Coggle requires JavaScript to display documents.
ผู้ป่วยเพศ ชาย อายุ 74 ปี 10 เดือน เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ ระดับการศึกษา ป.4 สถานภาพ คู่ อาชีพ ทำนา รายได้ 7,000 บาท/เดือน
การอักเสบอย่างเฉียบพลันของเนื้อปอด ซึ่งประกอบไปด้วยถุงลม เนื้อปอดที่คั่นอยู่ระหว่างผนังถุงลม และหลอคเลือดฝอยที่อยู่ใกล้ผนังถุงลม การอักเสบของเนื้อปอดเกิดจาก 2 กลุ่มหลัก คือ อักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อซึ่งอาจเป็นแบคทีเรีย ไวรัส mycoplasma และเชื้อรา มักพบในคนที่ไม่เข็งแรง (มีภูมิต้านทานโรคต่ำ) เช่น เด็กคลอดก่อนกำหนด คนที่เป็นโรคทางปอคเรื้อรัง เป็นต้น
อาการไข้ที่ร่างกายมีอุณหภูมิมากกว่า 37.2 C ในช่วงเช้าและอุณหภูมิ 37.7 ในช่วงเย็น ซึ่งอาการไข้ที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลา 2 week ซึ่งอาการไข้จะแสดงอาการให้เห็นและสามารถทำการวินิจฉัยได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการไข้ อาการไข้ชนิดนี้จะเกิดร่วมกับอาการของระบบอื่นเสมอ เช่น อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร คลื่นไส้หรืออาเจียน เป็นต้น
ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวภาวะหัวใจล้มเหลว และโรคไตเรื้อรัง ผู้ป่วยไม่มียาที่ใช้เป็นประจำ และเคยได้รับการผ่าตัด ไส้เลื่อน ผู้ป่วยไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มแอลกอฮอล์สมาชิกภายในครอบครัวสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีประวัติการติดต่อโรคทางเพศสัมพันธ์
ADPKD เป็นโรคที่มีถุงน้ำเกิดขึ้นในไตทั้ง 2 ข้างจำนวนมากทำให้ไตมีขนาดใหญ่
ADPKD เป็นสาเหตุของภาวะไตเรื้อรังระยะสุดท้ายถึงร้อยละ 2-9 สำหรับพยาธิกำเนิดโรคยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
ระยะแรกถุงน้ำในไตยังทำงานได้ ต่อมาเมื่อมีการขยายขนาดถุงน้ำขึ้นเรื่อย ๆ จนเบียดเนื้อไต และเกิดการทำงานของไตลดลงในที่สุด
สรุปการเกิดโรคจาก 3 กลไกหลัก คือ ความผิดปกติของ epithelial cell proliferation, ความผิดปกติของ matrix remodeling และการเปลี่ยนแปลงของ Na/K - ATPase ของ renal cyst epithelial cell
ถุงน้ำที่เกิดในไต คือ renal tubule ที่มีการขยายใหญ่ขึ้น ถุงน้ำที่เกิดขึ้นอาจเกิดที่ proximal tubule หรือdistal tubule ก็ได้
การรักษาเน้นไปที่เรื่องของความดันสูง และป้องกันภาวะแทรกซ้อนเช่น นิ่วในไต การติดเชื้อท่อทางเดินปัสสาวะ ไตวาย กินยาจำพวกแอสไพริน พาราเซตามอลเพื่อลดอาการปวดหลัง ยาปฏิชีวนะรักษาท่อปัสสาวะอักเสบ การเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตเช่น คุมเรื่องอาหารการกิน ออกกำลังกาย กินยาลดความดันเมื่อความดันสูง สำหรับไตวายระยสุดท้าย การฟอกไตทางหน้าท้องหรือปลูกถ่ายไตอาจจำเป็นต้องทำการรักษา
ผู้ป่วยเพศชาย อายุ 74 ปี 10 เดือน รับไว้ในโรงพยาบาล วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี E4M6V5 มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดท้องบริเวณด้านขวา การหายใจสม่ำเสมอ สื่อสารและตอบคําถามได้ตามปกติ สีหน้ามีความวิตกกังวล สามารถช่วยเหลือตนเองได้
Vital sign : Blood pressure 139/70 mmHg , Pulse 92/min , Respiratory Rate 22/min, Temperature 38.2 องศาเซลเซียส
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบ Hb 9.9 g/dl, HCT(Tube) 31.9%, WBC Count 12.01 10^3/ul, RBC Count 3.51 10^6/ul, Neutrophil 80.6%, Lymphocyte 11.8%
ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี E4M6V5 มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดท้องบริเวณด้านขวา การหายใจสม่ำเสมอ สื่อสารและตอบคําถามได้ตามปกติ สีหน้ามีความวิตกกังวล สามารถช่วยเหลือตนเองได้ Vital sign: Blood pressure 139/70 mmHg, Pulse 92/min, Respiratory Rate 22/min, Temperature 38.2 องศาเซลเซียส
ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี E4M6V5 มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดท้องบริเวณด้านขวา การหายใจสม่ำเสมอ สื่อสารและตอบคําถามได้ตามปกติ สีหน้ามีความวิตกกังวล สามารถช่วยเหลือตนเองได้ Vital sign: Blood pressure 126/72 mmHg, Pulse 80/min, Respiratory Rate 22/min, Temperature 39.5 องศาเซลเซียส