Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หลักการเเละเทคนิคการพยาบาลดูเเลเเบบองค์รวม - Coggle Diagram
หลักการเเละเทคนิคการพยาบาลดูเเลเเบบองค์รวม
การนวดหลัง (Back rub)
Flicking การใช้หลังนิ้วกลาง นาง ก้อยทั้งสองมือเคาะบริเวณหลังเบาๆ โดยกระดกข้อมือทําซ้ำประมาณ 10 ครั้ง
Beating การกํามือหลวมๆทุบเบาๆ เร็วๆ สลับขึ้นลงบริเวณสะโพก
ก้น และขา ทําซ้ำประมาณ 10 ครั้ง
Clapping การใช้อุ้งมือตบเบาๆโดยห่อมือให้ปลายนิ้วชิดกันทั้งสองข้างให้เกิดช่องว่าง ตรงกลางฝ่ามือ ตบเบาๆสลับมือกันโดยกระดกข้อมือขึ้นลงให้ทั่วบริเวณหลัง ทําซ้ำประมาณ 10 ครั้ง
vibration การนวดเเบบสั่นสะเทือน
ใช้นิ้วชี้ เเละนิ้วกลางกดเเละสั่นมือเพื่อให้เกิดการสั่นสะเทือน
Knead/Pettrissage การบีบนวดกล้ามเนื0อ
Hacking การใช้สันมือสับเบาๆ ใช้สันมือด้านนิ้วก้อยสับสลับกันเร็วๆโดยการกระดกข้อมือ สับขวางตามใยกล้ามเนื้อบริเวณสะโพก ก้น และขา ทําซ้ำประมาณ 10 ครั้ง
Stroking การลูบตามแนวยาว ใชฝ่ามือทั้งสองข้างวางบริเวณก้นกบ ค่อยๆลูบขึ้นตามแนวกระดูกสันหลังจนถึงต้นคอ ลูบตามแนวยาวกล้ามเนื้อไหล่ ( Trapezius ) กล้ามเนื้อสีข้าง ( Latissimus dorsi ) ทั้งสองข้าง ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อและการหมุนเวียนโลหิตให้ดีขึ้น
การดูเเลสุขวิทยาส่วนบุคคลทุกวัย (Personal Hygiene)
Bed shampoo
หลักการสระผมบนเตียง
1.ระหว่างสระผมสังเกตอาการเปลี่ยนเเปลง เช่น กระสับกระส่าย หายใจเหนื่อย ให้ล้างผมเเละหยุดทันที
2.หากใช้น้ำอุ่น ต้องทดสอบความเหมาะสมโดยใช้หลังมือ
3.ระมัดระวังน้ำเเละยาสระผมไหลเข้าหูเข้าตา
4.ดูเเลร่างกายให้อบอุ่น เช็ดผมให้เเห้ง
ความหมาย การที่บุคคลมีร่างกายสะอาด เเต่งกายเรียบร้อยเเละสามารถดูเเลรักษาความสะอาดของร่างกายได้ด้วยตนเอง ตลอดจนสภาพเเวดล้อมให้สะอาดปราศจากสิงที่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย
Mouth care
การดูเเลความสะอาดในช่องปากเเละฟัน ควรพบทันตเเพทย์ 3-6 เดือน
กรณีผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ทําได้บ่อยครั้งอย่างน้อยทุก 4 ชั่วโมง
1.จัดท่านอนตะเเคง Oropharyngeal airway ช่วยอ้าปาก ทําความสะอาดปากเเละฟันให้สะอาด
2.สกปรกมากให้ใช้กระบอกฉีดยา ฉีดน้ำยาทําความสะอาด
3.หลังทําความสะอาดเสร็จจัดท่าให้ผู้ป่วยเเละทาริมฝีปากด้วยน้ำมันมะกอกหรือกลีเซอลีนบอเเรกซ์
การดูเเลความสะอาดผิวหนัง (Skin care)
การเช็ดตัวผู้รับบริการบนเตียง
การเช็ดตัวบนเตียงสมบูรณ์ (Complete bed bath) ทําในกรณีที่ผู้รับบริการไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ่ หรือเมื่อการรักษาของเเพทย์ต้องการให้ผู้ใช้บริการพักผ่อนบนเตียงอย่างสมบูรณ์ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง ควรเช็ดตัวก่อนอาหาร ก่อนนอน ถ้าหลังอาหาร ควรห่างอย่างน้อย 20 นาที 2. การช่วยเหลือผู้รับบริการในการเช็ดตัวบางส่วนบนเตียง (Partial bed bath)
หลักการอาบน้ำบนเตียง
1.ไม่เปิดเผยร่างกายผู้ป่วย คลุมผ้าให้ผู้ป่วยขณะอาบน้ำเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น
2.พูดคุยกับผู้ป่วยขณะอาบน้ำเเละสังเกตความผิดปกติของผิวหนัง
3.เอาไม้กั้นเตียงขึ้นทุกครั้งเมื่อพยาบาลไม่อยู๋ที่เตียงผู้ป่วย
4.ผู้ป่วยอยู่ในท่าสบาย เเละถูกต้องตามหลักการทรงตัว
5.ถอดเสื้อผ้าด้านไกลตัวก่อนหรือเเขนด้านที่ไม่มีสารน้ำ/บาดเเผลเมื่อใส่ให้ใส่ด้านไกลตัวหรือด้านที่มีสารน้ำก่อน/บากเเผล
6.ควรใช้ผ้า 2 ผืน ผืนเเรกสําหรับรองใต้ส่วนต่างๆ ผืนที่2ใช้ซับน้ำให้เเห้ง
7.เเยกผ้าถูตัวที่ฟอกสบู่กับผ้าถูตัวที่ใช้เช็ดสบู่ออก
8.ซักผ้าถูตัวที่ใชฟอกสบู่ทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำ
การดูเเลความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์
หลักการ
1.ไม่เปิดเผยผู้ป่วย จัดสถานที่ให้มิดชิด
2.เช็ดให้เเห้งจากบนลงล่าง ไม่ย้อนไปมา
3.สําลีที่เช็ดเเล้วไม่ทิ้งลงในหม้อนอน เพื่อป้องกันการอุดตันของชกโครก
4.ผู้หญิงมีหลักการเช็ดคือ สําลีที 1 เชดจากหัวเหน่าด้านซ้ายไปขวา สําลีที่ 2 เช็ดเเคมนอกด้านไกลตัวจากบนลงล่างถึงทวารหนัก สําลีที่ 3 เช็ดเเคมนอกด้านใกล้ตัวจากบนลงล่างถึงทวารหนัก สําลีที่ 4 เช็ดเเคมในด้านไกลตัวเช่นเดียวกับก้อนที่ 2 สําลีที่ 5 เช็ดเเคมในด้านใกล้ตัวเช่นเดียวกับก้อนที่ 3 สําลีที่ 6 เช็ดตรงกลางจากบนลงล่างถึงทวารหนัก
5.ผู้ชาย รูดหนังหุ้มปลายองคชาตลง เเละเช็ดเป็นวงกลมจาก urethral orifice ลงมา เเละรูดหนังหุ้มปลายขึ้นปิด เช็ด Scrotum จากด้านไกลตัวจากบนลงล่างถึงทวารหนัก
หลักการดูเเลด้านความปลอดภัย
องคฺ์การอนามัยโลก ได้ประกาศความปลอดภัย 9 ประเด็น ได้เเก่
1.การใช้ยาที่มีชื่อเเละลักษณะคล้ายกัน
2.การระบุตัวผู้ป่วย (Patient identification)
3.การสื่อสารระหว่างการส่งต่อการดูเเลผู้ป่วย
4.การปฏิบัติหัตถการที่มีความถูกต้องในตําเเหน่งที่ถูกต้อง
5.การควบคุมดูเเลการให้สารน้ำ
6.การดูเเลความเเม่นยําของการให้ยาในระยะเปลี่ยนผ่านการดูเเล
7.การดูเเลเฝ้าระวังผู้ป่วยที่ใส่ท่อชวยหายใจเเละใส่สายต่างๆ ่
8.การฉีดยา
9.การล้างมือเพื่อป้องกันการติดเชื้อเเพร่กระจายเชื้อ
การบําบัดด้วยความร้อนเเละความเย็น
ความร้อนสามารถนํามาใช้ในการรักษาได้ เช่น เมื่อมีความเจ็บปวดเกิดขึ้นที่ส่วนหนึ่งของร่างกาย เราก็มักใช้กระเป๋าน้ำร้อน ใส่น้ำร้อนที่ร้อนจัด พันทับด้วยผ้า เพื่อให้ความร้อนค่อยๆ คลายออกมา แล้ววางลงบนบริเวณที่เจ็บปวด หรืออาจประคบ โดยการใชผ้ามัดเป็นลูกประคบ จุ่มลงในน้ำร้อนที่ร้อนพอทนได้ ประคบลงบนบริเวณนั้น เมื่อความร้อนเข้าสู่ร่างกาย ไปยังบริเวณที่เจ็บปวด ความร้อนจะทําให้บริเวณนั้นร้อนขึ้น ความร้อนจะทําให้ความรู้สึกเจ็บปวดลดลง ขณะเดียวกัน ทําให้หลอดเลือดขยายตัว เป็นผลให้มีเลือดไปหล่อเลี้ยงบริเวณนั้นมากขึ้น ทําให้หายรวดเร็วยิงขึ้นด้วย ถ้าเกิดการฟกช้ำขึ้นใหม่ๆ ไม่ควรใช้ความร้อนในการรักษา เพราะจะทําให้เกิดการบวมและเจ็บปวดมากขึ้น ควรใช้ความเย็นประคบก่อน โดยใช้ลูกประคบจุ่มน้ำเย็นจัด หรือใช้ผ้าห่อก้อนน้ำแข็งประคบลงบนบริเวณฟกช้ำ
ความเย็นจะมีผลให้อาการเจ็บปวด ที่บริเวณนั้นลดลง หลอดเลือดจะหดตัว ทําให้อาการบวมยุบลงอย่างรวดเร็ว ถ้ามีตกเลือดในบริเวณที่ฟกช้ำ ก็จะทําให้เลือดหยุดได้ หลังจากการใช้ความเย็นรักษาแล้ว ๑ ถึง ๒ วัน จึงจะใช้ความร้อนในการรักษาต่อไป
การทําเตียงเเละสิ่งเเวดล้อม (Unit care)
Ether bed เตียงสําหรับรอรับผู้ป่วยที่ดมยาสลบ ต้องเตรียมสิ่งของเพิ่มเติม ได้เเก่ ผ้าเช็ดตัว ผ้ายาง ผ้าขวางเตียง ชามรูปไต ไม้กดลิ้น เทอร์โมมิเตอร์หูฟัง เป็นต้น
Open bed เตียงที่ยังมีผู้ป่วยครองเตียงอยู่ เเต่ผู้ป่วยไม่ได้นอนอยู่ที่เตียง เช่น นั่งข้างๆเตียงๆ ไปห้องน้ำ เมื่อทําเสร็จไม่ต้องคลุมผ้า
Closed bed or Anesthetic bed เตียงว่าง เป็นเตียงที่ไม่มีผู้ป่วยครองเตียงเป็นการทําเตียงภายหลังจากการที่ผู้ป่วยกลับบ้าน ย้าย หรือถึงเเก่กรรม อาจคลุมด้วยผ้าคลุมเตียง เพื่อรักษาที่นอนให้สะอาด
Occupied bed เตียงที่มีผู้ป่วยอยู่บนเตียง
ไม่สามารถลุกออกจากเตียงได้ขณะทําเตียง
การผูกยึด (Restraint)
ข้อบ่งชี้ ใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะสับสน เพ้อ วุ่นวาย เอะอะ ต่อสู้ทําร้าย เพื่อที่จะสามารถทําการวินิจฉัยเเละการรักษาได้ เพื่อป้องกันอันตรายเเก่ผู้ป่วยเเละคนรอบข้าง
เทคนิคการผูกยึด
1.ห้ามผู้ยึดเเขนขาที่มีเเผลเปิด กระดูกหัก หรือมีการติดเชื้อ
2.ระวังการเกิด ischemia ในผู้ป่วย peripheral vascular disease
3.หลีกเลี่ยงการัดบริเวณหน้าอก ในผู้ป่วย pulmonary
4.อุปกรณ์ต้องไม่ก่อให้เกิดอันตราย นิ่ม สะดวกใช้งาน
5.ผูกยึกให้เเน่น เก็บสายให้เรียบร้อย ควรผูกปลายเตียง
6.ไม่ควรผูกเงื่อนที่ยิ่งดิ้นยิ่งเเน่น