Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Metabolism and Body Temperature - Coggle Diagram
Metabolism and
Body Temperature
สัญญาณชีพ
(Vital signs)
สัญญาณชีพเป็นกลุ่มของอาการแสดงสำคัญที่บ่งบอกถึงสถานะของกระบวนการที่ทำให้ร่างกายมีชีวิตอยู่ได้ ค่าปกติของสัญญาณชัพของแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันไปตามอายุ เพศและสุขภาพโดยรวม
ผู้ชาย
อัตราชีพจร
(Pulse)
60-90 beats/min
อัตราการหายใจ
(Respiratory rate)
18-30 breaths/min
ความดันโลหิต
(Blood pressure)
97-112/57-71 mm/Hg
อัตราการหายใจ
(Respiratory rate)
97.8-99 ํF
ผู้หญิง
ความดันโลหิต
(Blood pressure)
<120/80 mm/Hg
อัตราชีพจร
(Pulse)
50-70 beats/min
อัตราการหายใจ
(Respiratory rate)
12-18 breaths/min
อุณหภูมกาย(Body temperature)
97.8-99 ํF
เด็ก
อัตราชีพจร
(Pulse)
60-90 beats/min
อัตราการหายใจ
(Respiratory rate)
24-40 breaths/min
ความดันโลหิต
(Blood pressure)
95-105/53-66 mm/Hg
อัตราการหายใจ
(Respiratory rate)
97.8-99 ํF
อุณหภูมิกาย(Body temperature)
อุณหภูมิแกนกลาง (Core temperature) อุณหภูมิอยู่ที่ 36.5-37.5 ํC จะมี Thermoregulatory system เป็นระบบความคุมอุณหภูมิแกนกลางให้อยู่ในช่วงนี้
อุณหภูมิผิว (Shell or Skin temperature)
อุณหภูมิจะอยู่ที่ 36.6-37.0 ํC
-แปรผันได้มากกว่าอุณหภูมิแกนกลาง
-โดยทั่วไปจะมีค่าน้อยกว่าCore temperature
-ผิวเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนความร้อนกับสิ่งแวดล้อม
การวัดอุณหภูมิร่างกาย(The measurements of body temperature)ปรอทวัดไข้ (Thermometer) โดยใช้แบบหลอดแก้ว
EAR ค่าที่วัดได้จะต้อง +0.5 °C (1 - 2 °F) vs Rectal temp
RECTAL ค่าที่วัดทีความแน่นอนและแม่นยำมากที่สุดจึงให้เป็นค่าในการอ้างอิง
ORAL ค่าที่วัดได้จะต้อง + 0.5 °C (1 - 2 °F) vs Rectal temp
AXILLARY ค่าที่วัดได้จะต้อง + 1 °C (2 -4 °F) vs Rectal temp
ปัจจัยที่มีผลต่ออุณหภูมิ(Factors affecting normal body temperature)
อุณหภูมิร่างกายปกติมีความผันแปรไม่เกิน 1 °C ยกเว้นมีไข้หรือออกก าลังกายหนักๆ
ปัจจัยที่มีผลต่อการผันแปรของอุณหภูมิกายปกติ
ช่วงระยะเวลาของการมีประจ าเดือน (Phase of menstrual cycle)
อัตราการเมตาบอลิซึม (Metabolism rate)
การเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาระหว่างวันหรือนาฬิกาชีวภาพ
(Dailycycle : Circadianrhythm)
4.ระบบการควบคุมอุณหภูมิของสมอง(Temperature-regulating center)
ช่วงระยะเวลาของการมีประจำเดือน (Phase of menstrual cycle)
Progesteroneโปรเจสเตอโรน หรือ Progesterone เป็น
ฮอร์โมนเพศหญิงที่สร้างจากรังไข่และจากรก(ในขณะคั้วครรภ์)โดยมีต่อมใต้สมองและสมองไฮโปทาลามัสทำหน้าที่ควบคุมการทำงานพื้นฐานของร่างกายรวามทั้งอุณหภูมิร่างกายโดยโปรเจสเตอโรน มีผลให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น
การเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาระหว่างวันหรือนาฬิกาชีวภาพ (Daily cycle : Circadian rhythm)
อัตราการเมตาบอลิซึม (Metabolism rate)
Metabolism rate (MR)
Energy output = External work + Energy storage + Heat
ระบบการควบคุมอุณหภูมิของสมอง(Temperature-regulating center)
Hypothalamic thermostat
ปกติจะตั้ง Set point temp. ไว้ที่37°C
การสมดุลความร้อน(Heat balancing)
Hyperthermia →High body temperature
Heat production > Heat loss
Hypothermia →Low body temperature
Heat production < Heat loss
Heat balancing →Normal body temperature
Heat production = Heat loss
Internal heat production
เป็ นแหล่งพลังงานความร้อนที่ส าคัญที่สุดของร่างกาย
Heat input
Core temperature
Total body heat content
Heat output
External environment
การผลิตความร้อนจากภายในร่างกาย
(Internal heat production)
Metabolism rate
• Emotion: Epinephrine secretion↑, Muscle tone↑
• Foodintake : MR↑: SDA มีผลประมาณ 6 ชั่วโมง หลังการรับประทานอาหาร
• Activity: Muscle contraction ↑, MR↑ เพื่อเพิ่มการผลิตพลังงาน
• Atmospheric temp.: U shape
SDA: Specific dynamic action การย่อย ดูดซึม ขนส่ง ใช้หรือเก็บสารอาหาร
• Basal metabolism rate
Age : Children > Elderly
Sex : Male > Female
Surface area มาก → BMR มาก
Extra Metabolism
• Shivering thermogenesis (Core temp. ≤ 35.5 °C )
อยู่ในที่เย็นจัด→อาการหนาวสั่นจากการหดตัวเป็ นจังหวะถี่ๆ ของกล้ามเนื้อโครงร่าง,อยู่นอกเหนืออำนาจจิตใจ→ผลิตความร้อน ↑
• Brown adipose tissue(จะถูกสลายมาใช้เวลาหนาว จะไม่เกิดการ Shivering)
❖ Sympathetic nerves : Norepinephrine (NE), Epinephrine (E)
❖ Mitochondria
❖ Blood vessels
• Hormones
❖ ฮอร์โมน Catecholamine (NE, E) ถูกนำมาใช้เพื่อตอบสนองระยะสั้น
❖ ฮอร์โมน Thyroxine ถูกนำมาใช้เพื่อตอบสนองในระยะยาว 1-3 สัปดาห์
สิ่งแวดล้อมภายนอก
(External environment)
Heat loss from internal organs (การระบายความร้อนจากอวัยวะภายใน)
• Major sit of heat production →Rest of the body
❖Conduction การน าความร้อนจากอวัยวะหนึ่งไปยังอวัยวะหนึ่ง
❖Convection การพาความร้อนไปกับเลือด
• Core →Skin
กลไกการน าความร้อนออกจากร่างกาย (Mechanisms of heat transfer)
การระเหย 22 %
การน าความร้อน 18 %
การแผ่รังสี 60 %
การพาความร้อน 15 %
การควบคุมอุณหภูมิร่างกาย(Thermoregulatory system)
สิ่งเร้า (Stimuli)ความร้อน/ความเย็นจากภายนอกภายในร่างกาย
ตัวรับอุณหภูมิ(Thermoreceptors)
Central or Core thermoreceptors
• Cold-sensitive neurons; อุณหภูมิโดยรอบที่เย็น
• Heat-sensitive neurons; อุณหภูมิโดยรอบที่ร้อน
Deep body temp. receptor -Spinal cord, Abdominal viscera, Around the Great vein
Expose to the body core temp.
Peripheral or Cutaneous thermoreceptors
• Cold thermoreceptors;อุณหภูมกระตุ้นอยู่ที่ 12-32 ํC ผ่านAδ small myelinated fiber
• Warmth thermoreceptors ;อุณหภูมกระตุ้นอยู่ที่ 30-34 ํC ผ่านC unmyelinated fiber
หน่วยปฏิบัติการที่ทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย(Thermoregulatory system)
การไหลเวียนเลือดใต้ผิวหนัง(Cutaneous bloodvessels)
กล้ามเนื้อลาย (Skeletal muscle)
ต่อมเหงื่อ(Sweat gland)
ต่อมไร้ท่อ(Endocrine gland) : ต่อมไทรอยด์(Thyroid gland), ต่อมหมวกไต (Adrenal gland)
ระบบที่ตอบสนอง
Somaticnerve
Hormone
Autonomic nerve
Behavior
Heat loss ↑
❖ Change position and Clothing
❖ Air current ↑
❖ Sweating ↑
❖ Respiration ↑
❖ Cutaneous vasodilation
หน่วยปฏิบัติการตอบสนองต่อความร้อน (Response to Heat)
Heat production ↓
❖ Apathy เฉื่อยชา, เคลื่อนไหวลดลง
❖ Thyroid secretion ↓
❖ Anorexiaลดความอยากอาหาร
หน่วยปฏิบัติการตอบสนองต่อความเย็น (Response to Cold)
Heat loss ↓
❖ Piloerection ขนลุก
❖ Curling up ขดตัว
❖ Cutaneous vasoconstriction
Heat production ↑
❖ Voluntary activity ↑
❖ NE, E, Thyroxine secretion
❖ Shivering thermogenesis
(Core temp. ≤ 35.5 °C)
❖ Hungerอยากอาหาร
ความผิดปกติของการควบคุมอุณหภูมร่างกาย(Abnormalities of body temperature regulation)
อุณหภูมิกายสูง(Hyperthermia) อุณหภูมิกายอยู่มากกว่า 37.5 ํC
• Heat exhaustion พบในคนที่อยู่ในที่ร้อน ออกกำลังกายรุนแรงหรือนานในที่อากาศร้อนชื้น
เหงื่อออกจำนวนมาก → ร่างกายขาดน้ำ, ความดันโลหิตต่ำ, หัวใจเต้นเร็วขึ้น
• Heat stroke (อุณหภูมิกายอยู่มากกว่า 40.5 ํC)จนท าให้ระบบประสาทเสียหาย เช่น ในคนที่ได้รับยาขับปัสสาวะ เป็นต้นอาการ: อาเจียน, ปวดหัว, สับสน, กระสับกระส่าย, หมดสติ, ช็อค
• Heat syncope (ลมแดด)
พบในคนที่ยืนนิ่ง ๆ นาน ๆ กลางแดด → Venous return ↓
• Fever หรือ Pyrexia (ไข้)
• เกิดจากสารก่อไข้ (Pyrogens)
• Prostaglandin E2จาก BacteriaและInflammatory processมีผลท าให้Hypothalamus →ปรับ Set point ของอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น
• Core temp.>37.5 °C โดยไม่เกี่ยวข้องกับการท างานหรือออกกำลังกาย
Rising phase ระยะเริ่มไข้ขึ้น (หนาวสั่น, ผิวซีด, เส้นเลือดที่ผิวหนังหดตัว)
Plateau phase ระยะไข้ทรง(ไข้สูง, หน้าแดง, ตัวแดง, ไม่มีเหงื่อ)
Defervescence ระยะสร่างไข้ (เหงื่อออก)
อุณหภูมิกายต่ำ(Hypothermia) อุณหภูมิกายอยู่ต่ำกว่า 35 ํC
• Moderate (28 -32 °C )Shivering↓, Metabolism↓, ความดัน↓, การเต้นของหัวใจ↓, หารหายใจ↓,ไม่มีสติ(Unconscious)
• Severe (< 28 °C ) หัวใจหยุดเต้น, เซลล์ตาย
• Mild (32 -35 °C )
Shivering, Cutaneous vasoconstriction