Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

CA BOT with Right middle lobe pneumonia with Acute respiratory failure,…

- - - - Order for one day
      - Nss 1000 ml V 100 ml/hr.
      - CBC, BUN, Electrolyte
      - Sputum g/s
      - CXR
      - EKG
      - Cef-3 2 g V หลังเก็บ culture
    - - ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี V/S T 38.4 C P 86 ครั้ง/นาที R 24 ครั้ง/นาที BP 128/96 mmHg Intake/Output 3480/950
        
        ไม่มีการรักษาเพิ่ม
      - 29 ตุลาคม 2564
        
        ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี V/S T 36.8 C P 112 ครั้ง/นาที R 22 ครั้ง/นาที BP 145/105 mmHg Intake/Output 1460/700 On ETT No 7.5 make 21 PCV pi 16 PEEP 5 FiO2 0.6 RR 16 Keep SpO2 95 %
        
        Order for one day
        
        UA
        
        Connect Anes for ETT
        
        CBC, BUN, Electrolyte
        
        CT chest
        
        On ETT No 7.5 make 21
        
        PCV pi 16 PEEP 5 FiO2 0.6 RR 16
        
        NSS 500 ml IV Then NSS 1000 ml IV rate 120 ml/hr
        
        Order for continue
        
        NPO
        
        ceftriaxone 2 g IV OD
        
        Azithromycin 500 mg IV OD
        
        Losec 40 mg IV OD
        
        Thiamine 100 mg IV OD
        
        30 ตุลาคม 2564
        
        Order for one day
        
        On PCV Pi 16 PEEP 5 FiO2 0.6 RR 16 SpO2 95 %
        
        NSS 1000 ml IV 120 ml/hr.
        
        Order for continue
        
        BD (1:1) 200 ml 4 feed น้ำตาม 100 ml.
        
        DTX premeal keep 80-200 mg/dl
        
        Off Cef-3
        
        Tazocin 4.5 g V then 4.5 g V drip q 6 hr.
        
        31 ตุลาคม 2564
        
        Order for one day
        
        On PCV mode Pi 16 PEEP 5 FiO2 0.4 RR 16 SpO2 95 %
        
        NSS 1000 ml V 120 ml/hr.
        
        CBC, BUN, CR, Electrolyte, Lactate, Ca, P
        
        Order for continue
        
        BD (1:1) 400 ml 4 feed น้ำตาม 100 ml
        
        1 พฤศจิกายน 2564
        
        Order for one day
        
        On PCV mode Pi 16 PEEP 5 FiO2 0.4 RR 16 .
        
        Off 0.9% Nacl
        
        Acetar 1000 ml IV 80 ml/hr.
        
        CXR พรุ่งนี้
        
        Morphine 3 mg IV Stat then morphine 20 mg + NSS up to 100 ml (1:5) IV 5 ml/hr.
        
        Order for continue
        
        Thiamine 100 mg IV q 8 hr.
        
        Off Azithromycin
        
        Paracetamol (500) 1 tab pc prn q 6 hr.
        
        2 พฤศจิกายน 2564
        
        Order for one day
        
        6 more items...
        
        Order for continue
        
        1 more item...
        
        การตรวจร่างกาย
        
        10 more items...
        
        ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี V/S T 38.8 C P 102 ครั้ง/นาที R 20 ครั้ง/นาที BP 116/89 mmHg Intake/Output 3000/900 SpO2 95 %
        
        ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี V/S T 38.6 C P 112 ครั้ง/นาที อัตราการหายใจ 31 ครั้งต่อนาที O2 Sat 95% ความดันโลหิตต่ำ 87/48 mmHg Intake/Output 1460/700 SpO2 95 %
        
        ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี V/S T 38.8 C P 106 ครั้ง/นาที R 22 ครั้ง/นาที BP 110/98 mmHg Intake/Output 1360/600
        
        ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี V/S T 37.4 C P 118 ครั้ง/นาที R 20 ครั้ง/นาที BP 136/98 mmHg Intake/Output 1800/800
- - - - วัดสัญญาณชีพทุก 5-10 นาทีในช่วงปรับขนาดยาหลังจากนั้นสังเกตอาการทุก 1 ชั่วโมง จนกระทั่งความดันโลหิตอยู่ในช่วงปกติและคงที่แล้วจึงเปลี่ยนเป็นทุก 2 ชั่วโมงและทุก 4 ชั่วโมงตามลำดับ เพื่อประเมินภาวะช็อคจากการติดเชื้อ โดยมีอาการแสดง คือ สับสนเฉียบพลัน เวียนศีรษะ ปัสสาวะน้อยลง หรือไม่ปัสสาวะ มีปัญหาในการหายใจอย่างรุนแรง พูดไม่ชัด ริมฝีปากเขียวคล้ำ ผิวหนังซีดและเย็น
      - ดูแลให้ได้รับสารน้ำอย่างเพียงพอ ได้แก่ 0.9% NSS 1000 ml rate 80 ml/hr.,5%DN/2 1000 ml IV drip 40 ml/hr. และ Acetar 1000 ml IV rate 80 ml/hr. ตามแผนการรักษาและสังเกตอาการวัดความดันโลหิตซ้ำหลังได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำครบพร้อมรายงานแพทย์ทราบ
      - ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะ Cef-3 ขนาด 2 g IV OD สังเกตผลข้างเคียงจากการ ใช้ยา ได้แก่ ผิวซีด อ่อนเพลีย หายใจถี่ หายใจไม่อิ่มมีไข้ เจ็บคอ หนาวสั่น ผื่นขึ้นตามผิวหนัง หายใจลำบาก หน้าบวม ปากบวม ลิ้นบวม กลืนอาหารไม่ได้ คลื่นไส้ อาเจียน และ Azithromycin 500 mg IV OD สังเกตผลข้างเคียงจากการ ใช้ยา ได้แก่ อาการปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เบื่ออาหาร ปวดท้อง ท้องอืด
      - สังเกตจำนวนปัสสาวะที่ ออกใน 1 ชั่วโมงพร้อมบันทึกจำนวนสารน้ำที่เข้าและออกจากร่างกายทุก 8 ชั่ว โมงถ้าพบปัสสาวะน้อยกว่า 0.5-1 ซี.ซี./ต่อกิโลกรัม/ชั่วโมงพิจารณารายงานแพทย์ทราบ
      - ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ คือ ค่า Lactate, Neutrophil และ WBC Count
  - - - ประเมินภาวะพร่องออกซิเจนจากระดับความรู้สึกตัว ลักษณะการหายใจ อาการหอบเหนื่อย การตรวจสภาพสีผิว ปลายมือปลายเท้า ตรวจวัดสัญญาณชีพทุก 2 - 4 ชั่วโมง O2 sat Monitor เวรละ 1 ครั้ง Keep > 100% และติดตามสภาพผู้ป่วยเพื่อจะได้ให้การพยาบาลผู้ป่วยได้ทันท่วงที
      - ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง โดยการให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง 30 องศา เพื่อให้กะบังลมหย่อน ปอดมีการยืดขยายตัวได้เต็มที่
      - ดูแลให้ผู้ป่วย On Ventilator PCV mode PEEP 7 FiO2 0.4 RR 14 และตรวจสอบตำแหน่งท่อช่วยหายใจ บริเวณข้อต่อของสายไม่ให้มีการหักพับหรืองอ
      - ฟังเสียงปอดเป็นระยะๆ ในขณะที่เหนื่อยหอบ เพื่อประเมินการหดรัดตัวที่ผิดปกติของหลอดลม
      - ดูแลลดูดเสมหะเพื่อให้ทางเดินหายใจผู้ป่วยโล่ง
      - ดูแลพลิกตะแคงตัวบ่อยๆทุก 2 ชั่วโมง เพื่อช่วยในการขับสารคัดหลั่งในท่อทางเดินหายใจปละลดการติดเชื้อในทางเดินหายใจ
      - ทำกายภาพบำบัดทรวงอก (chest physiotherapy) เพื่อให้เสมหะนั้นขับออกมาได้สะดวก
      - ให้การพยาบาลอย่างนุ่มนวล ปลอบโยน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยกับพยาบาล ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยให้ความร่วมมือในการพยาบาลมากขึ้น
      - เตรียมของใช้และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยได้ตลอดเวลาถ้ามีภาวะฉุกเฉิน
      - จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ สะอาด มีอากาศถ่ายเท เพื่อส่งเสริมการพักผ่อน เป็นการลดการใช้ออกซิเจน
  - - - ตรวจวัดสัญญาณชีพ โดยเฉพาะอุณหภูมิร่างกาย ทุก 4 ชั่วโมง ผู้ป่วยมีไข้ อุณหภูมิร่างกายมากกว่า 38.0 องศาเซลเชียส เช็ดตัวลดไข้ เพื่อช่วยให้ความร้อนออกจากร่างกาย
      - ให้ยาลดไข้ Paracetamol ขนาค 500 mg 1 Tab PO prn q 6 hr. ประเมินผลหลังเช็ดตัวลดไข้ 30 นาที
      - ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะ Cef-3 ขนาด 2 g IV OD สังเกตผลข้างเคียงจากการ ใช้ยา ได้แก่ ผิวซีด อ่อนเพลีย หายใจถี่ หายใจไม่อิ่มมีไข้ เจ็บคอ หนาวสั่น ผื่นขึ้นตามผิวหนัง หายใจลำบาก หน้าบวม ปากบวม ลิ้นบวม กลืนอาหารไม่ได้ คลื่นไส้ อาเจียน และ Azithromycin 500 mg IV OD สังเกตผลข้างเคียงจากการ ใช้ยา ได้แก่ อาการปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เบื่ออาหาร ปวดท้อง ท้องอืด
      - ดูแลทางเดินหายใจให้โล่งโดยการ Suction และจัดท่าให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง 30 องศา เพื่อให้ปอดได้ยืดขยาย และดูแล Mouth care
      - ทำกายภาพบำบัดทรวงอก (chest physiotherapy) เพื่อให้เสมหะขับออกมาได้สะดวก
      - ฟังเสียงปอดเป็นระยะๆ ในขณะที่เหนื่อยหอบ เพื่อประเมินการหดรัดตัวที่ผิดปกติของหลอดลม
      - ดูแลให้ผู้ป่วย On Ventilator PCV mode PEEP 7 FiO2 0.4 RR 14 PI 15
      - สังเกตลักษณะ สี กลิ่นของเสมหะ ส่งตรวจ sputum gram stain, AFB, CIS พร้อมทั้ง ติดตามผลการตรวจ
      - ดูแลรักษาความสะอาดของร่างกายและสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวผู้ป่วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจช้ำ
      - ติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
  - - - วัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมงเพื่อประเมินอาการไม่สุขสบายจากพยาธิสภาพของโรคมะเร็งโคนลิ้น ดูแลเอาใจใส่พร้อมอธิบายให้ทราบถึงสาเหตุการปวดและปลอบว่าอาการจะทุเลาลง
      - จัดท่าผู้ป่วยให้อยู่ในท่าที่สุขสบาย
      - ให้การพยาบาลที่นุ่มนวลเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด เพราะการสัมผัสที่นุ่มนวลช่วยให้การกระทบกระเทือนน้อยลง
      - ดูแลให้ได้รับยาลดปวดตามแผนการรักษาของแพทย์ คือ Paracetamol 5oo mg 1 tab pc prn. q 6 hr. และสังเกตอาการแพ้ยา คือ อุจจาระเป็นเลือด หรือมีสีดำ ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะน้อยลงอย่างไม่มีสาเหตุมีอาการไข้ หนาวสั่น ปวดที่หลังส่วนล่างอย่างรุนแรง มีจุดแดงเล็ก ๆ ขึ้นตามผิวหนังมีผื่นคัน เจ็บคอ และ Morphine 3 mg IV stat และสังเกตอาการแพ้ยา คือ ตามัว รวมทั้งมองสีผิดเพี้ยน เกิดอาการแสบร้อน คัน ชา หรือเป็นเหน็บชา รู้สึกอึดอัดหรือเจ็บหน้าอก สับสนมึนงงมากผิดปกติ หรือประสาทหลอน ปัสสาวะน้อยลงเป็นลมเมื่อลุกขึ้นยืนกะทันหัน ชีพจรเต้นเร็ว ช้า หรือเต้นผิดปกติ
      - จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบสงบ อากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อลดสิ่งกระตุ้นการปวด
      - ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ
- - - - Tar, Hydrogen Dioxide, Nitrogen Dioxide, Ammonia, Nicotine, Acrolein etc.
        
        ทำลายเนื้อเยื่อในระบบทางเดินอาหาร
        
        เกิดการระคายเคืองเยื่อบุในช่องปากและลำคอ
        
        เกิดแผลเรื้อรัง
        
        :<3: เกิดเซลล์มะเร็ง :<3:
        (ในผู้ป่วยรายนี้เกิดบริเวณโคนลิ้นในระยะแรก)
        
        จับตัวอยู่ที่ปอด รวมตัวกับฝุ่นละอองที่สูดเข้าไป :
        
        จับตัวอยู่ที่ปอด รวมตัวกับฝุ่นละอองที่สูดเข้าไป
        
        ทำลายเนื้อเยื่อในระบบทางเดินหายใจ
        
        เนื้อเยื่อปอดและเยื่อบุหลอดลมไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ
        
        ปอดขยายตัวลดลง
        
        1 more item...