที่ผลิตเป็นเรื่องยาว มีความยาวตั้งแต่ต้นจนจบมากกว่า 3 ชั่วโมง จึงจำเป็นต้องแบ่งออกอากาศมากกว่า 1 ครั้ง มักมีความยาว 2-8 ตอน
-
-
ละครประเภทพิเศษ
เล่นในวาระโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น วันแม่ วันที่ระลึกของหน่วยงานต่าง ๆ ละครการกุศล มีลักษณะตอนเดียวจบ มักใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
-
-
ศิลปินผู้ทรงคุณค่า
ละครพูด
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่6ทรงพระราชนิพนธ์บทละครพูดเป็นจำนวนมาก ทั้งบทละครที่ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นมาใหม่ และบทพระราชนิพนธ์ที่ทรงแปลหรือแปลงงานจากต้นฉบับภาษาต่างประเทศ งานนิพนธ์ประเภทละครของพระองค์ได้รับอิทธิพลจากงานประพันธ์ของกวีต่างชาติหลายคน วัตถุประสงค์ในการพระราชนิพน์บทละครพูด นอกจากจะใช้สำหรับเล่นละครและใช้อ่านเพื่อความเพลิดเพลินแล้ว หน้าที่สำคัญของงานบทละครพูดที่ทรงพระราชนิพนธ์คือ การถ่ายทอดแนวพระราชดำริของพระองค์ผ่านตัวละคร เพื่อสื่อสารต่อผู้อ่านหรือผู้ชม บทละครพูดที่แต่งขึ้นสามารถให้วาทกรรมเสียดสี วิพากษ์สังคมขณะนั้น, โน้มน้าวใจประชาชนให้คล้อยตาม รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์ตามพระราชประสงค์
-
ละครร้อง
ละครร้องสลับลำ
พระบรมวงค์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ เป็นผู้พระนิพนธ์บท และกำกับการแสดง เรื่องที่แสดงได้แก่ ตุ๊กตายอดรัก ขวดแก้วเจียระไน เครือณรงค์ กากี
ละครร้องล้วน ๆ เรื่องที่แสดง คือ เรื่องสาวิตรี
-
ละครร้องล้วนๆ
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงดัดแปลงละครของชาวตะวันตกจากละครอุปรากรที่เรียกว่า "โอเปอเรติก ลิเบรตโต" มาเป็นละครในภาษาไทย และได้รับความนิยมอีกแบบหนึ่ง
-
-
ละครสังคีต
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นผู้แต่งบทละครพระราชนิพนธ์มี 4 เรื่องคือ มิกาโด วัง่ตี่ หนามยอกเอาหนามบ่งและวิวาหพระสมุท สองเรื่องแรกคือมิกาโดและวั่งตี่ ทรงแปลงมาจากบทละครเรื่องมิกาโดของ เซอร์ กิลเบิร์ต หลังจากที่ทรงพระราชนิพนธ์แล้วไม่มีประวัติการจัดแสดง ส่วนหนามยอกเอาหนามบ่งและวิวาหพระสมุท ทรงคิดเรื่องและพระราชนิพนธ์ด้วยพระองค์เอง มีการจัดแสดงหลายครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิวาหพระสมุท มีการจัดแสดงเสมอจนสิ้นรัชกาล
ละครเพลง และ ละครเวที
นายจวงจันทน์ จันทร์คณา (พรานบูรณ์)นักแต่งเพลงไทย เป็นคนแรกผู้ปฏิรูปรูปแบบเพลงไทยประกอบละครร้อง จากท่วงทำนองเพลงไทยเดิมที่มีลูกเอื้อนให้มีลักษณะสากลยิ่งขึ้น อาจกล่าวว่า พรานบูรพ์คือผู้ริเริ่มเพลงไทยสากลก็ได้ มีผลงานสร้างชื่อเสียงคือ ละครร้องเรื่อง "จันทร์เจ้าขา" และ "โรสิตา" สำหรับละครเพลงในประเทศไทยในยุคแรก เป็นละครที่ถูกจัดโดยภาคเอกชน ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 โดยละครเพลงที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น คือ ‘คณะจันทโรภาส’ อันเป็นละครของนายจวงจันทน์ จันทร์คณา ซึ่งสิ่งหนึ่งที่พรานบูรณ์นำมาใช้ในละครของเขาจนเกิดความเป็นเอกลักษณ์ขึ้นมา คือ ปรับปรุงเพลงไทยเดิมซึ่งมีทำนองลูกเอื้อน เข้ามาเป็นเพลงไทยสากลอันปราศจากทำนองเอื้อน จัดเป็นเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญ และเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพลงไทยเดิมเป็นอย่างมาก
-
-
-
-
ละครวิทยุ
ละครวิทยุ เป็นการแสดงละครโดยใช้เสียงอย่างเดียว เมื่อไม่มีภาพ จึงต้องขึ้นอยู่กับบทสนทนาโต้ตอบ ดนตรีและเอฟเฟ็กซ์เสียงเพื่อช่วยให้ผู้ฟังจินตนาการถึงตัวละครและนิยายออก ละครวิทยุอาจเป็นละครที่เขียนขึ้นเพื่อออกอากาศทางวิทยุโดยเฉพาะ ละครสารคดี งานบันเทิงคดีที่สร้างเป็นละคร หรือละครที่เดิมเขียนขึ้นเป็นละครเวที
เป็นการนำการแสดงที่มีอยู่มาออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียง ดังนั้นลักษณะของบทละครวิทยุจึงแตกต่างจากบทละครทั่วไป ผู้ประพันธ์จะต้องหาวิธีสร้างจินตนาการให้แก่ผู้ฟัง ให้สามารถเข้าใจและนึกถึงภาพความเป็นไปของเรื่องได้ นับตั้งแต่บุคลิกลักษณะ กิริยาท่าทาง อุปนิสัยใจคอของตัวละคร อารมณ์และความรู้สึกต่างๆ จะต้องแสดงออกทางคำพูดของตัวละคร ใส่ความรู้สึกทางคำพูด การเจรจาบทต้องใส่อารมณ์เป็นพิเศษ เพราะผู้ฟังมองไม่เห็นภาพตัวละคร จึงไม่สามารถสังเกตกิริยาท่าทางและสีหน้าของตัวละครได้
ตัวละครสำหรับบทละครวิทยุต้องมีตัวสำคัญประมาณ 3-4 ตัวและต้องเลือกผู้แสดงที่มีเสียงแตกต่างกันมากๆ มิฉะนั้นผู้ฟังจะแยกเสียงไม่ออกว่าเป็นบทของตัวละครตัวไหน
เสียงประกอบ ได้แก่ ดนตรี เสียงสัตว์ เสียงคลื่นลมตามธรรมชาติ เสียงประกอบบทอื่นๆ เช่น เสียงชกต่อย ทะเลาะวิวาทกัน เสียงฟันดาบ ม้าวิ่ง เสียงปืน ฯลฯ
-
-
-
นักเขียนบทละครชาวโรมัน " เซเนกาถูกอ้างว่าเป็นผู้บุกเบิกละครวิทยุเพราะบทละครของเขาแสดงโดยผู้อ่านเป็นบทละครไม่ใช่นักแสดงเป็นละครเวที แต่ในแง่นี้เซเนกาไม่มีผู้สืบทอดที่สำคัญจนกระทั่งเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 20 ทำให้แพร่หลาย การเผยแพร่ละครเสียง”
-
-
-
ละครเวที
-
-
คาดกันว่าละครเวทีมีมาตั้งแต่สมัยกรีก อริสโตเติลบันทึกไว้ว่าละครของกรีก เริ่มต้นขึ้นจากการกล่าวคำบูชาเทพเจ้าไดโอนีซุส เทพเจ้าแห่งไวน์และความอุดมสมบูรณ์
-
องค์ประกอบของละครเวที คือ การแสดงสดบนเวที ที่มีฉาก แสง เสียง ประกอบ และบทละคร คือ ส่วนที่สำคัญที่สุดในการทำละครทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งละครเวที เพราะมันคือ ตัวกำหนดองค์ประกอบอื่น ๆ ทุกอย่างในละคร ไม่ว่าจะเป็น โครงของเรื่องของนักแสดงด้วย
-
-
-
-
ละคนพูดแบบร้อยกรอง
-
-
-
ผู้ที่แสดง
ใช้ผู้แสดงทั้งชายและหญิง มีบุคคลิกและการแสดงเหมาะสมตามลักษณะที่บ่งไว้ในบทละคร น้ำเสียงแจ่มใสชัดเจนดี เสียงกังวาน พูดฉะฉาน ไหวพริบดี
เรื่องที่แสดง
ละครพูดคำกลอน เช่น เรื่องเวนิสวาณิช ละครพูดคำฉันท์ ได้แก่ เรื่องมัทนะพาธา ละครพูดคำโคลง ได้แก่ เรื่องสี่นาฬิกา ของอัจฉราพรรณ(อาจารย์มนตรี ตราโมท) ประพันธ์เมือปี พ.ศ. 2469
-
-
-
-
-
-
-
-