Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การคุมกำเนิด - Coggle Diagram
การคุมกำเนิด
ยาเม็ดคุมกำเนิด
- ชนิดฮอร์โมนเดียว (minipill or microdose of progestogen only)
ประกอบด้วย โปรเจสเตอโรนขนาดน้อยๆ เท่ากันทุกเม็ด ไม่มีเอสโตรเจน มีจำนวน 35 เม็ด เช่น Exluton ประกอบด้วย lynestrenol 0.5 mg
- ชนิดฮอร์โมนรวม (combined pill)
มีส่วนประกอบของเอสโตรเจน (ethyl estradiol (EE)) และโปรเจสเตอโรน (levonorgestrel) รวมกันในแต่ละเม็ด ในขนาดคงที่ มีชนิด 21 เม็ดและ 28 เม็ด โดย 7 เม็ดหลังเป็นวิตามินและหรือธาตุเหล็ก
-
ข้อดีของยาเม็ดคุมกำเนิด
-
- ประจำเดือนมาสม่ำเสมอและแน่นอน ถ้ารับประทานถูกต้อง
- ลดการเกิดเนื้องอกและมะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์ต่างๆ เช่น เนื้องอกเต้านม มะเร็งเต้านมและมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
- ชนิดฮอร์โมนเดียว: ไม่ลดน้ำนม, มีประโยชน์ในผู้ที่ไม่สามารถทน
-
-
-
-
วิธีรับประทานยา
- รับประทานเม็ดแรกในวันแรกของการมีประจำเดือน หรือภายใน 5 วันแรกเมื่อเริ่มมี
ประจำเดือน หลังแท้งทันที หรือหลังแท้ง 2 สัปดาห์ โดยต้องรับประทานวันละ 1 เม็ด ในเวลาเดียวกันทุกวัน แต่ถ้ารับประทานก่อนนอนจะช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้
- รับประทานยาเรียงตามลูกศรจนหมด ชนิด 21 เม็ดจะมีระดูหลังหยุดยา 3 วัน และชนิด 28 เม็ด เมื่อหยุดยาให้เริ่มชุดใหม่ติดต่อกันได้เลย
- กรณีลืมรับประทานยา ต้องรับประทานยาเม็ดนั้นทันทีที่นึกขึ้นได้ แล้วรับประทานยาเม็ด ต่อไป ตามเวลาปกติ
- ถ้าลืม 2 เม็ด ให้รับประทานเพิ่ม 1 เม็ด หลังอาหารเช้า 2 วัน และรับประทานตามปกติ เหมือนเดิม โดยคุมวิธีอื่นร่วมด้วย
- ถ้าลืม 3 เม็ด ควรหยุดยาให้มีรอบระดูเร็วขึ้น แล้วเริ่มรับประทานยาชุดใหม่
- สาหรับผู้ใช้ยาคุมกาเนิดไม่ถูกต้อง จะพบอัตราการตั้งครรภ์สูง
ถุงยางอนามัย
-
-
ข้อดี
-
-
- ช่วยป้องกันและลดอัตราเสี่ยงจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์
ข้อเสีย
- ใช้ได้ครั้งเดียวหลังมีเพศสัมพันธ์
- ถ้าถุงยางอนามัยขาดหรือแตก ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์หรือโรคติดต่อเพศสัมพันธ์ได้
•อาจเสียจังหวะการมีเพศสัมพันธ์ หลังจากหลั่งน้าอสุจิแล้วต้องเอาถุงยางอนามัยออกใน ขณะที่องคชาตยังแข็งตัวอยู่
วิธีการสวมถุงยางอนามัย
- ให้ฉีกซองถุงยางอย่างระมัดระวัง
- สวมถุงยางขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัว ก่อนจะสัมผัสช่องคลอดและให้บีบปลายถุงยาง เพื่อไล่อากาศขณะที่สวม ไม่ให้มีฟองอากาศที่ปลาย
- ถ้าเป็นถุงยางชนิดปลายมนที่ไม่มีกระเปาะ ให้เหลือปลายถุงยางไว้ เพื่อรองรับน้าเชื้อ และช่วยไม่ให้ถุงยางแตก
- ในการสวม ให้ขอบม้วนของถุงยางอยู่ด้านนอก ถ้าอวัยวะเพศไม่เคยถูกขลิบ ให้ดึงหนัง หุ้มขึ้น แล้วรูดขอบถุงยางขึ้นไปจนสุด คลุมตลอดอวัยวะเพศ การรูดขอบม้วนขึ้นไปจะทาได้ง่ายไม่ต้องดึง
- หลังจากที่หลั่งน้าเชื้อแล้ว ให้จับขอบถุงยางที่โคนอวัยวะเพศ แล้วค่อยๆ รูดลงและนาไป ทิ้ง การจับขอบถุงยางเพื่อมิให้ขอบถุงยางหลุดตอนดึงออก
- เอาถุงยางออกก่อนที่อวัยวะเพศจะอ่อนตัว และระวังไม่ให้น้าเชื้อหกออกมา
ข้อควรระวัง
- ต้องตรวจดูถุงยางว่าอยู่ในสภาพที่ดี ได้แก่ ไม่หมดอายุ ไม่มีรอยฉีกขาดหรือรอยชารุด สี ของซองต้องไม่จืดจาง ไม่แห้งกรอบหรือเหนียวเกินไป
- ต้องเก็บไว้ในที่เย็นไม่ถูกแดด พ้นจากความร้อนและความชื้น
- หยิบจับถุงยางด้วยความระมัดระวัง อย่าให้โดนเล็บ แหวน หรือของมีคม
- ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น หากต้องการใช้ควรเป็นสารหล่อลื่นที่มีส่วนผสมของน้ำ(ไม่ใช่น้ำมัน) เพราะไม่ทำให้ถุงยางลาเท็กซ์ชารุดหรือเสื่อมสภาพได้
- ทันทีที่รู้สึกว่าถุงยางแตก ให้ถอดออก เปลี่ยนใส่อันใหม่ทันที
ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน
-
-
การรับประทาน
รับประทานยา 1 เม็ดทันที หรือ
ภายใน 72 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์ และรับประทานอีก 1 เม็ด หลังจากรับประทานยา ครั้งแรกแล้ว 12 ชั่วโมง บางการศึกษาพบว่าสามารถรับประทานพร้อมกันทั้ง 2 เม็ด
ยาเม็ดคุมกาเนิดฉุกเฉินชนิดฮอร์โมนรวมที่มี EE 50 mcgให้รับประทาน ยา 2 เม็ดทันทีหรือภายใน 72 ชั่วโมงภายหลังการมีเพศสัมพันธ์ และรับประทานยาอีก 2 เม็ดหลังจาก รับประทานยาครั้งแรกแล้ว 12 ชั่วโมง
-
จากงานวิจัย The case for investing in the male condom ได้บอกไว้ว่าการใช้ถุงยางอนามัยมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจได้ถึง 98% สามารถป้องกันการติดเชื้อ HIV ได้ จากความชุกของการติดเชื้อ HIV ลดลงจาก 89% เป็น 32% และยังสามารถป้องกันการติดเชื้อ STI ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หลายชนิด รวมทั้งการติดเชื้อหนองในเทียม โรคหนองใน ไวรัสเริมชนิดที่ 2 และซิฟิลิส