Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรดไหลย้อน (GERD) - Coggle Diagram
กรดไหลย้อน (GERD)
พยาธิสภาพ
การมีความผิดปกติของหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง (Lower esophageal sphincter, LES)
พบว่าผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนมีการไหลย้อนของกรดได้บ่อยและสูงกว่าประชากรที่ไม่มีอาการ บางรายมีปัญหาทางกายภาพทำให้การหดรัดตัวบริเวณนี้เสียไป
เช่น การมี hiatal hernia ร่วมกับการที่ส่วนบนของ gastric content มักจะ pH ต่ำที่เกิดเป็นลักษณะที่เรียกว่า acid pocket ซึ่งจะมีแนวโน้มของการเกิดอาการของกรดไหลย้อนได้บ่อย
- หากเกิดภาวะ esophagitis ก็จะเรียกว่า gastroesophageal reflux disease (GERD)
- ไม่มี esophagitis ก็จะเรียกว่า non-erosive gastroesophageal reflux disease (NGERD)
สาเหตุร่วมอื่น ๆ
-
การมีแรงดันในช่องท้องและช่องอกแตกต่างกัน
เช่น ภาวะอ้วนทำให้มีช่องท้อง Visceral fat มาก เกิดแรงดันในช่องท้องสูงขึ้น
และดันกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไป
การวินิจฉัย
1.อาการแสบ หรือ อาการร้อนบริเวณหน้าอก (Heartburn) โดยอาการจะอยู่บริเวณหลังต่อกระดูกสันอก (Sternum) ระหว่างกระดูกลิ้นปี่ (Xiphoid) ถึงคอ
2.อาการหรือความรู้สึกว่ามีการขย้อนหรือไหลย้อนของน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารขึ้นมา
ในหลอดอาหาร อาจถึงลำคอ หรือปาก (Regurgitation)
-
การรักษา
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
1.หลีกเลี่ยงเฉพาะอาหารที่ก่อให้เกิดอาการต่อผู้ป่วย โดยพิจารณาเป็นราย ๆ ไป ไม่แนะนำให้หลีกเหลี่ยงอาหารแบบเหมารวม เนื่องจากแต่ละรายจะมีการตอบสนองต่อชนิดของอาหารแตกต่างกันไป
-
3.การยกหัวตัวเตียงสูงหรือ การนอนหัวสูงโดยใช้สิ่งอุปกรณ์เสริมในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการของกรดไหลย้อนในช่วงเวลากลางคืน รวมถึงหลีกเหลี่ยงการทานอาหารประมาณ 2-3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
การรักษาด้วยยา
- ยาตัวแรกที่ควรเลือกใช้ได้แก่ proton pump inhibitor ในขนาด standard dose ออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งกรดของ parietal cell ในกระเพาะอาหาร แนะนำให้ทานยาในช่วงก่อนอาหารเช้าประมาณ 30-60 นาที โดยผู้ป่วยที่เป็น erosive reflux disease จะดีขึ้นประมารร้อยละ 70-80 เมื่อเทียบกับกลุ่ม non erosive reflux disease ซึ่งจะดีขึ้นประมาณร้อยละ 60 หากอาการดีขึ้นหลังได้รับยาประมาณ 4-8 สัปดาห์ ให้ทำการลดและ/หรือหยุดยา
- H2RA ไม่ควรใช้เป็นยาหลักเนื่องจากประสิทธิภาพด้วยกว่า PPI และมีผลเรื่องของ tachyphylaxis แนะนำให้ใช้เป็นยาเสริม ในเวลาก่อนนอน ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการในช่วงกลางคืน
- Prokinetic แนะนำให้ใช้ร่วมกับ PPI ในผู็ป่วยที่มี dyspeptic symptom, gastroparesis หรือผู้ป่วยที่มีคลื่นไส้อาเจียน ทั้งนี้ให้ระวังผลข้างเคียงของแต่ละตัวยา
- Reflux inhibitor ได้แก่ baclofen ออกฤทธิ์ผ่าน GABA(b) receptor ช่วยลด transient tower esophageal relaxation ขนาด 5-20 mg วันละ 3 ครั้ง ผลข้างเคียงคือง่วงนอน และอาการวิงเวียนศีรษะ ร่วมกับยังขาดข้อมูลเรื่องความปลอดภัยในระยะยาว จึงต้องพิจารณาการใช้อย่างระมัดระวัง
- Alginate ออกฤทธิ์ด้วยการเคลือบเฉพาะส่วนบนของ gastric content ที่มีลักษณะเป็นกรด (acid pocket) ทำให้ลดจำนวนของ acid reflux episodes โดยมีข้อมูล RCT ของการใช้ alginate add on PPI ที่ลดความรุนแรงและความถี่ของอาการ heart burn และ regurgitation ได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน จึงควรพิจารณาการใช้เป็นลักษณะของยาเสริมในกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มี esophagitis
การรักษาโดยไม่ใช้ยา
การรักษากรดไหลย้อนด้วยการผ่าตัด มีประสิทธิภาพไม่น้อยไปกว่าการรักษาด้วยยากลุ่ม PPI ให้ผลการรักษาที่ดีในระยะยาว และมีผลข้างเคียงจากการผ่าตัดน้อย โดยผู้ที่มีผลลัพธ์จากการผ่าตัดดี มักเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการชัดเจนได้แก่ heartburn และ/หรือ regurgitation รับประทานยากลุ่ม PPI แล้วตอบสนองดี (responder) ตรวจพบความผิดปกติของ pH studies และมี good symptom correlation และยังไม่มีภาวะแทรกซ้อนของกรดไหลย้อน
อาการ,อาการแสดง
-
-
กลืนลำบาก
เมื่อมีอาการเป็นระยะเวลานาน ซึ่งบ่งถึงการตีบของหลอดอาหารจากภาวะหลอดอาหารอักเสบเรื้อรัง หรือ มะเร็งของหลอดอาหารส่วนปลายจากภาวะ Barrett's esophagus
-
เรอเปรี้ยวเป็น ๆ หาย ๆ
มักเป็นมากขึ้นหลังรับประทานอาหารมื้อใหญ่ อาหารที่มีรสจัด อาหารที่มีปริมาณไขมันมาก ชอคโกแลต สุรา หรือเกิดจากภาวะต่าง ๆ
เช่น การอดหลับอดนอน ภาวะเครียดทางจิตใจและร่างกาย
-
ความหมาย
โรคกรดไหลย้อน (gastroesophageal reflux disease) หมายถึง ภาวะที่มี
การขย้อนหรือไหลย้อนของน้ำย่อยในกระเพาะอาหารขึ้นมาในหลอดอาหาร