Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Thalassemia in pregnancy, รูปภาพ1, รูปภาพ2, รูปภาพ3, รูปภาพ4, :explode:…
Thalassemia in pregnancy
การตรวจคัดกรอง
OF +
พาหะเบต้าธาลัสซีเมีย (B0/B)
พาหะอัลฟ่าธาลัสซีเมีย (- / α α alpha thalassemia I trait)
DCIP +
พาหะฮีโมโกลบินอี (BE/B)
โรคฮีโมโกลบินอี (BE/BE)
. คู่เสี่ยง
คู่ alpha- thalassemia
เป็นคู่เสี่ยงที่ทารกจะเกิดโรคธาลัสซีเมียรุนแรงมาก
α thalassemia I trait และ α thalassemia I trait
คู่ Beta -thalassemia
HbE trait+ Beta trait (BE/B + B0/B)
ทารกในครรภ์เป็นโรค thalassemia รุนแรงปานกลาง
Beta thalassemia /HbE (B0/BE) 1 ใน 4
HbE disease + Beta trait (BE/BE + B0/B)
ทารกในครรภ์เป็นโรค thalassemia รุนแรงปานกลาง
Beta thalassemia /HbE (B0/BE) 2 ใน 4
Beta trait+ Beta trait (B0/B + B0/B)
ทารกจะเกิดโรค ธาลัสซีเมียรุนแรงมาก
Beta thalassemia Homozygous 1 ใน 4
ไม่ใช่คู่เสี่ยง
ไม่เป็นคู่เสี่ยงที่ทารกจะเกิดโรคธาลัสซีเมียรุนแรงปานกลาง หรือรุนแรงมาก
โอกาส
ทารกในครรภ์เป็นโรคไม่รุนแรง 1 ใน 4
พาหะ 2 ใน 4
ปกติ 1 ใน 4
BE/B + BE/B
ชนิดของอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง
โปรตีน
เลือดวัวมี 44.1 มิลิกรัม/ 100กรัม
เลือดหมู 25.9 มิลิกรัม/ 100กรัม
ตับหมู 10.5 มิลิกรัม/ 100กรัม
ไข่แดง 150 มิลิกรัม/ 100กรัม
ผัก
มะเขือพวง 43.0 มิลิกรัม/100กรัม
ผักกรูด 36.3 มิลิกรัม/100กรัม
ถั่วฝักยาว 26.0 มิลิกรัม/100กรัม
ผักแว่น 25.2 มิลิกรัม/100รัม
ถั่วฝักยาว 26.0 มิลิกรัม/100กรัม
โปรตีนที่มี Folic acid
ตับหมู 112 มิลิกรัม/100กรัม
พืชตะกูลถั่ว
ถั่วเขียว 186.40 ไมโครกรัม /100กรัม
ถั่วลิสง 168.89 ไมโครกรัม /100กรัม
ถั่วดำ 230.11 ไมโครกรัม/100กรัม
ชนิดของยาที่มีธาตุเหล็ก และFolic
แนะนำยามีธาตุเหล็ก เช่น วันละ 200 mg หลังอาหาร
แนะนำให้รับประทานยา folic acid 5 mg วันละ 1 เม็ดหลังอาหาร
ยาTriferdine
Iodine 0.15 mg
Ferrous 60.81mg
Folic acid 4 mg
การรักษา
ต้องการอาหารมากกว่าคนปกติ
ควรให้ยาเม็ด Folic acid(5mg.) วันละ1เมด
การให้เลือด
การให้ยาขับธาตุเหล็กออกจากร่างกาย ยาที่ใช้คือ Desferrioxamine
การตัดมาม (Splenectomy)
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
1.ดูแลในคลินิคครรภ์เสี่ยงสูง
2.แนะนำและให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะโลหิตจางธาลัสซีเมีย
3.แนะนำการพักผ่อนอย่างเพียงพอและการทำกิจกรรมต่างๆได้ปกติ ยกเว้นเมื่อทำแล้วรู้สึกเหนื่อย
4.แนะนำเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และอาหารที่ควรรับประทานสำหรับผู้ที่เป็นโลหิตจาง
5.แนะนำให้ประเมินอัตราการดิ้นของทารก
6.แนะนำวิธีการป้องกันการติดเชื้อต่างๆ เช่น การติดเชอทางเดินปัสสาวะ
7.รักษาระดับฮีโมโกลบินให้อยู่ 7-10 g/dL ในรายที่ซีดมากอาจจำเป็นต้องให้เลือด
8.ระยะที่โลหิตจางมากควรตรวจสุขภาพทารกในครรภ์และเฝ้าระวังภาวะ IUGR
9.ในรายที่มีภาวะ Hydrop fetalis ให้ยุติการตั้งครรภ์โดยเร็ว
10.ให้ธาตุเหล็กเสริมตามปกติ และให้ folic acid 5 mg./day
11.ให้เลือดเพื่อรักษาระดับ Hb ให้อยู่ระดับ 7-10 g/dL
ระยะคลอด
1.ให้นอนพักบนเตียงในท่านอนศีรษะสูง เพื่อลดการทำงานของหัวใจและลดอัตราการใช้ออกซิเจน
2.ดแลให้ได้รับสารน้ำและสารอาหารตามแผนการรักษา
3.ตรวจประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
4.ประเมินความก้าวหน้าของการคลอด
5.ประเมินสภาวะทารกในครรภ์
6.ดูแลการบรรเทาความเจ็บปวด เช่น การนวด และการหายใจ
7.ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
8.เตรียมช่วยเหลือการคลอด
ระยะก่อนตั้งครรภ์
ให้คำปรึกษาด้านพันธุกรรมแก่รายที่มีความเสี่ยงต่อการมีบุตรเป็น Thalassemia
การวินิจฉัยโรค และการประเมินอัตราเสี่ยง
การให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคและอัตราเสี่ยง
การให้ข้อมูลเกี่ยวกับทางเลือก เพื่อหลีกเลี่ยงการมีบุตรเป็นThalassemia
ระยะหลังคลอด
1.เฝ้าระวังการตกเลือดหลังคลอด จากการประเมินอาการและอาการแสดงของการตกเลือด
2.ดูแลใหได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกเพื่อป้องกันการตกเลือด
3.ดูแลให้มารดาหลังคลอดพักผ่อนอย่างเพียงพอ
4.แนะนำเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่มี folic acid และมีโปรตีนสูง
5.ดูแลป้องกันการติดเชื้อหลังคลอด เช่น การล้างแผลฝีเย็บ
6.ดูแล breast feeding หลังคลอด
:explode: นางสาวพัชชริกา ปักกะทานัง
เลขที่ 27 รหัสนักศึกษา 6111001402385 :explode: