Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบสร้างเสริมสุขภาพของประเทศไทย - Coggle Diagram
ระบบสร้างเสริมสุขภาพของประเทศไทย
พัฒนาการสร้างเสริมสุขภาพในระดับสากลที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์ในประเทศไทย : จากออตตาวา ถึงกรุงเทพฯ สู่ในโรบี เคนยา
1.1 ออตตาวา แคนาดา จุดเริ่มต้นารสาธารณสุขแนวใหม่
กลยุทธ์การสร้างเสริมสุขภาพ 5 ประการ ได้แก้
สร้างนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ
4.พัฒนาทักษะส่วนบุคคล
สร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ
เสริมสร้างกิจกรรมชุมชนให้เข็มแข็ง
ปรับเปลี่ยนระบบบรการสาธารณสุข
1.2 นโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ จากข้อเสนอแนะแอดีเลด
นโยบายสาารณะทุกด้านจะต้องมีการประกาศชัดแจ้งเพื่อแสดงเจตจะนงในการสร้างเสริมสุขภาพ
การเสริมสร้างสิงแวดล้อมทั้งทางสังคมและทางกายภาพที่เอื้ออำนวยให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตที่มีสุขภาพดี
การดำเนินกลยุทธ์สร้างเสริมสุขภาพโดยการสร้างนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ
ปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพคือความรับผิดชอบของรัฐบาลที่มีต่อสุขภาพภาครัฐทั้งในส่วนเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชย์ ปละคมนาคม
สิ่งท้าทายสำหรับการมุ่งสู้ความสำเสร็จในอนาคตได้แก่ การกระจายทรัพยากรอย่างเป็นธรรม การสร้างแลคงไว้๙ึ่งสภาพความเป็นอยู่และการทำงานที่เอื้อต่อสุขภาพ
1.3 ค่าประกาศซันด์สวาล์เรื่อง "ศสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต้อสุขภาพ"
สิ่งแวดล้อม
มิติของสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ
การดำเนินกลยุทธ์สร้างเสริมสุขภาพเพื่อมู่งสู่การมีสุขภาพดีถ้วนหน้าจะต้องสะท้อนหลักพื้นฐาน
1.4 การสร้างเสริมสุขภาพสู่ศตววษที่ 21
การสร้างเสิมสุขภาพเป็นที่ยอมรับมากขึ้นว่าสามารถพัฒนาและเปลื่ยนแปลงวิธีชีวิต สภาวะทางสังคม เศรษกิจรวมถึงสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ
การดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพควรผนวกกลยุทธ์
ปัจจัยกำหนดสุขภาพ (Social Determinant of Health - SDH) มีความผันแปรแปลียนไปตามสถานการณ์แวดล้อม
การสร้างเสริมสุขภาพในศตววษที่ 21 นอกจากจะต้องการรูปแบบการปฏิบัติใหม่ๆ
1.5 คำประกาศการสร้่งเสริมสุขภาพเพื่อ "ลดความไม่เป็นธรรม"
การสร้างเสริมสุขภาพมิใช่การบริการที่จัดให้แก่ประชาชน
บทหนทางที่จะนำไปสู่การร้างเสริมสุขภาพที่บรรลุผลสำเสร็จอย่างยั่งยืน
การสร้างทักษะและกิจกรรมทางการเมืองในการเสริมสุขภาพ
1.6 กฏบัตรกรุงเทพเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพในยุคโลกกาภิวัตน์
การสร้างเสริมสุขภาพในยุคปัจจุบันจะต้องคำนึงถึงปัจจัยกำหนดสุขภาพใหม่ๆ
ทุกภาคคส่วนและทุกพื้นที่จะต้องร่วมมือกันดำเนินการเพื่อกลยุทธ์การส้างเสริมสุขภาพให้ก้าวหน้าต่อไปทั้งนี้
1.7 สู่ปฏิบัติการใหม่เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ
ระหว่าง 26-30 ตุลาคม พ.ศ.2552 ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกได้จัดให้มีการประชุมนานาชาติเรื่องการสร้างเสริมสุขภาพอีกครั้งที่กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ีผู้เข้าร่วมประชุมว่า 500 คน จาก 102 ประเทศทั่วโลก นับเป็นการประชุมครั้งที่ 7 ซึ้งเกิดขึ้นในช่วงเวลาของการเริ่มต้นทศวรรที่สามแห่งการสร้างเสริมสุขภาพในระดับสากล
2.พัฒนาการของการสร้างเสริมสุขภาพในประเทศไทย
2.1 การสร้างเสริมสุขภาพก่อนยุคสาธารณสุขมูลฐาน
2.2 การสร้างเสริมสุขภาพในการเคลื่อนไหว "สาธารณสุขมูลฐาน" และ "สุขภาพดีถ้วนหน้า"
2.3 การประยุกต์ใช้กฏบัตรออตตาวา
2.4 ทศวรรษ 2540 ถนนสายหลักสู่การสร้างเสริมสุขภาพ
2.5 การปฏิรูประบบสุชภาพ
2.6 การเกิดขึ้นของ สสส.
2.7 กองทุนสุขภาพชุมชน
2.8 ธรรมมูญว่าดวยระบบสุขภาพแห่งชาติ ภาพฝันอนาคต
การปรับตัวใหม่ของการสร้างเสริมสุขภาพในอนาคต
3.1 โลกาภิวัตน์กับการเปลี่ยนแปลงทางปัญหาสุขภาพของประชากร
3.2 การเปลื่ยนแปลงของบริการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองที่จะมีผลต่อวิถีชีวิตและภาวะสุขภาพของคน