Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรู้เบื่องต้นของลีลาศ - Coggle Diagram
ความรู้เบื่องต้นของลีลาศ
ความหมายของลีลาศ
ลีลาศ หมายถึง ท่าทางอันงาม, การเยื้องกราย,
ความสง่า,การเล่น, การสนุกรื่นเริง
ประเภทของลีลาศ
ลีลาศแบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ
1 การลีลาศที่เป็นจังหวะมาตรฐานสากล
1) วอลซ์ (Waltz)
2) แทงโก้ (Tango
3) สโลว์ ฟอกซ์ทรอท (Slow Foxtrot)
4) เวียนนี วอลซ์ (Viennese Waltz)
5) ควิกสเต็ป (Quick Step)
การลีลาศแบบละติน
3) คิวบิน รัมบ้า (Cuban Rumba)
4) พาโซโดเบล (Paso Doble)
2) แซมบ้า (Samba)
5) จังหวะไจว์ฟ (Jive)
1) ช่า ช่า ช่า (Cha Cha Cha)
การลีลาศแบบไม่เป็นมาตรฐานหรือการลีลาศเพื่อเข้าสังคม
2) แบบอเมริกันสไตล์เป็นการเต้นแบบบอลรูมและ ละติน
3) แบบโอลด์ไทม์แดนซ์
1) แบบละติน
ประวัติลีลาศในแตาละยุคและในประเทศไทย
ยุคก่อนประวัติศาสตร์
ได้ถูกค้นพบจากภาพวาดบนผนังถ้าในแอฟริกาและยุโรปตอนใต้
ศิลปะในการเต้นรำได้ถูกวาดมาไม่น้อยกว่า 20,000 ปี
เป็นการบวงสรวงเทพเจ้าเทพธิดา หรือจากการล่าสัตว์มาได้
2.ยุคโบราณ
การเต้นรำได้ถูกจัดขึ้นในพิธีศพ ขบวนแห่และพิธีกรรมทางศาสนา ชาว อียิปต์โบราณ
การเต้นราทางศาสนา เป็นส่วนสาคัญในการกาเนิดการละครของกรีก ระหว่าง 500 ปี
ยุคกลาง
ป็นยุคที่ค่อนข้างสับสนวุ่นวาย สังคมไม่สงบสุข โบสถ์มีอิธิพลต่อการเต้นรำของยุโรปมาก
ในยุคกลางยุโรปยังมีการเฉลิมฉลองการแต่งงาน วันหยุด และประเพณีต่างๆตามโอกาสด้วย “ การเต้นราพื้นเมือง”
การเต้นราแบบวงกลมของบรรดาขุนนางซึ่งเรียกว่า “Carol” เป็นการเต้นรำที่ค่อนข้างช้า ในช่วงปลายยุคกลาง การเต้นราถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของขบวนแห่ต่างๆหรือในงานเลี้ยงที่มีเกียรติ
ยุคฟื้นฟู
เป็นยุคที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ยุคฟื้นฟูเริ่มในอิตาลี เมื่อปี ค.ศ. 300
ขุนนางที่มั่นคงในเมืองต่างๆ จะจ้างครูเต้นราอาชีพมาสอนในคฤหาสน์ของตนเรียกการเต้นรำ
5.ยุคโรแมนติค
เป็นยุคที่มีการปฏิรูปเรื่องบัลเล่ย์ในสมัยนี้นักเต้นรามีความเป็นอิสระเสรีในการเคลื่อนไหวและการแสดงออกของบุคคล
ยุคปัจจุบัน
จังหวะวอลซ์จากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งเกิดขึ้นในปลายศตวรรษที่ 17 แต่มิได้ เผยแพร่ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1816
การเต้นราบางอย่างกลับมาเป็นที่นิยมอีก อาทิ โพลก้า จากโบฮิเมีย ซึ่งเป็นที่นิยมมากในเวียนนา ปารีส และลอนดอน จังหวะมาเซอก้า( Mazuka) จากโปแลนด์ก็เป็นที่นิยมมากในยุโรปตะวันตก
การลีลาศในประเทศไทย
การลีลาศในประเทศไทยเกิดขึ้นเมื่อใดนั้นไม่มีหลักฐานยืนยันได้แน่ชัด
บุคคลที่ได้รับการยกย่องให้เป็นนักลีลาศคนแรกก็คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ในสมัยรัชกาลที่ 6 ทุกๆ ปีในงานเฉลิมพระชนมพรรษาก็มักจะจัดให้มีการเต้นรำกันใน พระบรมมหาราชวัง
ในสมัยรัชกาลที่ 7 การเต้นราได้รับความนิยมมากขึ้นได้เปิดให้มีการเต้นกันตามสถานที่ต่างๆกันมาก เช่น ที่ห้อยเทียนเหลา เก้าชั้น โลลิต้า และคาร์เธ่ย์
ในสมัยรัชกาลที่ 5 การเต้นรายังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก คงมีแต่เจ้านายในวังที่เต้นกัน ส่วนใหญ่มักจะเต้นจังหวะวอลซ์เพียงอย่างเดียว
ประโยชน์และความสำคัญของการเต้นลีลาศ
ช่วยเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน
ลดความดันโลหิต
เพิ่มไขมันดี (HDL) ลดไขมันร้าย (LDL) ลดไตรกลีเซอไรด์
เพิ่มสมรรถภาพการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด
เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ
ลดความเสี่ยงในการหกล้มลด
น้ำหนักลด รูปร่างท่าทางสง่างาม
ห่างไกลซึมเศร้า สร้างสัมพันธ์อันดีในครอบครัว
พบเจอเพื่อนใหม่ มีสังคมใหญ่กว่าเดิม