Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ…
อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์
ผู้ก่อตั้งบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน)
นักธุรกิจหนุ่มที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี ผู้ก่อตั้งบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผลิตสาหร่ายทะเลทอดกรอบ และขนมขบเคี้ยวภายใต้ตราสินค้า ‘เถ้าแก่น้อย’ ต๊อบสามารถพลิกชีวิตจากเด็กติดเกมกลายเป็นเศรษฐีร้อยล้านในวัยไม่ถึง 30 ปี ได้ด้วยความมุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง เรื่องราวชีวิตของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้คนได้อีกมหาศาล กระทั่งถูกนำไปสร้างเป็นหนังดังเรื่อง ‘ท็อป ซีเคร็ต วัยรุ่นพันล้าน’
นักธุรกิจหนุ่มที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี ผู้ก่อตั้งบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน)
นักลงทุนในธุรกิจ Tech Startups
“เมื่อ 10 ปีก่อนที่ผมเริ่มธุรกิจสาหร่าย ผมไม่มีความรู้ในสิ่งที่ทำเลย ไม่มีคอนเน็คชั่น และไม่มีเงิน ความยากของผมคือการไม่มีทุกอย่างในวันนั้น แต่โชคดีก็อยู่ที่ผมไม่มีทุกอย่างในวันนั้นเหมือนกัน สิ่งที่ผมมีอย่างเดียวคือ passion ที่ทำให้ผมค่อยๆ หาความรู้และลงมือทำ” อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ “เบอร์หนึ่ง” เจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์สาหร่ายในไทย เริ่มบทสนทนากับ Forbes Thailand
สมัยวัยรุ่นเขาชอบเล่นเกมมาก ถึงขั้นที่เคยมีรายได้จากการเล่นเกมออนไลน์สูงสุดเดือนละ 4 แสนบาท แต่เมื่อเกมส์ออนไลน์เสื่อมความนิยม ประกอบกับอยู่ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ส่งผลกระทบต่อครอบครัวที่ต้องติดหนี้กว่า 40 ล้านบาท อิทธิพัทธ์ จึงคิดหาวิธีสร้างรายได้ นั่นคือการขาย เกาลัด ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาชอบรับประทาน ธุรกิจไปได้ดีจนสามารถขยายได้กว่า 30 สาขา แต่ต่อมาศูนย์การค้าที่เขาเช่าพื้นที่ไม่อนุญาตให้คั่วเกาลัด ทำให้ยอดขายตกลงครึ่งหนึ่ง เป็นที่มาของการนำ สาหร่าย มาวางขาย และสร้างรายได้แซงหน้าเกาลัด
ในที่สุด อิทธิพัทธ์ จึงตัดสินใจลุยธุรกิจสาหร่ายเต็มตัว เขาพัฒนาผลิตภัณฑ์สาหร่ายให้มีรสชาติถูกปาก สามารถเก็บได้นานขึ้น และทำบรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม พร้อมตั้งชื่อแบรนด์ว่า เถ้าแก่น้อย จากนั้นก็เสนอสินค้าเข้าไปที่ 7-Eleven เมื่อร้านค้าปลีกยักษ์ใหญ่ตอบตกลง เขาจึงนำเงินที่ได้จากการขายร้านเกาลัดไปสร้างโรงงานเล็กๆ มีญาติพี่น้องมาร่วมแรงร่วมใจผลิตสินค้าให้ทันวางขาย
รู้จักตัวเองให้เร็วที่สุด
ตั้งเป้าหมายว่าทำอะไร เพื่อใคร
คิดแล้วทำทันที ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
ตั้งคำถาม แล้วหาคำตอบ
กล้าลอง กล้าทำ เผชิญกับปัญหา ไม่กลัวอุปสรรค
วิเคราะห์ปัญหา ค้นหา ทดลอง อย่ายอมแพ้
รู้จักเจรจาต่อรอง มีไหวพริบ
คว้าโอกาส แม้มีเพียงเล็กน้อย
ทำงานด้วยควาสุข เพราะทำให้เกิดความสำเร็จต่อเนื่อง และยั่งยืน
Mark Elliot Zuckerberg
ผู้ก่อตั้ง Facebook เจ้าพ่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค
ผู้ร่วมลงทุนกับนายปีเตอร์ ธีล ก่อตั้งบริษัท PayPal จำกัด
เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่ให้บริการชำระเงินและโอนเงินผ่าน
ทางอินเตอร์เน็ต
ปี ค.ศ. 2004 ผู้ก่อตั้งกิจการเว็บไซต์เครือข่ายสังคม หรือโซเชียลเน็ตเวิร์คชื่อว่า Facebook
ผู้ก่อตั้งบริษัท เวนเจอร์ แคปปิตอล จำกัด
มาร์คมีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่วัยเด็ก
ช่วงประถมปลาย อายุสิบขวบต้น ๆ เขาสามารถเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้
มาร์คเริ่มใช้ทักษะการเขียนโปรแกรมนี้ให้กับคุณพ่อของเขาไปใช้ในคลินิกทันตกรรม โดยสร้างโปรแกรมแชทชื่อว่า ZuckNet ทำให้พนักงานภายในคลินิกสามารถ แชทสื่อสารกันได้แทนการตะโกนบอกกัน
ช่วงมัธยมต้น เขาสามารถเขียนเกมขึ้นมาเล่นเอง มาร์คกับเพื่อนร่วมห้อง เขียนโปรแกรมชื่อว่า Synapse ระบุความชอบของแต่ละคนเพื่อเลือกเพลงที่น่าจะเหมาะกับแต่ละคน มันสามารถทำงานได้ดี จนบริษัท Winamp, Microsoft และบริษัทอื่น ๆ อีกมากมาย เข้ามาเสนอเงินให้จำนวนกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ กว่า 60 ล้านบาท ด้วยความอินดี้ เขาก็ปฏิเสธไป
ปัจจุบันมีคนกว่าพันล้านทั่วโลกใช้ Facebook เพื่อติดต่อสื่อสาร และโปรโมทสินค้าผ่านการลงโฆษณา Facebook ได้พัฒนารูปแบบให้ผู้คนทั่วโลก สามารถใช้งานในโลกออนไลน์ที่ผู้ใช้งานสามารถแสดงความเห็น แสดงตัวตนและสามารถเข้ากลุ่มถึงผู้ที่มีความสนใจด้านเดียวกัน โดยวัตถุประสงค์หลักที่ สร้าง Facebook คือ "เชื่อมต่อผู้คนถึงกัน"
แนวคิดที่ทำให้ Mark ประสบความสำเร็จ จนกลายเป็นเจ้าแห่ง Social media
1.มีความฝันที่ยิ่งใหญ่และทะเยอทะยานเพื่อความสำเร็จ แม้ความฝันของมาร์คนั้น มาจากจุดเล็กๆที่เพียงแค่ต้องการเชื่อมต่อผู้คนถึงกันภายในมหาวิทยาลัย ก็เปลี่ยนสู่ความต้องการเชื่อมต่อโลกถึงกัน แน่นอนว่าเขาเคยล้มเหลวมาก่อนแต่ด้วย ความทะเยอทะยานของเขา ส่งผลให้เขาทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้สำเร็จได้
2.ต้องหลงใหลในสิ่งที่ทำสุดๆ เขาแทบจะใช้เวลาทั้งหมด หมกมุ่นอยู่คอมพิวเตอร์และ หนังสือในขณะเพื่อนคนอื่นออกไปสังสรรค์ เขาหลงใหลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ประถม และศึกษามันอย่างละเอียดจนกระทั้งสามารถเขียนโปรแกรมได้ตั้งแต่อายุ10ขวบ
3.อุดมการณ์แน่วแน่และชัดเจน เขาเป็นผู้ที่มีแผนของตัวเองอยู่เสมอ ต่อให้เขาจะได้รับข้อเสนอสุดพิเศษขนาดไหน แต่ถ้ามันไม่ตรงกับแผนของเขา ก็พร้อมที่จะปฏิเสธทุกเมื่อ