Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่ 4 - Coggle Diagram
กรณีศึกษาที่ 4
ระบบประสาท
-
Plantar reflex
-
ทารกแรกเกิดร้อยละ 90 ตอบสนองโดยงอะหัวแม่เท้า (flexion) ทารกจำนวนน้อยตอบสนองโดยกาง หัวแม่เท้า (dorsiflexion) ซึ่งเรียกว่า Babinski response
Moro reflex
ทดสอบได้ 3 วิธี
2) ทารกอยู่ในท่าครึ่งครึ่งนอนบนฝ่ามือสองข้างของผู้ตรวจฝ่ามือหนึ่งรองรับศีรษะและหลังอีกฝ่ามือรองรับก้นและขาเปลี่ยนท่าของทารกจากนั่งเป็นนอนราบทันทีทันใดแล้วหยุดทันที
3) ทารกนอนเอนตัวบนฝ่ามือและแขนสองข้างของผู้ตรวจฝ่ามือและแขนรองรับศีรษะหลังกันและขาข้อศอกของผู้ตรวจวางบนที่นอนเหยียดข้อศอกอย่างเร็วเพื่อให้ทารกเอนตัวลง
-
-
Tonic neck reflex
-
ทารกตอบสนองโดยเหยียดแขนและขาไปด้านที่หันหน้าและงอแขนและเข่าด้านตรงข้าม reflex อาจปรากฏตั้งแต่แรกเกิดปกติปรากฏหลัง 2 เดือนและหายไปเมื่ออายุ 6 เดือน
Stepping reflex
ใช้มือประคองที่ได้รักแร้สองข้างและหัวแม่มือประคองด้านหลังของศีรษะยกทารกให้ตัวตั้งตรงให้ฝ่าเท้าของทารกสัมผัสพื้นที่แข็งและโน้มตัวทารกไปข้างหน้า
-
Palmar grasp reflex
วิธีการประเมิน ใช้ปลายนิ้วแตะกลางฝ่ามือของทารกแล้วกดเบาๆ ทารกตอบสนองโดยงอนิ้วมือทุก นิ้วเพื่อกำนิ้วมือของผู้ตรวจ
ทารกที่สุขขภาพดีจะกำแน่นขนาดที่ผู้ตรวจสามารถยกทารกขึ้นจากพื้นที่นอน reflex นี้หายไปเมื่ออมยุ 6-12 สัปดาห์
-
-
ระบบทางเดินหายใจ
- ปัจจัยด้านกลศาสตร์หรือกายภาพ (Mechanic stimulus หรือ Physical stimulus)
เนื่องจากขณะที่ทารกคลอดทางช่องคลอดทรวงอกจะถูกบีบรัดด้วยช่องคลอด ทำให้น้ำคร่ำที่อยู่ในปอดถูกบีบออก เมื่อคลอดออกมาแล้วปอดจะขยายตัวเพื่อกลับคืนสู่สภาพเดิม อากาศจึงแทนที่เข้าไป จึงถือว่าเป็นการหายใจครั้งแรกของทารกแรกเกิด
-
-
-
-
-
-
Vaccine
แรกเกิด
BCG
-
-
ปฏิกิริยาหลังฉีด
ประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะมีตุ่มแดงๆ เกิดขึ้น ตุ่มจะโตขึนช้าๆ กลายเป็นฝีเม็ดเล็ก และมีหัว หนอง แผลนีจะปิดๆ เปิดๆ อยู่ประมาณ 3-4 สัปดาห์แล้วจะแห้งหายไป
การดูแลบริเวณที่ฉีดให้ใช้สำลีชุบน้าต้มสุกที่ทำให้เย็นลงแล้วเช็ดผิวหนังรอบๆ บริเวณที่ฉีดแล้วซับให้แห้ง เตือนผู้ปกครองไม่ให้บ่งตุ่มหนองหรือใส่ยาใดๆ
-
-
-
-
-
การเช็ดตา
เมื่อทารกผ่านช่องทางคลอด อาจทําให้ เชื้อเข้าสู่ตา เกิดตาอักเสบ ถ้ามีเชื้อ GONOCOCCI อยู่หรือเรียกว่า Ophthalmic neonatorum หรือป้องกันการติดเชื้อ หนองใน ถ้ารักษาไม่ทัน อาจทําให้ตาบอดได้
วีธีเช็ดตาที่ถูกต้อง
เช็ดด้วยสำลีชุบ 0.9%NSS โดยเช็ดจากหัวตาไปหางตาและหยอดตาด้วย 0.1% AgNO3 ที่หัวตาข้างละ 1 หยด หลังจากหยอดยา 0.1% AgNO3 แล้วควรเช็ดตาอีกครั้งด้วย 0.9%NSS เพื่อเช็ดเอาน้ำยาที่เกินออก เพราะน้ำยานี้ทำให้ระคายเคือง ผิวหนังและตรวจดูยาที่หยอดต้องไม่เป็นขุ่นหรือหมดอายุ
-
การเช็ดสะดือ
การเช็ดสะดือ ด้วยสําลี alcohol หรืออาจจะใช้เป็น 0.5% tincture iodine in 70% alcohol เพื่อป้องกัน การติดเชื้อในกระแสเลือดได้ เนื่องจาก เชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดทางสายสะดือได้
-
วิจัยที่เกี่ยวข้อง
-
- จากวิจับพบว่า การใช้น้ำนมแม่ดูแลสายสะดือทำให้สะดือหลุดได้เร็ว และลดการติดเชื้อที่สายสะดือได้ด้วย
-
- จากวิจัยพบว่า มารดามีการใช้คลอเฮกซิดีน ในการดูแลทารกน้อย ดังนั้นจากงานวิวัยจึงส่งเสริมให้มารดาดูแลสายสะดือทารกด้วยคลอเฮกซิดีนตาม WHO แลกกระทรวงสาธารณสุข
-
APGAR SCORE
-
ทารกในกลุ่มนี้ถือว่าปกติ ไม่ต้องให้การช่วยเหลือพิเศษใดๆ นอกจากสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งและให้ความอบอุ่นแก่ทารกก็เพียงพอแล้ว
ระบบขับถ่าย
ทารกแรกเกิดปกติจะถ่ายขี้เทา (Meconium) ภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าไม่ถ่ายอาจเกิดจากการที่รูก้นตัน (Imperforate anus) ประมาณวันที่ 3 หลังเกิดจะมีการถ่ายเป็นสีเหลืองปนเทา (Transitional stool) ประมาณวันที่ 4 หลังเกิดจึงจะมีลักษณะของสีอุจจาระปกติ (True stool) ตามลักษณะของนมที่ทารกได้รับ
ระบบทางเดินปัสสาวะ
ไตของทารกแรกเกิดมีจำนวนโกเมอรูลัส (Glomerulus) เท่ากับผู้ใหญ่ แต่เบสเมนท์ เมมเบรน (Basement membrane) ของหลอดเลือดฝอยที่ไตบางกว่าผู้ใหญ่และจะหนาขึ้นเท่าๆ กับผู้ใหญ่
มารดาตั้งครรภ์แรก G1P0A0 อายุ 16 ปี ไม่ได้ฝากครรภ์ คลอด Normal labor ก่อนคลอดทารก พยาบาลได้ปิดแอร์ในห้องคลอด เวลา 20.35 น. วันที่ 10 กันยายน 2561 เป็นทารกเพศหญิง
-
-
-