Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
4/6 แนวคิดกำเนิดชนชาติไทย, รัฐโบราณที่อยู่ในดินแดนไทยและพื้นที่ใกล้เคียง,…
4/6 แนวคิดกำเนิดชนชาติไทย
1.อัลไต
ผู้เสนอแนวคิด
วิลเลียม คลิฟตัน ดอดด์
แนวคิดของ หมอดอดด์
เชื้อชาติเก่าเเก่กว่าจีน
คนไทยเชื้อสายมองโกล
หลักฐานของ หมอดอดด์
การเดินทางสำรวจ
จดหมายเหตุของจีน
งานเขียนเรื่อง The Thai Race : The Elder Brother of the Chinese
พงศาวดาร
ขุนวิจิตรมาตรา
แนวคิดของ ขุนวิจิตร
คนไทย=พวกมองโกลอพยพลงมาที่ -> น.เหลือง น.แดง -> สุวรรณภูมิ
คนไทยเคยอาศัยอยู่แถบเทือกเขาอัลไต -> น.หวงเหอ -> ลุ่มน.แยงซี -> เสียเมืองให้จีน -> ทางใต้
หลักฐานสนับสนุนแนวคิดของ ขุนวิจิตร
หนังสือหลักไทย
ด้านโบราณคดีเเละภูมิศาสตร์
แนวคิดในปัจจุบัน
เเนวคิดนี้ยังไม่ได้รับการยอมรับ
การขุดค้นหลักฐานทางโบราณคดีที่ไม่พบหลักฐานเกี่ยวกับชนชาติไทย
มีทะเลทรายกว้างใหญ่ ทุรกันดาน ไม่สามารถรอดชีวิตได้
เทือกเขามีความหนาวเย็น เเละเเห้งเเล้ง
ไม่มีหลักฐานว่ามีการอพยพลงมาจากเทือกเขาอัลไต
เทือกเขาอัลไตเป็นทุ่งหญ้าเหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์
แต่คนไทยถนัดเพาะปลูกและอยู่ในลุ่มแม่น้ำ
5.ไทย
แนวคิดในปัจจุบัน
มีนักวิชาการหลายท่านพยายามนำหลักฐานทางด้านโบราณคดีและเอกสารมาพิสูจน์ว่าคนไทยน่าจะอยู่บริเวณนี้มาก่อน
ไม่ได้มีการอพยพมาจากดินแดนอื่นที่อยู่ห่างไกลออกไป ซึ่งแนวความคิดนี้ในปัจจุบัน ยังไม่ถือว่าเป็นข้อยุติ
ผู้เสนอแนวคิด
สุจิตต์ วงษ์เทศ
บทความ "คนไทยไม่ได้มาจากไหน"
คนไทยอาศัยอยู่ประเทศไทยมานานแล้ว
เกิดจากการรวมตัวกัน ของแคว้นต่าง ๆ เข้าด้วยกัน
จนเป็นประเทศเดียวกัน
วัฒนธรรมพื้นฐานที่คล้ายคลึงกัน
ภาษาที่คล้ายคลึงกัน
คอร์ช เวลส์
หลักฐาน
ลักษณะใกล้เคียงกับกระโหลกศรีษะของคนไทยปัจจุบัน
แนวคิดของพอล เบเนดิคท์ อาศัยหลักฐานทางภาษาศาสตร์
แนวคิดนี้ในปัจจุบันยังไม่ถือว่าเป็นข้อยุติ
พอล เบเนดิกต์
สรุป: ถิ่นเดิมของไทยน่าจะอยู่ในดินแดนประเทศไทย
ค้นคว้าเรื่องเผ่าไทยโดยอาศัยหลักฐานทางภาษาศาสตร์
3.เสฉวน
ผู้เสนอแนวคิด
สมเด็จ ฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
หลักฐานสนับสนุน
คนไทยน่าจะอยู่แถบดินแดนทิเบตต่อกับจีน
หลวงวิจิตรวาทการ
หลักฐานสนับสนุน
หนังสืองานค้นคว้าเรื่องชนชาติไทย
หลักฐานจดหมายเหตุของจีน
แตร์รีออง เดอ ลาคูเปอรี
หลักฐานสนับสนุน
ความคล้ายคลึงกันทางภาษา บันทึกของจีน
.พระบริหารเทพ-ธานี หลักฐาน
หลักฐานสนับสนุน
หลักฐาน พงศาวดารไทย
แนวคิดในปัจจุบัน
เป็นจำนวนมากปรากฏว่าสมมติฐานดังกล่าวไม่น่าจะเป็นไปได้ ทำให้แนวความคิดที่ว่าคนไทยมีถิ่นฐานเดิมอยู่บริเวณมณฑลเสฉวนของจีน ไม่ได้รับการยอมรับอีกต่อไป
การศึกษาค้นคว้าทางด้านมานุษยวิทยาการศึกษาภาษาศาสตร์รวมทั้งการตรวจสอบหลักฐานจดหมายเหตุของจีน
2.ยูนนาน
ผู้เสนอแนวคิด
อาร์ชิบัลด์ รอสส์ คอลูน
หลักฐานสนับสนุน
แนวคิดในบทความเรื่อง Across Chryse
มีภาษาพูดและความเป็นอยู่คล้ายคลึงกัน 🤏🏻🗣
แนวคิดของอาร์ซิบัลด์ รอสส์ คอลลูน
มีกลุ่มชนชาติไทยอาศัยอยู่บริเวณตอนใต้ของจีน🇨🇳🇨🇳
อี.เอช.ปาร์เกอร์
หลักฐานสนับสนุน
ตำนานของจีนตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์
แนวคิดของอี.เอช.ปาร์เกอร์
พุทธศตวรรษที่ 13 ชนชาติไทยได้ตั้งอาณาจักรน่าเจ้าที่มณฑลยูนนาน
ลูกจีนรุกรานถอยร่นลงมาทางตอนใต้ของจีน ⚔️
ศาสตราจารย์โวลแฟรม อีเบอร์ฮาร์ด
หลักฐานสนับสนุน
เสนอแนวคิดไว้ในหนังสือชื่อ A History of china
แนวคิดของศาสตราจารย์โวลแฟรม อีเบอร์ฮาร์ด
ชนเผ่าไทยอยู่ในบริเวณดินแดนในอ่าวตังเกี๋ย 🧝🏻♀️🏝
สร้างอาณาจักรเทียนที่มณฑลยูนนาน ซึ่งตรงกับสมัยราชวงศ์ฮั่นของจีน
เฟรเดอริค โมตะ
หลักฐานสนับสนุน
พวกที่ปกครองน่านเจ้าคือพวกไป๋ และพวกยี๋ คนไทยที่น่านเจ้าเป็นชนกลุ่มน้อยกลุ่มหนึ่ง แต่มิได้อยู่ในชนชั้นปกครอง👮🏻♀️
แนวคิดของ เฟรเดอริค โมตะ
ถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ในบริเวณตอนใต้ของจีนและบริเวณต่อเนื่องกับเขตแดนของเวียดนาม
จิตร ภูมิศักดิ์
หลักฐานสนับสนุน
งานเขียนความเป็นมาของคำสยามไทย ลาว และขอม 📝
งานเขียนลักษณะทางสังคมและยึดชนชั้น🖍
แนวคิดของจิตร ภูมิศักดิ์
คนไทยอาศัยอยู่กระจัดกระจายในบริเวณทางตอนใต้ของจีน และบริเวณภาคเหนือของไทย ลาว เขมร พม่า และรัฐอัสสัมของอินเดีย 🇱🇦🇰🇭🇲🇲🇮🇳
ขจร สุขพานิช
หลักฐานสนับสนุน
ถิ่นกำเนิดของไทยอยู่บริเวณทางตอนใต้ของจีนแถบมณฑลกวางตุ้งและกวางสี ต่อมาได้อพยพลงมาทางตะวันตก🚘
แนวคิดของขจร สุขพานิช
🥬คนไทยมีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ของจีนแถบมณฑลกวางตุ้ง กวางสี
พระยาประชากิจกรจักร
หลักฐานสนับสนุน
📚✍️ได้เรียบเรียงลงในหนังสือ
วชิรญาณ เรื่องพงศาวดารโยนก
🔍📜ค้นคว้าจากเอกสารทั้งไทยและต่างประเทศ
แนวคิดของพระยาประชากิจกรจักร
ถิ่นกำเนิดเดิมของชนชาติไทยอยู่ทางตอนใต้ของจีน🇨🇳
แนวคิดในปัจจุบัน
เป็นแนวคิดที่เชื่อว่าคนไทยเป็นกลุ่มคนที่ใช้ภาษาตระกูลไท
มีหลักฐานในสาขาต่างๆมาสนับสนุนเป็นจำนวนมาก 💀🕵🏻♂️🧬
เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของคนไทยอยู่กระจัดกระจายทั่วไป ในบริเวณทางตอนใต้ของจีน ภาคเหนือของเวียดนาม ไทย ลาวพม่า และรัฐอัสสัมของอินเดีย🛖👨👧👦
4.คาบสมุทรมลายู
นายแพทย์ประเวศ วะสี
หลักฐานสนับสนุน
พบมากในแถบเอเชียอาคาเนย์ (ไทย ลาว พม่า มอญ) ไทยฝั่งอีสานพบมาก แต่จีนแทบไม่มีฮีโมโกบินนี้่เลย
ศึกษาฮีโมโกบิล
ดร.ถาวร วัชราภัย
หลักฐานสนับสนุน
ทำการวิจัยเปรียบเทียบกลุ่มเลือดคนไทดำ ชาวผู้ไท เขมร มาเลย์และจีน
สรุปได้ว่า คนไทดำและผู้ไทมีลักษณะเลือดใกล้เคียงกับคนจีน และคนเขมรมีลักษณะเลือดใกล้เคียงกับคนมาเลย์
นายแพทย์สมศักดิ์ พันธ์ุสมบุญ
หลักฐานสนับสนุน
วิจัยเกี่ยวกับหมู่เลือดและยีน
พบว่าหมู่เลือดคนไทยคล้ายกับชาวเกาะชวาที่อยู่ตอนใต้มากกว่าชาวจีน
จากงานวิจัยสรุปได้ว่า คนไทยมิได้สืบเชื้อสายจากคนจีน
น.ส.อรกานต์ เพชรทอง ม.4/6 เลขที่18
แนวคิดของ นายแพทย์สมศักดิ์
คนไทย คนอินโดนิเซีย (รวมทั้งคนมาเลย์บางเผ่า) คนพื้นเมืองของแหลมอินโดจีน และคนจีนทางตอนใต้ของประเทศจีน อาจเป็นคนพื้นเมืองเดิม ซึ่งตั้งถิ่นฐานบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย อินโดจีนหรือคาบสมุทรมลายูมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว
รูธ เบเนดิกต์ (Ruth Benedict)
หลักฐานสนับสนุน
ยังไม่มีหลักฐานทางด้านภาษาศาสตร์และประวัติศาสตร์ที่แน่ชัดมาสนับสนุน
แนวคิดของ รูธเบเนดิกต์
ชนชาติไทยเป็นเชื้อชาติมลายูได้อพยพจากทางใต้ของแหลมมลายูและหมู่เกาะอินโดนีเซีย
เเนวคิดปัจจุบัน
แนวความคิดนี้ปัจจุบันยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดและยังไม่เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางนัก
หลักฐานที่ใช้ในการสนับสนุนแนวคิดเป็นหลักเฉพาะทางการแพทย์เป็นส่วนใหญ่ ไม่มีความหลากหลายของหลักฐานจึงไม่ค่อยได้รับความเชื่อมากนัก
รัฐโบราณที่อยู่ในดินแดนไทยและพื้นที่ใกล้เคียง
แคว้นหริภุญชัย (รักชนก 35)
เจดีย์กู่กุดหรือวัดจามเทวี (อาทิติยา 34)
เรียกดินแดนนี้ว่า “หนี่หวัง” หมายถึง รัฐที่มีผู้หญิงเป็นกษัตริย์ (อาทิติยา 34)
มีลำพูนเป็นราชธานี และมีลำปางเป็นเมืองรอง (รักชนก 35)
อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี (อาทิติยา 34)
หริภุญชัย แปลว่า อันพระวิษณุเสวยได้ (นภัสสร 36)
ตั้งอยู่ราบลุ่มแม่น้ำปิงตอนบนและที่ราบลุ่มแม่น้ำวัง(ปุณณดาวีร์ 37)
ถูกพระยามังรายตีได้ เมื่อ พ.ศ.1835 (ปุณณดาวีร์ 37)
ตำนานจามเทวีวงศ์ (ปรีณาภา25)
ปกครองแบบราชาธิปไตย (ปรีณาภา25)
ส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท และอีกส่วนนับถือนิกายมหายาน (รักชนก 35)
วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร สันนิษฐานว่าเป็นราชธานีในสมัยนั้น (รักชนก 35)
ตามพรลิงค์ (มาธาวี 29)
พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช (ปิยาพัชร 14)
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร(พชรพร27)
:
ปกครองเเบบราชาธิปไตย ( วรรณรดา 4 )
ภาษาถิ่นใต้ ภาษาบาลีสันสกฤต(พชรพร27)
นับถือพุทธเถรวาท ( วรรณรดา 4 )
แคว้นเก่าแก่ (มาธาวี 29)
รับอิทธิพลมาจากพวกขอญ พวกขอม(พชรพร27)
กำเหนิดตั้งเเต่พุทธศตวรรษที่7-8(ปาลรัศมิ์28)
"ตามพ" เป็นภาษาบาลี แปลว่า ทองแดง ส่วน "ลิงค์" เป็นเครื่องหมายบอกเพศ
(กันติชา 9)
ศูนย์กลางการเผยแพร่พระพุทธศาสนา(ปาลรัศมิ์28)
อารยธรรมอินเดีย (มาธาวี 29)
นครศรีธรรมราช(มาธาวี29)
ปรากฏบนจดหมายเหตุจีน(ปุณณดาวีร์ 37)
เหมาะแก่การค้าขาย (ปุณณดาวีร์ 37)
มีบริเวณแหลมมลายู (ปุณณดาวีร์ 37)
ลัทธิลังวงศ์และศิลปะแบบลังกาเข้ามาเผยแผ่
และฝังรากลึกอยู่ในอาณาจักร(ภัสพร20)
เอกสารอินเดียโบราณเรียกชื่อว่า”ตมลิง” “ตัมพลิงค์” เอกสาร จีนสมัยราชวงศ์ถังเรียกว่า “ถ่ามเหร่ง ”สมัยราชวงศ์ซ่งเรียกว่า“ต่านหม่าลิ่ง ”(ภัสพร20)
ศรีวิชัย (อาทิอร 7)
พระพุทธรูปปางนาคปรกสำริด (อาทิอร 7)
เจดีย์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร (นภัสสร36) :
หรืออาณาจักรศรีโพธิ์ (กีรติ21)
มีศูนย์กลางอยู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี(คุณากร 3)
พระบรมธาตุไชยา(คุณากร 3)
การปกครองแบบราชาธิปไตย(โชติกา 40)
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
(ชนาภัทร 1)
นับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน (วรินยุพา32)
เป็นศูนย์กลางการค้า (วรินยุพา32)
ศิลปกรรมได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียสมัยสมัยราชวงศ์คุปตะราชวงศ์ปาละ–เสนะ
(ชนาภัทร1)
ก่อตั้งโดยราชวงศ์ไศเลนทร์ (ปุณณดาวีร์ 37)
"ศรีวิชเยนทรราชา" แปลว่า พระเจ้ากรุงศรีวิชัย(ปุณณดาวีร์ 37)
มีการติดต่อค้าขายกับตะวันตก(ปุณณดาวีร์ 37)
วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร (วรินยุพา32)
ขอม(กุลลดา 33)
นับถือฮินดูและพุทธมหายาน (กุลลดา 33)
เมืองศรีเทพ (นาตาชา 30)
รู้ได้ว่ามาจากเขมร (กุลลดา 33)
ไม่เชื่อในชนชาติ (กุลลดา 33)
ขอมเป็นชื่อวัฒนธรรม (กุลลดา 33)
วัฒนธรรมจากชมพูทวีป (กุลลดา 33)
ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา (กุลลดา 33)
ขอม สัญนิษฐานว่ามาจากคำว่า “เขมร”+”กรอม” (จิรัญญา26)
ใช้ภาษาเขมรสื่อสาร
ในชีวิตประจำวัน (จิรัญญา26)
ศูนย์กลางขอมครั้งแรกอยู่ที่รัฐละโว้ (ลพบุรี) ต่อมาย้ายลงไปอยู่ที่อโยธยาศรีรามเทพ (ต่อไปคือกรุงศรีอยุธยา) แล้วถูกขยายสมัยหลังไปอยู่กัมพูชา (จิรัญญา26)
ศิลปกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ (กุลลดา 33)
ปราสาทขอม (กุลลดา 33)
ล้านนา (นาตาชา30)
วัดโลกโมฬี (นัชชนันท์ 16 )
วัดเจ็ดยอด ที่สร้างในรัชกาลพระเมืองแก้ว (สิรดนัย 41)
ปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราช
มีกฎหมายปกครองเรียกว่า มังรายศาสตร์
(เมศินี39)
สิบสองปันนา(เมศินี 39)
ล้านนา หมายถึง ดินแดนที่มีนานับล้าน หรือมีที่นาเป็นจำนวนมาก (นาตาชา 30)
ศูนย์อยู่ที่เมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
(จังหวัดเชียงใหม่) (ชนาภัทร 1)
มีภาษา ตัวหนังสือ วัฒนธรรม และประเพณีเป็นของตัวเอง(ปุณณดาวีร์ 37)
ภาคเหนือของประเทศไทย (ผ่องศรี22)
ละโว้ (สาวิตรี 31)
ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีแม่น้ำสำคัญ 3 สาย ( อติภาพร 2 )
แม่น้ำเจ้าพระยา ( อติภาพร 2 )
แม่น้ำลพบุรี ( อติภาพร 2 )
แม่น้ำป่าสัก ( อติภาพร 2 )
ชื่อเก่าเมืองลพบุรี (สาวิตรี 31)
รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากเขมร ( นพกร 17 )
อาชีพสำคัญ คือ การเกษตร ( อติภาพร 2 )
พระปางค์สามยอด (สาวิตรี 31)
ปราสาทหรือปรางค์มีทั้งที่สร้างด้วยอิฐ ( บุญญากร 10 )
เทวรูปพระโพธิ์สัตว์อวโลกิเตศวร (ณัฐธิดา 6)
พงศาวดารโยนก (สิริกาญจน์ 38)
ศตวรรษที่ 17 ได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองอโยธยา (อาทิตยา 5)
พุทธศตวรรษที่17-19 เรียกละโว้ว่า “เมืองหลอหู”(อาทิตยา 5)
โยนกเชียงแสน(สริณญา 15)
เเหล่งกำเนิดสกุลช่างเชียงเเสน⛏️(อัจฉริยา 42)
ล่มสลายเพราะเกิดเเผ่นดินไหว(อัจฉริยา 42)
ตั้งอยู่เเถบลุ่มเเม่น้ำกก(อัจฉริยา 42)
ตำนานสิงหนวัติ(อารีนา 11)
อำเภอเชียงแสน(สตบงกช 13)
พระพุทธรูปศิลปะเชียงเเสน
(วรรณรดา 4)
ตั้งขึ้นเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 14 (นรกมล24)
โบราณสถานวัดป่าสัก(ปุณณดาวีร์ 37)
พระพุทธรูปศิลปะสมัยเชียงแสนปางมารวิชัย
(อาทิตยา 5)
รัฐโคตรบูรณ ( ชนกนันท์ 19 )
หรืออาณาจักศรีโคตรบูรณ์(กีรติ21)
ศาสนา(นาโอริ8)
นับถือพระพุทธศาสนา(นาโอริ8)
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู(นาโอริ8)
ศาสนาผีแถน-ผีบรรพบุรุษ(นาโอริ8)
นับถือลัทธินาค(นาโอริ8)
ลุ่มแม่น้ำโขง(กีรติ21)
ที่มาของจังหวัดนครพนม(กีรติ21)
อักษรปัลลวะ(กีรติ21)
พระธาตุพนม(กีรติ21)
ระบบราชาธิปไตย(ปวันรัตน์ 44)
เมืองหลวงตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ําโขง
คือเมืองท่าแชกของลาว(ภัสพร20)
เรื่องราวของอาณาจักรปรากฏอยู่ใน “ตํานานอุรังคธาตุ ”
ที่กล่าวถึงความเป็นมาของชุมชนในอาณาจักร(ภัสพร20)
อาณาจักรโบราณทางภาคอีสานของไทย(ณัฐธิดา6)
สุโขทัย ( ชานัฐญาดา 12 )
พระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ (พิรดา 23)
ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม(กีรติ21)
มีอายุราวประมาณ215ปี(วรรณรดา 4)
ศิลาจารึกหลักที่1(พิรดา 23)
ที่ราบลุ่มแม่น้ำยม(กีรติ21)
อาชีพหลัก คือ เกษตรกรรม(พิรดา23)
วัดพระพายหลวง ศูนย์กลางสุโขทัยสมัยแรก(พิรดา 23)
คำว่า "สุโขทัย" มาจากสองคำ คือ "สุข+อุทัย" หมายความว่า "รุ่งอรุณแห่งความสุข" (ปรีณาภา25)
ระยะเเรกปกครองแบบ พ่อปกครองลูก (พิรดา 23)
ผู้เสนอแนวคิด
ร