Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ผู้สูงอายุเพศหญิง
อายุ 63 ปี, แบบแผนกิจกรรมและการออกกำลังกาย,…
-
- แบบแผนกิจกรรมและการออกกำลังกาย
ผู้สูงอายุสามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันขั้นพื้นฐาน ซึ่งได้แก่ รับประทานอาหาร ล้างมือ แปรงฟัน สวมใส่เสื้อผ้า ขึ้นลงบันได อาบน้ำ สามารถปฏิบัติได้เอง
-
ผลการประเมินความสามารถเชิงปฏิบัติดัชนีจุฬาเอดีแอล (Chula ADL Index) คะแนนรวมได้ 9 คะแนน แปลผลได้ว่า มีความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจําวันมาก หรือเป็นผู้สูงอายุติดสังคม
ผลการประเมินภาวะเสี่ยงต่อการหกล้มของผู้สูงอายุในชุมชน คะแนนรวมได้ 3 คะแนน คือ ไม่เสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ
ผลการตรวจร่างกายและซักประวัติระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ผู้ป่วยมีอาการข้อบริเวณนิ้วมือติดขัดในตอนเช้า ปวดกล้ามเนื้อบริเวณสะบัก เจ็บบริเวณซี่โครงเวลากด
ผลการตรวจร่างกายและซักประวัติระบบหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุมีอาการเวียนศรีษะเป็นบางครั้ง ในขณะทำกิจกรรม จากการตรวจ capillary refill คืนตัวภายใน 3 วินาที
-
ผลการประเมินความสามารถเชิงปฏิบัติ (Barthel ADL Index) คะแนนรวมที่ได้ 20 คะแนน แปลผลได้ว่า คะแนนอยู่ระดับสูง ไม่มีภาวะพึ่งพา
ผู้สูงอายุได้เข้าร่วมกิจกรรมชมรมผู้สูงอายุในโรงพยาบาลบูรพาและคณะพยาบาลศาสตร์ เล่นดนตรีไทยที่ชมรมข้าราชการบำนาญ เล่นดนตรีที่มหาวิทยาลัยบูรพา เย็บผ้าบุญกฐิน และเข้าร่วมทำงานฝีมือ
- แบบแผนสติปัญญาและการรับรู้
-
ผู้สูงอายุสายตาสั้นและสายตายาว ไม่ทราบว่าเป็นข้างใด สายตาสั้นไม่มาก ปกติใส่แว่นสายตาเฉพาะเวลาเรียน หรืออ่านหนังสือ
การรับสัมผัส/ความสุขสบาย
ผู้ป่วยรู้สึกปวดกล้ามเนื้อบริเวณสะบัก และรู้สึกนิ้วมือขัดในตอนเช้าหลังตื่นนอน
-
ผลการประเมินสภาพสมองเบื้องต้นฉบับภาษาไทย MMSE – Thai 2002 ในผู้สูงอายุ คะแนนรวม 29/30 คะแนน แปลผลได้ว่า ไม่มีความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อม
ผลการประเมินภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุไทย (Thai Geriatric Depress Scale: TGDS) คะแนนรวม 0 คะแนน แปลผลได้ว่า ผู้ป่วยไม่มีภาวะซึมเศร้า
ผลการประเมินความปวด (Numerical rating Scale : NRS) ประเมินจากอาการปวดกล้ามเนื้อ คะแนนรวม 6 คะแนน
แปลผลได้ว่า ปวดปานกลาง
- แบบแผนการรับรู้เกี่ยวกับสุขภาพและการดูแลสุขภาพ
-
ผู้สูงอายุมีประวัติการแพ้ยา Mydocalm (ยาคลายกล้ามเนื้อ) อาการแสดงเมื่อมีการแพ้ยาคือ เป็นผื่น หนาวสั่น
-
เมื่อผู้สูงอายุมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย เช่น ปวดศีรษะ ก็จะซื้อยามารับประทานเอง แต่ถ้ามีอาการฉุกเฉิน เช่น เวียนศีรษะ บ้านหมุน ก็จะไปโรงพยาบาล และซื้อยามาเก็บไว้รับประทานเองเมื่อมีอาการเวียนหัวกำเริบ 2 วันก่อน ผู้ป่วยมีอาการปวดปัสสาวะแต่ปัสสาวะไม่ออก คิดว่าตนเองเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ จึงซื้อยา noxine 400 mg มารับประทานเอง
- แบบแผนอาหารและการเผาผลาญอาหาร
ผู้สูงอายุรับประทานอาหารวันละ 2 มื้อ มื้อเช้าเวลา 07.00 น ชอบรับประทานอาหารประเภท ต้ม ผัด รับประทานอาหารรสเค็ม หวาน ชอบดื่มชา กาแฟ มื้อเย็นเวลา 16.00 น. รับประทานอาหารจำพวก ผลไม้ ขนม ไม่รับทานข้าวมื้อเย็น และในช่วงเช้ามืดจะดื่มชา กาแฟ
การดื่มน้ำ : ดื่มน้ำวันละ 1,500 มิลลิลิตร
หลังรับประทานอาหารจะมีอาการเรอและท้องอืดเล็กน้อย เวลารับประทานอาหารแห้ง เช่น ข้าวผัด หากไม่ได้รับประทานน้ำซุป ผู้สูงอายุจะรู้สึกจุกและฝืดคอเวลากลืนอาหาร
ผลการประเมินภาวะโภชนาการ (Mini Nutritional Assessment: MNA) คะแนนการคัดกรองได้ 14 คะแนน แปลผลได้ว่า มีภาวะโภชนาการปกติ
-
-
ผลการประเมินภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ในผู้สูงอายุุ แปลผลได้ว่า เป็นชนิดปัสสาวะเล็ดร่วมกับปัสสาวะราด (Mixed incontinence) มีระดับความรุนแรงน้อย หมายถึง ปริมาณปัสสาวะที่กลั้นไม่อยู่มีไม่กี่หยดและเกิดอาการบ่อยเล็กน้อย
ผลการประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดอาการท้องผูกของผู้สูงอายุ จากการประเมินตามแบบประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดอาการท้องผูกของผู้สูงอายุ แปลผลได้ว่า ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการท้องผูก
-
-
2. ผู้สูงอายุมีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เนื่องจากกล้ามเนื้อหูรูดกระเพาะปัสสาวะเสื่อมหน้าที่จากการเปลี่ยนแปลงตามวัย
วิเคราะห์ข้อวินิจฉัย
ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ (urinary incontinence) หมายถึง ภาวะที่มีปัสสาวะเล็ดราดออกมาโดยไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะได้ ทำให้มีปัสสาวะเล็ดราดออกมาโดยไม่สามารถควบคุมได้ ไม่สามารถกลั้นได้ ทั้งด้านจำนวนและความบ่อยของการขับถ่ายปัสสาวะ (ปนิฏฐา นาคช่วย, 2559)
ซึ่งในผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงตามวัย อธิบายได้จากการทำงานของระบบขับถ่ายของเสีย (excretory system) ในผู้สูงอายุกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานจะอ่อนแอลง ขนาดและความจุของกระเพาะปัสสาวะลดลง กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะอ่อนกำลังลง ทำให้มีปัสสาวะค้างอยู่มากภายหลังจากถ่ายปัสสาวะแต่ละครั้ง ทำให้ผู้สูงอายุถ่ายปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะเพศหญิงอาจกลั้นปัสสาวะไม่อยู่เพราะกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อนเนื่องจากคลอดบุตร นอกจากนี้ประสิทธิภาพการทำงานของไตลดลง มีการเสื่อมของหลอดไตและส่วนของไตที่ทำหน้าที่กรอง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการกรองของเสียลดลง การดูดกลับของสารต่างๆ น้อยลง ความสามารถในการทำให้ปัสสาวะเข้มข้นลดลง เป็นเหตุให้ปัสสาวะเจือจางมากขึ้น ร่างกายเกิดการสูญเสียน้ำ และเสียเกลือแร่ได้ (วิไลวรรณ ทองเจริญ)
อธิบายด้วยทฤษฎี (Wear and tear theory) คือ เปรียบเทียบสิ่งมีชีวิตคล้ายกับเครื่องจักร เมื่อมีการใช้งานมากๆ ก็จะเกิดความผิดปกติขึ้นแต่มนุษย์และเครื่องจักรจะแตกต่างกันเพราะมนุษย์สามารถที่จะซ่อมแซมตัวเองและใช้งานต่อไปได้โดยกระบวนการสร้างใหม่เพื่อทดเเทน เช่น เซลล์ของผิวหนัง เซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เป็นต้น แต่มีเซลล์บางชนิดไม่สามารถแบ่งตัวได้อีก ได้แก่ เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์กล้ามเนื้อลาย และเซลล์ประสาท เมื่ออายุมากขึ้นเซลล์ก็จะเสื่อมลง และตาย ทำให้การทำงานของอวัยวะเหล่านี้ลดลง (วะนิดา น้อยมนตรี, 2563)
ปัจจัยที่ส่งเสริมในผู้สูงอายุรายนี้ คือ อายุที่มากขึ้น วัยหมดประจำเดือน บริโภคเครื่องดื่มที่มากาแฟอีน
และได้รับการผ่าตัดเนื้องอกมดลูก และในผู้สูงอายุรายนี้มีภาะวะปัสสาวะเล็ด (Stress urinary incontinence) ร่วมกับภาวะปัสสาวะราด (Urge urinary incontinence) ซึ่งเป็นแบบ Mixed incontinence
กิจกรรมการพยาบาล
- ประเมินภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ โดยการสอบถามเกี่ยวกับอาการปัสสาวะเล็ดและปัสสาวะราด
- ให้ความรู้เกี่ยวกับความหมายและสาเหตุของภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ชนิดปัสสาวะเล็ดและปัสสาวะราดเพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ
- ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตัวเพื่อจัดการกับภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ได้แก่
3.1 การฝึกถ่ายปัสสาวะ (Bladder training) ใช้สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ชนิดปัสสาวะราด กลั้นปัสสาวะไม่ทัน
มีวิธีการดังนี้
3.1.1 ทันทีที่ตื่นนอนในตอนเช้า ให้ผู้สูงอายุไปเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายปัสสาวะ พยายามถ่ายปัสสาวะให้ออกมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้กระเพาะปัสสาวะว่างโดยใช้มือช่วยมือกดที่บริเวณหัวเหน่าเบาๆ
3.1.2 แนะนำผู้สูงอายุต้องถ่ายปัสสาวะทุก 2 ชั่วโมง เพื่อฝึกการขับถ่ายปัสสาวะให้เป็นเวลา
3.1.3 ถ้าผู้สูงอายุรู้สึกอยากถ่ายปัสสาวะก่อนถึงเวลาที่กำหนด อย่ารีบไปเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายปัสสาวะทันทีทันใด ให้กลั้นปัสสาวะไว้ก่อน โดยการนับเลข การหายใจเข้าออกลึกๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง และขมิบช่องคลอดเร็ว ๆ หลาย ๆ ครั้งติดต่อกันจนกระทั่งความรู้สึกปวดปัสสาวะผ่านไป แล้วจึงถ่ายปัสสาวะตามเวลาที่กำหนด
3.1.4 ถ้าผู้สูงอายุมีปัสสาวะราด หรือถ่ายปัสสาวะก่อนถึงเวลาที่กำหนดให้เริ่มนับเวลาใหม่ คือ ให้ถ่ายปัสสาวะครั้งต่อไปในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้า
3.1.5 การฝึกการถ่ายปัสสาวะทำเฉพาะช่วงเวลากลางวันหลังจากผู้สูงอายุตื่นนอนตอนเช้า ส่วนเวลากลางคืนถ่ายปัสสาวะได้ตามปกติ
3.2 การจัดการโดยทั่วไป โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
และการดำเนินชีวิต ได้แก่
3.2.1 การจัดน้ำดื่มในแต่ละวันอย่างเหมาะสมในผู้สูงอายุ ควรจัดให้ ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอตลอดวัน โดยในช่วงกลางวันแนะนำให้ผู้สูงอายุดื่มน้ำ 1,500–2,000 มิลลิลิตร แนะนำให้ผู้สูงอายุลดปริมาณน้ำดื่มโดยเฉพาะก่อนนอนประมาณ 2 ชั่วโมง
3.2.2 การลดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เนื่องจากคาเฟอีนทำให้กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวกว่าปกติ เพื่อช่วยลดอาการปัสสาวะบ่อยและปัสสาวะราดได้
3.2.3 ท่านั่งที่ใช้ในการขับถ่ายปัสสาวะ ควรนั่งขับถ่ายปัสสาวะบนชักโครก โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยให้ข้อศอกสัมผัสกับหัวเข่านั่งในท่าที่สุขสบาย ไม่เกร็งหรือเครียด จะช่วยให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและหูรูดคลายตัว ส่งเสริมการขับถ่ายปัสสาวะได้ดียิ่งขึ้น และทำให้ปัสสาวะถูกขับถ่ายออกมาได้หมด ลดการคั่งค้างของปัสสาวะ โดยการนั่งลักษณะแบบนี้จะเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ภาวะการปัสสาวะไม่สุด
3.3 การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Pelvic muscle exercise : Kegel exercise)
3.3.1 อธิบายให้ขมิบกล้ามเนื้อ รอบทวารหนักและช่องคลอด ในการขมิบทวารหนักและช่องคลอด แนะนําไม่ให้ผู้สูงอายุแขม่วท้อง หนีบก้นหรือต้นขา (เพราะการกระทำเหล่านี้ เป็นเพียงการเพิ่มความดันในช่องท้องเท่านั้น) และให้มุ่งที่กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเท่านั้น
3.3.2 แนะนําให้เริ่มขมิบ 3 วินาที และคลาย 3 วินาทีในผู้สูงอายุบางคนอาจเริ่มที่ 3 หรือ 5 วินาทีก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้น
เรื่อย ๆ จนถึง 10 วินาที
3.3.3 แนะนําให้ขมิบ 50-100 ครั้งต่อวัน
3.3.4 แนะนําให้ผู้สูงอายุสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อาการปัสสาวะเล็ดและราดจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อทำติดต่อกันประมาณ 2-4 สัปดาห์ ซึ่งการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานช่วยลดความรุนแรงของภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ในผู้สูงอายุได้
จากงานวิจัย ผลการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานต่อคุณภาพชีวิตสตรีปัสสาวะเล็ด (Effects of pelvic floor exercises on the quality of life in incontinent women) พบว่าการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ทำให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นกว่าก่อนบริหาร และดีกว่ากลุ่มที่ไม่บริหาร อาการปัสสาวะเล็ดลดลง ดังนั้น ควรแนะนำให้สตรีที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ด บริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน อย่างถูกต้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันและบรรเทาอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ส่งเสริมให้สตรีมีคุณภาพชีวิตที่ดี (กรกฎ เห็นแสงวิไล, อุบล พิรุณสาร, และ วิไลวรรณ มณีจักรสโนว์, 2017)
กิจกรรมของผู้สูงอายุ
- ผู้สูงอายุให้ความร่วมมือในการประเมินภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- ผู้สูงอายุให้ความร่วมมือในการรับฟังและทำความเข้าใจในให้ความรู้เกี่ยวกับความหมายและสาเหตุของภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ชนิดปัสสาวะเล็ดและปัสสาวะราด รวมถึงวิธีการดูแลตนเองเพื่อป้องกันภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- ผู้สูงอายุปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลตนเองเพื่อจัดการกับภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
เป้าประสงค์ทางการพยาบาล
- เพื่อให้ผู้สูงอายุมีอาการปัสสาวะเล็ดและปัสสาวะราดลดลง
- เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่และวิธีการปฏิบัติตัว
เกณฑ์การประเมินผล
- ผู้สูงอายุสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตัวเพื่อจัดการกับภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ได้ โดยสามารถบอกวิธีการปฏิบัติตัว ได้แก่
- เรื่องการฝึกถ่ายปัสสาวะได้ 4 ใน 5 ข้อ
- เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดำเนินชีวิตได้ 2 ใน 3 ข้อ
- เรื่องการบริหารอุ้มเชิงกรานได้ 3 ใน 4 ข้อ
ประเมินผล
ผู้สูงอายุสามารถบอกวิธีการปฏิบัติตัวเพื่อจัดการกับภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ได้แก่
- การฝึกถ่ายปัสสาวะ (Bladder training) ใช้สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ชนิดปัสสาวะราด กลั้นปัสสาวะไม่ได้ครบทุกข้อ (จาก5ข้อ)
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดำเนินชีวิตได้ครบทุกข้อ (จาก3ข้อ)
- การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Pelvic muscle exercise : Kegel exercise) สามารถบอกความรู้เก่าได้
-
- แบบแผนการพักผ่อนและการนอนหลับ
-
ผู้สูงอายุนอนไม่หลับเป็นบางครั้ง หลังจากตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกจะนอนไม่ค่อยหลับ จากนั้นก็จะเล่นโทรศัพท์หรือนั่งสมาธิ ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วจะนอนหลับจนถึงเช้า
-
- แบบแผนการรับรู้ตนเองและอัตมโนทัศน์
ความรู้สึกต่อตนเองในด้านต่างๆ ผู้สูงอายุรู้สึกภูมิใจในตนเอง รู้สึกโชคดีที่เกิดมามีสติปัญญาดี มีฐานะปานกลาง ไม่ลำบาก เป็นที่พึ่งของคนในครอบครัวได้ ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ
ความรู้สึกผิดปกติของตนเองที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ผู้สูงอายุรู้สึกว่าสุขภาพของตนเองจะมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตลอดเวลา
-
- แบบแผนการปรับตัวและการเผชิญกับความเครียด
คนในครอบครัวและคนรอบข้างทำให้ผู้ป่วยเกิดความเครียดในบางครั้ง
วิธีการเผชิญ ผู้สูงอายุจะทำจิตใจให้ปล่อยวาง และทำกิจกรรมต่างๆคลายเครียด ได้แก่ ดูละครที่ชอบ ดูข่าวหรือทำงานฝีมือต่างๆ เช่น ทำกระเป๋า ตกแต่งกระเป๋า เป็นต้น
-
-
บทบาทและหน้าที่พิเศษ เมื่อปี 2558 ได้มีการทำงานฝีมือขาย แต่ปัจจุบันไม่ได้มีงานพิเศษเนื่องจากสายตาไม่ค่อยดี แต่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกิจกรรมจิตอาสาที่โรงพยาบาลม.บูรพาและมหาวิทยาลัยบูรพา
สัมพันธภาพกับเพื่อนร่วมชมรมมีสัมพันธภาพที่ดี มีเพื่อนสนิทที่มีนิสัยเหมือนกันชอบชวนกันไปทำกิจกรรมข้างนอก เช่น เย็บผ้าบุญกฐิน ส่วนสัมพันธภาพกับเพื่อนบ้านไม่ได้คุยกันต่างคน ต่างอยู่ ด้วยพื้นฐานบ้านที่แคบไม่ค่อยเจอหน้ากันแต่ถ้าเจอกันก็มีทักทายกันบ้าง
ปฏิเสธการมีเพศสัมพันธุ์
ปฏิเสธอาการผิดปกติเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น
บวม แดง คัน ตกขาว
พฤติกรรมการแสดงออกที่เหมาะสมกับเพศ
ผลการตรวจร่างกายและซักประวัติระบบสืบพันธุ์ มีประจำเดือนครั้งแรกเมื่ออายุ 12 ปี ประจำเดือนมาอย่างสม่ำเสมอ ครั้งละ 5 วัน หมดประจำเดือนเมื่ออายุ 52 ปี พ.ศ. 2553
- แบบแผนค่านิยมและความเชื่อ
เมื่อผู้สูงอายุมีความเจ็บป่วย ผู้สูงอายุจะไหว้พระ และสวดมนต์จะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกดีขึ้น หลังจากหายจากอาการเจ็บป่วยแล้วผู้สูงอายุก็ไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นต่อ
ผู้สูงอายุมีความเชื่อว่า อาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณหลัง คอ และบ่า อาจจะเกิดจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไป การเล่นดนตรี และน่าจะเกิดจากส่วนตัวผู้สูงอายุเวลาทำสิ่งต่างๆจะชอบเกร็งกล้ามเนื้อ ส่วนในเรื่องของการปวดบริเวณข้อนิ้วมือ ผู้สูงอายุไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่มีความคิดว่าไม่สัมพันธ์กับการเล่นดนตรีหรือการทำงานฝีมือเพราะตนไม่ได้ทำกิจกรรมเหล่านั้นบ่อย
อ้างอิง
กรมการแพทย์. (2561). กรมการแพทย์แนะนำการใช้ยาในผู้สูงอายุ. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564. จาก https://pr.moph.go.th/print.php?url=pr/print/2/02/116605/ กรกฎ เห็นแสงวิไล, อุบล พิรุณสาร, และ วิไลวรรณ มณีจักรสโนว์. (2017). ผลการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานต่อคุณภาพชีวิตสตรีปัสสาวะเล็ด Effects of pelvic floor exercises on the quality of life in incontinent women. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564, จาก file:///C:/Users/ASUS/Downloads/.pdfคณะกรรมการจัดการความปวดฝ่ายการพยาบาล. (2561). การจัดการความปวด. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564, จาก http://203.131.209.219/km/admin/new/110220_114839.pdfปนิฏฐา นาคช่วย. (2559). ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ในผู้สูงอายุ Urinary Incontinence in Elderly. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564, จาก http://www.rtamedj.pmk.ac.th/files.pdfพุทธิพร พิธานธนานุกูล. (2563). ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ในผู้สูงอายุ. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสรรพสิทธิประสงค์, 4(1), 20-30พีระ สมบัติดี, สายสมร พลดงนอก และ สิทธิชัย เนตรวิจิตรพันธ์. (2558). ความรู้เรื่องภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564, จาก https://www.srinagarind.md.kku.ac.th/New%20folder.pdfโรงพยาบาลหัวใจ. (2021). DASH DIET กินต้านโรคหัวใจ ลดความดันให้อยู่หมัด. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564, จาก https://www.bangkokhearthospital.com/content/dash-diet-healthy-eating-to-control-blood-pressureวะนิดา น้อยมนตรี. (2564). บทที่ 8 การพยาบาลเพื่อส่งเสริมการใช้ยาอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในผุ้สูงอายุ :เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 1052059 เอกสารประกอบการสอนรายวิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ. (หน้า 1-22). ชลบุรี : คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.วารี กังใจ. (2564). บทที่ 7.7.2 การพยาบาลผู้สูงอายุที่มีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ :เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 1052059 เอกสารประกอบการสอนรายวิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ. (หน้า 1-13). ชลบุรี : คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.สมทรง จิระวรานันท์ และจุฬาลักษณ์ ใจแปง. (2562). ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ในผู้สูงอายุ. วชิรสารการพยาบาล, 21(2), 77-85. สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทยสถาบันวิจัยระบบสารธารณสุข. (2557). ยาปฏิชีวนะไม่ใช่ยาแก้อักเสบ. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564. จาก https://www.hsri.or.th/people/media/infographic/detail/5914