Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วิวัฒนาการของนาฏศิลป์และการละครไทย สมัยรัชกาลที่ ๑-๙, image, ร.8,…
วิวัฒนาการของนาฏศิลป์และการละครไทย สมัยรัชกาลที่
๑-๙
รัชสมัยสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2
เป็นยุคทองนาฏศิลป์ไทย/วรรณคดี
ฟื้นฟูและรวบรวม สิ่งที่สูญหายให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นและรวบรวม ตำราการฟ้อนรำ ไว้เป็นหลักฐานที่สำคัญที่สุดในประวัตืศาสตร์
พัฒนาโขน โดยให้ผู้แสดงเปิดหน้าและสวมมงกุฎ หรือชฏา
ได้รับการยกย่องในฐานะบุคคคลสำคัญที่มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมโลกโดยองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์เเละวัฒนธรรมสหประชาชาติ(ยูเนสโก)
ได้รับอิทธิพลมาจากนาฏศิลป์เอเชีย
ทรงพระราชนิพนธ์บทละคร
บทละครนอก
อิเหนา-ซึ่งเป็นบทละครที่ยอมรับจากวรรณคดีสโมสรว่า เป็นยอดของบทละครรำ คือการเเสดงครบองค์ห้าของละครดี
องค์ห้าของละครดี
ร้องเพราะ
พิณพาทย์เพราะ
รำงาม
กลอนดี
ตัวละครงาม
บทละครใน
รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก
:pencil2:แหล่งอ้างอิง
วิวัฒนาการของนาฏศิลป์และละครไทย ม.6 ปี2557
https://www.slideshare.net/panompornchinchana/6-2557-35555757
บุคคนสำคัญ
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E0%B8%98%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%87_(%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B9%87%E0%B8%87_%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B9%87%E0%B8%8D%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A5
)
จัดทำโดย นางสาวปัณณิกา สมิทธิเวศม์ เลขที่ 28 วิวัฒนาการของนาฎศิลป์สมัย ร.2 เเละบุคคลสำคัญ
:star:บุคคลสำคัญ
เจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรง
เกิดเมื่อวันที่16 พฤษภาคม พ.ศ.2364
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙
บันทึกท่ารำหน้าพาทย์องค์พระพิราพ
โปรดเกล้าให้จัดพิธีไหว้ครู
โปรดเกล้าให้บันทึก
พระราชนิพนธ์เพลงไว้จำนวนมาก
เพลงพระราชนิพนธ์สายฝน
เพลงพระราชนิพนธ์แสงเทียน
เพลงพระราชนิพนธ์ใกล้รุ่ง
ส่งเสริมให้ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทยคิดประดิษฐ์ท่ารำ ระบำชุดใหม่
ระบำพม่าไทยอธิษฐาน
ระบำชุดพิเศษที่มีความหมายในการเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับต่างประเทศ
ระบำจีน-ไทยไมตรี
ระบำมิตรไมตรีญี่ปุ่น-ไทย
มีการนำนาฏศิลป์นานาชาติมาประยุกต์ใช้ในการประดิษฐ์ท่ารำ
:star: บุคคลสำคัญ
ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี
ได้รับการฝึกหัดนาฏศิลป์ในราชสำนักจากเจ้าจอมมารดาวาด และเจ้าจอมมารดาเขียน ในรัชกาลที่ 4 เจ้าจอมมาดาทับทิมในรัชกาลที่ 5 ท่านเป็นผู้หนึ่งที่ร่วมฟื้นฟูนาฏศิลป์ไทยในสมัยที่แสดง ณ โรงละครศิลปากร ท่านทำหน้าที่ในการฝึกสอน อำนวยการแสดงไม่ว่าจะเป็น โขน ละคร ฟ้อน รำ ระบำ เซิ้ง และท่านยังเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นท่ารำต่าง ๆ มากมาย
จัดทำโดย น.ส.สวรินทร์ ชูแสง เลขที่ 23 ม.4/1 สืบค้นวันที่ 26 พ.ย. 2564
https://www.slideshare.net/panompornchinchana/6-2557-35555757
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
การทำนุบำรุง
ปรับปรุงวิธีการแสดงโขนเป็นละครดึกดำบรรพ์ เรื่อง รามเกียรติ์
มีการทำนุบำรุงศิลปะโขน ละคร และดนตรีปี่พาทย์
จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดนาฏศิลป์ เรียกว่า “โรงเรียนทหารกระบี่หลวง” ต่อมาเปลี่ยนเป็น “โรงเรียนพรานหลวง”
จัดตั้งกรมมหรสพ
:star:บุคคลสำคัญ
นายกรี วรศริน
เป็นศิลปินผู้ทรงวิทยาคุณในด้านนาฎศิลป์โขนของกรมศิลปากร มีความสามารถในกระบวนการงานนาฎศิลป์ และการแสดงโขนทุกประเภท เป็นแม่แบบการแสดงโขนมีฝีมือเป็นเลิศ เป็นทั้งผู้แสดง ผู้ฝึกซ้อม ผู้ควบคุมการแสดง นอกจากชำนาญในด้านการแสดงแล้วยังเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านการประดิษฐ์ท่ารำต่างๆ
ทรงพระราชนิพนธ์
บทละครรำ
ท้าวแสนปม
พระเกียรติรถ
พระนาละ
ขอมดำดิน
ศกุนตลา
บทโขน
พระรามตามกวาง
สีดาหาย
:pencil2:แหล่งอ้างอิง
จัดทำโดย น.ส.จินดา ไชยวรรณ เลขที่ 37 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว: พระมหากษัตริย์ศิลปิน สืบค้นวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 อ้างอิง
https://kingchulalongkorn.car.chula.ac.th/th/article/kingrama6_6
จัดทำโดย น.ส.จินดา ไชยวรรณ เลขที่ 37 ประวัติของนายกรี วรศริน (ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดงโขน) สืบค้นวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 อ้างอิง
https://wasan2545.wordpress.com/%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A11/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5-%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99/
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวนับเป็นยุคทองของศิลปะด้านการแสดง ทั้งแบบจารีตคือ โขน ละครนอก ละครใน และละครแบบใหม่ซึ่งได้รับอิทธิพลของประเทศตะวันตก อันได้แก่ ละครร้อง ละครพูด ละครดึกดำบรรพ์
รัชสมัยพระบาท
สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 4
โปรดให้มีละครรำผู้หญิงในราชสำนักตามเดิมและในเอกชนมีการแสดงละครผู้หญิงและผู้ชาย
ในสมัยนี้มีบรมครูทางนาฏศิลป์ ได้ชำระพิธีโขนละคร
ทูลเกล้าถวายตราไว้เป็นฉบับหลวงและมีการดัดแปลงการรำเบิกโรงชุดประเริงมาเป็น รำดอกไม้เงินทอง
ได้ฟื้นฟูละครหลวง
อนุญาตให้ราษฎรฝึกละครในได้ ซึ่งแต่เดิมละครในจะแสดงได้แต่เฉพาะในพระราชวังเท่านั้น
ด้วยเหตุที่ละครแพร่หลายไปสู้ประชาชนมากขึ้น
จึงมีการบัญญัติข้อห้ามในการแสดงละครที่มิใช่ละครหลวง
ข้อห้ามในการแสดงละครที่ไม่ใช่ละครหลวง
1.ห้ามฉุดบุตรชาย-หญิง ผู้อื่นมาฝึกละคร
2.ห้ามใช้รัดเกล้ายอดเป็นเครื่องประดับศีรษะ
3.ห้ามใช้เครื่องประกอบการแสดงที่เป็นพานทอง หีบทอง
4.ห้ามใช้เครื่องประดับลงยา
5.ห้ามเป่าแตรสังข์
6.หัวช้างที่เป็นอุปกรณ์ในการแสดงห้ามใช้สีเผือก ยกเว้นช้างเอราวัณ
:star:บุคคลสำคัญ
เจ้าจอมมารดาวาด แสดงเป็นอิเหนา
ได้รับฝึกสอนด้านการละครตั้งแต่เด็ก และได้เป็นที่ท้าววรจันทรในสมัยรัชกาลที่ 4 ท่านมีนามเดิมว่า “แมว” เกิดเมื่อพ.ศ. 2384 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว สกุลของท่านสืบเชื้อสายมาตั้งแต่พระยาอภัยพิพิธ (สุ่น) ซึ่งรับราชการในกรมท่าในสมัยรัชกาลที่ 1
:pencil2:แหล่งอ้างอิง
นาฏศิลป์ไทย ม.6
https://sites.google.com/site/bluestampnew/home
วิวัฒนาการนาฏศิลป์ไทย
https://sites.google.com/site/fersbeemeennie/home/phu-cad-tha
สืบค้นโดย น.ส.ณัฏฐณิชา โกศล เลขที่38 ม.4/1
รัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3
โปรดให้ยกเลิกละครหลวง ทำให้นาฏศิลป์ไทยเป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่ประชาชน และเกิดการแสดงของเอกชนขึ้นหลายคณะ ศิลปินที่มีความสามารถได้สืบทอดการแสดงนาฏศิลป์ไทยที่ถือเป็นแบบแผนกันต่อมา
:pencil2:อ้างอิง
บุญรัตน์ แจ่มกระจ่าง. (2558). บุคคลสำคัญและวิวัฒนาการของนาฏศิลป์และการละครไทย. สืบค้น 27 พฤศจิกายน 2564, จาก
https://sites.google.com/site/natasintk/course-outline/hnwy-kar-reiyn-ru-thi-4
:star:บุคคลสำคัญ
กรมหลวงรักษ์รณเรศ
ศ ทรงมีคณะละครผู้ชายจัดแสดงเรื่อง อิเหนา
บทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ ๑
จัดทำโดย น.ส.นิติพันธ์ ดับทอง เลขที่40 ม.4/1
ผู้ที่มีความเก่งกาจในด้านนาฏศิลป์ได้จัดทำนาฏศิลป์ให้เป็นแบบแผนแล้วสืบทอดต่อมา
นาฏศิลป์ที่เข้ามา
แอ่วลาว
มโนราห์
งิ้ว
ลิเก
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 7
เกิดละครใหม่ขึ้น คือ ละครเพลง หรือ “ละครจันทโรภาส” และ “ละครหลวงวิจิตรวาทการ”
ยุบกรมมหรสพ จัดตั้งกรมศิลปากรขึ้นแทน
:star:บุคคลสำคัญ
นางสุวรรณี ชลานุเคราะห์
เป็นนาฏศิลปินที่มีความเชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย ทั้งแบบพื้นเมืองและแบบราชสำนัก เคยแสดงเป็นตัวเอกในละครแบบต่างๆ ให้กรมศิลปากรมาแล้วมากมายหลายเรื่องหลายตอน บทบาทที่ได้รับการยกย่องและนิยมชมชอบจากผู้ชมมากที่สุด “ตัวพระ” เช่น อิเหนา สังข์ทอง พระไวย ไกรทอง สัตยวาน บางครั้งก็แสดงเป็น “นางเอก” เช่น ละเวงวัลลา เป็นต้น
พระราชนิพนธ์เพลงไทย
เพลงราตรีประดับดาว
เพลงเขมรละออองค์
เพลงคลื่นกระทบฝั่งสามชั้น
:pencil2:แหล่งอ้างอิง
จัดทำโดย น.ส.จินดา ไชยวรรณ เลขที่ 37 "พระปกเกล้า"คีตศิลปินแห่งราชวงศ์จักรี สืบค้นวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 อ้างอิง
https://library.stou.ac.th/odi/rama-7-and-music/page_1.html
จัดทำโดย น.ส.จินดา ไชยวรรณ เลขที่ 37 ศิลปะ(นาฏศิลป์)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สืบค้นวันที่ 25 พฤษจิกายน 2564 อ้างอิง
https://sites.google.com/a/kw.ac.th/art_m6/hnwy-thi-1-wiwathnakar-lakhr-thiy/4-smay-ratnkosinthr
จัดทำโดย น.ส.จินดา ไชยรรณ เลขที่ 37 ‘สุวรรณี ชลานุเคราะห์’ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง สิริรวมอายุ 95 ปี สืบค้นวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 อ้างอิง
https://www.matichon.co.th/education/religious-cultural/news_2929600
รัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘
การทำนุบำรุง
มีการจัดตั้งโรงเรียนนาฏศิลป์แทนโรงเรียนดุริยางคศาสตร์ซึ่งถูกทำลายตอนสงครามโลกครั้งที่ 2
เกิดละครหลวงวิจิตรวาทการ
เป็นละครที่ปลุกใจให้รักชาติ เรื่องที่นำมาแสดงมักเป็นบทประพันธ์ที่ท่านแต่งขึ้น
ศึกถลาง
เจ้าหญิงแสนหวี
พระเจ้ากรุงธน
น่านเจ้า
เลือดสุพรรณ
เกิดรำวงมาตรฐาน หรือ รำโทน
เกิดขึ้นในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามรำวงมาตรฐาน เป็นการแสดงที่มีวิวัฒนาการมาจาก “รำโทน” เป็นการรำและร้องของชาวบ้าน ซึ่งจะมีผู้ชายและผู้หญิง รำกันเป็นคู่ๆ รอบๆ ครกตำข้าวที่วางคว่ำไว้ หรือไม่ก็รำกันเป็นวงกลม โดยมีโทนเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ ลักษณะการรำ และการร้องเป็นไปตามความถนัด ไม่มีแบบแผนกำหนดไว้
:star: บุคคลสำคัญ
1.หลวงวิจิตรวาทการ
จัดทำโดย น.ส.สวรินทร์ ชูแสง เลขที่ 23 ม.4/1 สืบค้นวันที่ 26 พ.ย. 2564 ละครหลวงวิจิตรวาทการ
https://sites.google.com/site/munoka001/nad-ysaphth/lakhr-sangkhit
บุคคลสำคัญบุคคลสำคัญ
https://www.slideshare.net/panompornchinchana/6-2557-35555757
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่5
อนุรักษ์และพัฒนานาฏศิลป์ไทยเพื่อทันสมัย
การพัฒนาละครในละครดึกดำบรรพ์
กำหนดนาฎศิลป์เป็นที่บทระบำแทรกอยู่ในละครเรื่องต่างๆ
รำบำเทวดา-นางฟ้า
ในเรื่องกรุงพาณชมทวีป
ระบำตอนนางบุษบากับนางกำนันชมสารในเรื่องอิเหนา
พัฒนาละครรำที่มีอยู่เดิมมาเป็นละครพันทางและละครเสภา
:pencil2:แหล่งอ้างอิง
บทเรียนที่1 เรื่องวิวัฒนาการนาฎศิลป์ไทยและการละคร
https://orpin503.wordpress.com
:star:บุคคลสำคัญ
พระราชชายา เจ้าดารารัศมี
นาฏศิลป์ล้านนา
ทรงส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเรื่องดนตรีพื้นเมือง และศิลปะการแสดงพื้นเมือง
โปรดให้รวบรวมศิลปินล้านนาเก่าแก่มาเป็นบรม
ครูผู้ประสาทวิชาเพื่อสนับสนุนให้ความรู้แก่พระญาติ
และประชาชน รวมทั้งโปรดให้จัดการฝึกสอนขึ้นในพระตำหนัก
จัดทำโดย น.ส.ณัฏฐณิชา โกศล เลขที่38 ม.4/1
:pencil2:แหล่งอ้างอิง
บุญรัตน์ แจ่มกระจ่าง. (2558). บุคคลสำคัญและวิวัฒนาการของนาฏศิลป์และการละครไทย. สืบค้น 27 พฤศจิกายน 2564, จาก
https://sites.google.com/site/natasintk/course-outline/hnwy-kar-reiyn-ru-thi-4
:star:บุคคลสำคัญ
เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษมนตรี
เป็นผู้ชำนาญในกระบวนละคร จึงสามารถคิดแบบแผนวิธีฟ้อนรำที่ยึดเป็นแบบอย่างละครที่รำกันมาจนถึงปัจจุบัน หรือพูดง่ายๆได้ว่าท่านเป็นผู้วางรากฐานละครใน
ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก
การปรับปรุงระบำสี่บท ซึ่งเป็นระบำ
มาตรฐานตั้งแต่สุโขทัยแต่ละบทจะแตกต่างกันทั้งเนื้อร้อง ท่วงทำนอง และจังหวะเพลง ได้แก่ เพลงพระทอง
เพลงเบ้าหลุด
เพลงสระบุหร่ง
เพลงบหลิ่ม
โปรดรวบรวมตำราฟ้อนรำ และเขียนภาพท่ารำ
แม่บทบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
มีการพัฒนาโขนเป็นรูปแบบละครใน โดยให้ผู้แสดงเปิดหน้าและสวมมงกุฎ หรือชฏา
จัดทำโดย น.ส.นิติพันธ์ ดับทอง เลขที่ 40 ม.4/1
รัชสมัยพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1